นับถอยหลัง ศึกซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่จะระเบิดขึ้นเร็วการกำหนดเดิม ในวันที่ 19-20 มี.ค.นี้
“กระทรวงมหาดไทย”กลายเป็นกระทรวงเดียว ที่มีรัฐมนตรีถูกยื่นซักฟอก 2 คนจาก 1 พรรค
ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย-หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยและรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
บนการคาดการณ์ ระบุได้ว่าอาจจะไม่ใช่มีแค่สองคนคือชวรัตน์-บุญจง เท่านั้นที่จะโดนซักฟอก แต่น่าจะมี 4 คนในมหาดไทยและภูมิใจไทย
อีกสองคนก็คือสองพี่น้อง “ชิดชอบ”นั่นก็คือเนวิน-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่แม้ทั้งสองคนจะติดโทษแบน 111 จากอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
ทว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว เป็นที่รู้กันว่าเนวิน-ศักดิ์สยาม เข้ามาคุมและมีบทบาทในกระทรวงมหาดไทยมาแล้วสามรัฐบาลติดกัน
คือรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช –สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ในปัจจุบัน
โดยเฉพาะกับรัฐบาลชุดนี้ บารมีของสองพี่น้อง “ชิดชอบ”ในกระทรวงมหาดไทยนั้น แผ่ขยายเข้าไปควบคุมสั่งการเกือบทุกกรม ทุกหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการทุกระดับตั้งแต่ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด จนถึงนายอำเภอ
จึงเชื่อได้ว่า การอภิปรายครั้งนี้ชื่อของ “เนวิน-ศักดิ์สยาม”จะถูกเอ่ยถึงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายครั้งอย่างแน่นอน โดยที่เนวิน-ศักดิ์สยาม คงได้แต่กัดฟันกรอกๆเพราะตอบโต้ชี้แจงอะไรไม่ได้ เนื่องจากจะไปขอชี้ในห้องประชุมสภาฯก็ไม่ได้ หรือจะแถลงข่าวตอบโต้ก็คงเข้าเนื้อ
เหตุก็เพราะ “มันคือความจริง”นั่นเอง!
เพราะหลังจากพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งเมื่อธันวาคม 50 แท้ที่จริงแล้ว เวลานั้นกลุ่มเพื่อนเนวินกำลังขึ้นหม้อสุดขีด มีส.ส.ในสังกัดเกือบ 90 คน ทำให้มีอำนาจในการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมยังเริ่มจับมือลับๆ กับสมัคร สุนทรเวช-นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี และ ธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้ง”แก็งค์ ออฟโฟร์”ในรัฐบาลพลังประชาชน โดยใช้โรงแรมพลูแมน ซอยรางน้ำของคิง พาวเวอร์เป็นศูนย์บัญชาการ
วันนั้น โดยข้อเท็จจริงแล้ว เนวินก็ต้องการส่งคนของตัวเองไปนั่งเป็นมท.1 เช่นกัน เพราะเห็นว่าในบรรดามุ้งพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวินมีส.ส.เป็นกอบเป็นกำมากที่สุด แต่ติดอยู่ที่เด็กในสังกัดไม่มีใครอาวุโสและมีบารมีพอที่จะนั่งเป็นมท. 1 ได้ ผนวกกับเก้าอี้นี้มีคนประกาศจองหลายคน โดยเฉพาะเฉลิม อยู่บำรุงและไชยา สะสมทรัพย์ ที่ไปวิ่งล็อบบี้กับทักษิณ ชินวัตร ถึงลอนดอนทั้งคู่
