“เฉลิม” อ้างถูกดักฟังโทรศัพท์ล้วงข้อมูลซักฟอก ถือดีก้าวร้าว “ชัย ชิดชอบ” ดื้อเหมือนลา คาดคงไม่ให้เลื่อนวันอภิปราย แถมฉุนคอลัมนิสต์ไม่ให้น้ำหนักข้อมูลฝ่ายค้านเก็งข้อสอบซักฟอกผิด โอ่มีข้อมูลรัฐบาลโกงเงินในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่เงินบริจาคเข้าพรรคแค่ 285 ล้าน หลงตัวเชื่อจะถูกฟ้องหลังซักฟอก 5 คดี วอนรัฐเลิกข่มขู่ข้าราชการให้ข้อมูลฝ่ายค้าน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาเป็นวันที่ 19-20 มี.ค.ว่า ไม่ขัดข้อง วิปฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ทบทวนการกำหนดวันอภิปราย แต่เชื่อว่าประธานสภาคงไม่เลื่อนตามที่ฝ่ายค้านร้องขอ เพราะตนรู้นิสัยนายชัยดี เหมือนเอาลาขึ้นรถ คือถ้าเราเดินหน้ามันจะถอยหลัง แต่ถ้าเราถอยหลังมันจะเดินหน้า อีกทั้งเขาบรรจุระเบียบวาระการประชุมไปแล้ว ซึ่งที่นายชัยทำนั้นไม่ผิด เพราะไม่มีการเขียนกำหนดไว้ ถ้าประธานถามรัฐบาลแล้วรัฐบาลบอกว่าพร้อมก็บรรจุได้ แต่บังเอิญสิ่งที่นายชัยทำนั้นไม่มีใครเคยทำมาก่อน สำหรับเวลาการอภิปรายที่รัฐบาลกำหนดไว้ 2 วันนั้น ตนคิดว่าเท่านี้ก็เพียงพอที่จะอภิปรายข้อมูลต่างๆได้ครอบคลุม
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ขอความกรุณารัฐบาลว่า อย่าใช้อำนาจไปบีบคั้นข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย พฤติกรรมที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในวันนี้และเมื่อวานขอให้หยุดเสีย อย่าใช้อิทธิพลทางการเมืองเข้ามาคุกคาม เพราะไม่แน่ใจว่ามีการดักฟังโทรศัพท์จริงหรือไม่ แต่โทรศัพท์ของตนนั้นโดนดักฟังแน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการข่มขู่คุกคามตัดตอนข้อมูลแต่เชื่อว่าข้าราชการจะไม่ยอม
สำหรับญัตติของพรรคเพื่อไทยที่ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้แล้วบรรดาคอลัมนิสต์ นักวิเคราะห์ข่าวออกมาโจมตีว่าไม่มีน้ำหนักไม่ชัดเจนนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อยากย้อนถามว่าไม่เข้าใจหรือว่าการเขียนญัตติเขาเขียนกันกว้างๆ ไม่ลงรายละเอียด ส่วนตัวจะพยายามพูดพาดพิงถึงคนนอกให้น้อยที่สุด คาดว่าตนจะใช้เวลาอภิปรายประมาณ 2 ชั่วโมง โดยคิดว่าหลังการอภิปรายเสร็จสิ้นตนจะถูกฟ้อง 5 คดี ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และหลังการอภิปรายตนจะเอาเอกสารมาขึ้นบอร์ด ชี้เอกสารต่อสื่อมวลชนและตอบคำถามผู้สื่อข่าวอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็จะหาสถานที่จัดนิทรรศการขึ้นมา
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ที่สื่อพยายามตีข่าวว่าจะอภิปรายเรื่องเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้ง ส.ส.ประชาธิปัตย์ออกมาท้าต่างๆ นานานั้น รู้หรือว่าตนจะพูดเรื่องอะไร เก็งข้อสอบผิดหมด มันไม่ใช่เงินบริจาค แต่เป็นเงินที่ปล้นออกมาจากตลาดหลักทรัพย์ คดโกงประชาชนเอาเงินมาผลาญ ทั้งนี้ ถ้าตนอภิปรายไปแล้วไม่เข้าท่าก็ขอลาออกจากประธาน ส.ส. แต่ที่ข้องใจก็คือข่าวที่ว่าจะให้ตนเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น ตนพูดไปแล้วว่าไม่เอา ถ้าใครเสนอมาก็จะถอนตัว ขอเป็น ส.ส.ธรรมดาพอแล้ว วันนี้อายุ 62 ปีแล้ว 65 ปี อาจจะเลิกเล่นการเมือง คงไม่คิดเล่นการเมืองไปจนตาย