ในที่สุด เฉลิม คว้าเก้านี้ไปโดยหักคอทักษิณและแกนนำทุกกลุ่ม
จึงมีเสียงไม่พอใจจากเนวิน และออกอาการฟาดงวงฟาดงาใส่เฉลิมตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง ผ่านเว็บไซด์ www.hi-thaksin.com ที่เนวินเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยโจมตีว่า เฉลิมได้เก้าอี้ไปแบบ “กินเปล่า”เพราะเข้ามาพลังประชาชนในช่วงท้ายๆ ก่อนเลือกตั้ง แล้วไม่ได้ช่วยอะไรพรรคเลย
นอกจากไปช่วยปราศรัยหาเสียงไม่กี่เวที แต่แอบอ้างความสนิทชิดเชื้อกับสมัครและทักษิณแบบหักคอเพื่อนในพรรค ทั้งที่ ไม่มีส.ส.ในสังกัดแม้แต่คนเดียว แถมไม่ต้องออกแรงใดๆ ทั้งแรงกาย-แรงเงิน
ผิดกับเนวินที่ต้องดูแลส.ส.ในสังกัดจำนวนมาก แต่ไม่มีใครในกลุ่มได้เป็นรัฐมนตรีว่าการแม้แต่คนเดียว
นั่นคือ เสียงเตือนจากเนวินผ่านกระบอกเสียง www.hi-thaksin.com แล้วว่า เขาหมายตาเก้าอี้มท.1 ตาเป็นมัน และจ้องล้มเฉลิมทุกวินาที
ตอนนั้นเฉลิมชะล่าใจ คิดว่าการเป็นนักการเมืองรุ่นน้องสมัครและสนิทกันมานาน จะทำให้เจ้าตัวอยู่ในเก้าอี้นี้แบบไม่มีใครมากล้าแซะ และนั่นคือความประมาทที่นำไปสู่หายนะ!
จนเมื่อสบโอกาสให้มีการปรับครม.เนวินที่ตอนนั้นเป็นทั้งหัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน และคนวางแผนการเมืองให้กับสมัคร-หมอเลี๊ยบ ในแก็งค์ออฟโฟร์ ก็ยื่นคำขาดให้สมัคร
“ปลดเฉลิม”จากมท.1 และทุกตำแหน่งในรัฐบาลโดยไม่มีเงื่อนไข ชนิดเจ้าตัวรู้ล่วงหน้าแค่ 24 ชั่วโมง
ปมเหตุสำคัญ นอกเหนือจากเนวินซึ่งไม่ได้สนิทอะไรกับเฉลิมแถมยังไม่กินเส้นกันมานานแล้ว ยังเป็นเพราะเฉลิมประเมินความเหี้ยมของเนวินน้อยไป เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่เนวินยื่นเงื่อนไขเด็ดขาดขอให้เฉลิมใช้อำนาจรมว.มหาดไทย
สั่งปลด- พงศ์โพยม วาศภูติ
จากเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนเกษียณอายุราชการ เพราะเป็นที่รู้กันว่าพงศ์โพยมนั้น ทักษิณไม่ชอบที่สนิทแนบแน่นกับพลากร สุวรรณรัฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
จึงสั่งผ่านเนวินมายังเฉลิม ให้จัดการกับพงศ์โพยมโดยทันที
รวมถึงให้เปลี่ยนตัวอธิบดีกรมสำคัญๆในมหาดไทยรวดเดียว 5 คนโดยเฉพาะขอให้เด้งปลัดมหาดไทยคนปัจจุบัน วิชัย ศรีขวัญ จากเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครอง(ตำแหน่งในขณะนั้น) และสมพร ใช้บางยาง จากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
เป็น 2 อธิบดีที่ใกล้ชิดกับคมช.และพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
คำสั่งดังกล่าว นอกจากเฉลิมจะไม่ปฏิบัติตามแล้ว ยังมีข่าวว่าเจ้าตัวถึงกับแสดงความไม่พอใจอย่างมาก ที่เนวินเข้ามาสั่งการเรื่องนี้ และแสดงความไม่พอใจที่ทักษิณไว้ใจเนวินมากกว่าเขา ทั้งที่มท.1 คือเฉลิมหาใช่เนวิน เสมือนกับว่าเฉลิมไม่ใช่มท.1 จนทำให้มีข่าวว่าเฉลิมถึงกับบอกคนใกล้ชิดว่า
“ใครเป็นมท.1 กันแน่ว่ะ!”
เมื่อเฉลิมแข็งข้อ หนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากไม่ยอมปลดปลัดมหาดไทย-เด้งอธิบดีอย่างที่ต้องการ แถมในการแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี เฉลิมก็ไม่ยอมผลักดันคนของตัวเองให้ไปรับตำแหน่งผู้ว่าฯในพื้นที่ซึ่งเนวินต้องการ
แถมพยายามขัดขวางโครงการต่างๆ ที่ สุพล ฟองงาม อดีตมท.2 กลุ่มเพื่อนเนวินพยายามผลักดันอยู่โดยเฉพาะงบอุดหนุนโครงการเฉพาะกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งที่สุพลกำกับดูแลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
การแข็งข้อของเฉลิมทั้งหมด ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ถูกรายงานตรงไปถึงเนวินแบบไม่หลุดไม่หล่น เพราะเนวินได้ส่งน้องชาย ศักดิ์สยามมานั่งเป็น ประธานคณะทำงานสุพล ฟองงาม เพื่อควบคุมสุพลอีกหนึ่งทอด และเรียนรู้งานในกระทรวงมหาดไทยทั้งหมดโดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ
การมีน้องชายนั่งเป็นใหญ่ในมหาดไทย แม้จะติดโทษแบนทางการเมือง จึงทำให้เนวินรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างในมหาดไทย และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม
เนวินจึงไม่ได้แค่ให้สมัครปรับเฉลิมจากเก้าอี้มท. 1 แต่เขาทำรุนแรงกว่านั้น ด้วยการขอให้เฉลิมกลับไปนั่งเลี้ยงหลานที่บ้าน แบบไม่มีตำแหน่งใดๆในรัฐบาล
ก่อนจะส่ง “บิ๊กโก”พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผบ.ตร.มานั่งเป็นมท.1 โดยมีร่างเงาของเนวิน ทาบผ่านอยู่ข้างหลังทุกย่างก้าว!
โปรดติดตามอีกตอนวันพรุ่งนี้ ที่จะเปิดโปงการเข้าไปบงการในกระทรวงมหาดไทย ศูนย์กลางอำนาจการบริการราชการแผ่นดิน ของ2พี่น้องชิดชอบ
โปรย “ปมเหตุสำคัญ นอกเหนือจากเนวินซึ่งไม่ได้สนิทอะไรกับเฉลิมแถมยังไม่กินเส้นกันมานานแล้ว ยังเป็นเพราะเฉลิมประเมินความเหี้ยมของเนวินน้อยไป เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่เนวินยื่นเงื่อนไขเด็ดขาดขอให้เฉลิมใช้อำนาจรมว.มหาดไทย
สั่งปลด- พงศ์โพยม วาศภูติ
จากเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนเกษียณอายุราชการ เพราะเป็นที่รู้กันว่าพงศ์โพยมนั้น ทักษิณไม่ชอบที่สนิทแนบแน่นกับพลากร สุวรรณรัฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
จึงสั่งผ่านเนวินมายังเฉลิม ให้จัดการกับพงศ์โพยมโดยทันที “
“กระทรวงมหาดไทย”กลายเป็นกระทรวงเดียว ที่มีรัฐมนตรีถูกยื่นซักฟอก 2 คนจาก 1 พรรค
ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย-หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยและรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
บนการคาดการณ์ ระบุได้ว่าอาจจะไม่ใช่มีแค่สองคนคือชวรัตน์-บุญจง เท่านั้นที่จะโดนซักฟอก แต่น่าจะมี 4 คนในมหาดไทยและภูมิใจไทย
อีกสองคนก็คือสองพี่น้อง “ชิดชอบ”นั่นก็คือเนวิน-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่แม้ทั้งสองคนจะติดโทษแบน 111 จากอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
ทว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว เป็นที่รู้กันว่าเนวิน-ศักดิ์สยาม เข้ามาคุมและมีบทบาทในกระทรวงมหาดไทยมาแล้วสามรัฐบาลติดกัน
คือรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช –สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ในปัจจุบัน
โดยเฉพาะกับรัฐบาลชุดนี้ บารมีของสองพี่น้อง “ชิดชอบ”ในกระทรวงมหาดไทยนั้น แผ่ขยายเข้าไปควบคุมสั่งการเกือบทุกกรม ทุกหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการทุกระดับตั้งแต่ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด จนถึงนายอำเภอ
จึงเชื่อได้ว่า การอภิปรายครั้งนี้ชื่อของ “เนวิน-ศักดิ์สยาม”จะถูกเอ่ยถึงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายครั้งอย่างแน่นอน โดยที่เนวิน-ศักดิ์สยาม คงได้แต่กัดฟันกรอกๆเพราะตอบโต้ชี้แจงอะไรไม่ได้ เนื่องจากจะไปขอชี้ในห้องประชุมสภาฯก็ไม่ได้ หรือจะแถลงข่าวตอบโต้ก็คงเข้าเนื้อ
เหตุก็เพราะ “มันคือความจริง”นั่นเอง!
เพราะหลังจากพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งเมื่อธันวาคม 50 แท้ที่จริงแล้ว เวลานั้นกลุ่มเพื่อนเนวินกำลังขึ้นหม้อสุดขีด มีส.ส.ในสังกัดเกือบ 90 คน ทำให้มีอำนาจในการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมยังเริ่มจับมือลับๆ กับสมัคร สุนทรเวช-นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี และ ธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้ง”แก็งค์ ออฟโฟร์”ในรัฐบาลพลังประชาชน โดยใช้โรงแรมพลูแมน ซอยรางน้ำของคิง พาวเวอร์เป็นศูนย์บัญชาการ
วันนั้น โดยข้อเท็จจริงแล้ว เนวินก็ต้องการส่งคนของตัวเองไปนั่งเป็นมท.1 เช่นกัน เพราะเห็นว่าในบรรดามุ้งพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวินมีส.ส.เป็นกอบเป็นกำมากที่สุด แต่ติดอยู่ที่เด็กในสังกัดไม่มีใครอาวุโสและมีบารมีพอที่จะนั่งเป็นมท. 1 ได้ ผนวกกับเก้าอี้นี้มีคนประกาศจองหลายคน โดยเฉพาะเฉลิม อยู่บำรุงและไชยา สะสมทรัพย์ ที่ไปวิ่งล็อบบี้กับทักษิณ ชินวัตร ถึงลอนดอนทั้งคู่
ในที่สุด เฉลิม คว้าเก้านี้ไปโดยหักคอทักษิณและแกนนำทุกกลุ่ม
จึงมีเสียงไม่พอใจจากเนวิน และออกอาการฟาดงวงฟาดงาใส่เฉลิมตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง ผ่านเว็บไซด์ www.hi-thaksin.com ที่เนวินเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยโจมตีว่า เฉลิมได้เก้าอี้ไปแบบ “กินเปล่า”เพราะเข้ามาพลังประชาชนในช่วงท้ายๆ ก่อนเลือกตั้ง แล้วไม่ได้ช่วยอะไรพรรคเลย
นอกจากไปช่วยปราศรัยหาเสียงไม่กี่เวที แต่แอบอ้างความสนิทชิดเชื้อกับสมัครและทักษิณแบบหักคอเพื่อนในพรรค ทั้งที่ ไม่มีส.ส.ในสังกัดแม้แต่คนเดียว แถมไม่ต้องออกแรงใดๆ ทั้งแรงกาย-แรงเงิน
ผิดกับเนวินที่ต้องดูแลส.ส.ในสังกัดจำนวนมาก แต่ไม่มีใครในกลุ่มได้เป็นรัฐมนตรีว่าการแม้แต่คนเดียว
นั่นคือ เสียงเตือนจากเนวินผ่านกระบอกเสียง www.hi-thaksin.com แล้วว่า เขาหมายตาเก้าอี้มท.1 ตาเป็นมัน และจ้องล้มเฉลิมทุกวินาที
ตอนนั้นเฉลิมชะล่าใจ คิดว่าการเป็นนักการเมืองรุ่นน้องสมัครและสนิทกันมานาน จะทำให้เจ้าตัวอยู่ในเก้าอี้นี้แบบไม่มีใครมากล้าแซะ และนั่นคือความประมาทที่นำไปสู่หายนะ!
จนเมื่อสบโอกาสให้มีการปรับครม.เนวินที่ตอนนั้นเป็นทั้งหัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน และคนวางแผนการเมืองให้กับสมัคร-หมอเลี๊ยบ ในแก็งค์ออฟโฟร์ ก็ยื่นคำขาดให้สมัคร
“ปลดเฉลิม”จากมท.1 และทุกตำแหน่งในรัฐบาลโดยไม่มีเงื่อนไข ชนิดเจ้าตัวรู้ล่วงหน้าแค่ 24 ชั่วโมง
ปมเหตุสำคัญ นอกเหนือจากเนวินซึ่งไม่ได้สนิทอะไรกับเฉลิมแถมยังไม่กินเส้นกันมานานแล้ว ยังเป็นเพราะเฉลิมประเมินความเหี้ยมของเนวินน้อยไป เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่เนวินยื่นเงื่อนไขเด็ดขาดขอให้เฉลิมใช้อำนาจรมว.มหาดไทย
สั่งปลด- พงศ์โพยม วาศภูติ
จากเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนเกษียณอายุราชการ เพราะเป็นที่รู้กันว่าพงศ์โพยมนั้น ทักษิณไม่ชอบที่สนิทแนบแน่นกับพลากร สุวรรณรัฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
จึงสั่งผ่านเนวินมายังเฉลิม ให้จัดการกับพงศ์โพยมโดยทันที
รวมถึงให้เปลี่ยนตัวอธิบดีกรมสำคัญๆในมหาดไทยรวดเดียว 5 คนโดยเฉพาะขอให้เด้งปลัดมหาดไทยคนปัจจุบัน วิชัย ศรีขวัญ จากเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครอง(ตำแหน่งในขณะนั้น) และสมพร ใช้บางยาง จากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
เป็น 2 อธิบดีที่ใกล้ชิดกับคมช.และพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
คำสั่งดังกล่าว นอกจากเฉลิมจะไม่ปฏิบัติตามแล้ว ยังมีข่าวว่าเจ้าตัวถึงกับแสดงความไม่พอใจอย่างมาก ที่เนวินเข้ามาสั่งการเรื่องนี้ และแสดงความไม่พอใจที่ทักษิณไว้ใจเนวินมากกว่าเขา ทั้งที่มท.1 คือเฉลิมหาใช่เนวิน เสมือนกับว่าเฉลิมไม่ใช่มท.1 จนทำให้มีข่าวว่าเฉลิมถึงกับบอกคนใกล้ชิดว่า
“ใครเป็นมท.1 กันแน่ว่ะ!”
เมื่อเฉลิมแข็งข้อ หนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากไม่ยอมปลดปลัดมหาดไทย-เด้งอธิบดีอย่างที่ต้องการ แถมในการแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี เฉลิมก็ไม่ยอมผลักดันคนของตัวเองให้ไปรับตำแหน่งผู้ว่าฯในพื้นที่ซึ่งเนวินต้องการ
แถมพยายามขัดขวางโครงการต่างๆ ที่ สุพล ฟองงาม อดีตมท.2 กลุ่มเพื่อนเนวินพยายามผลักดันอยู่โดยเฉพาะงบอุดหนุนโครงการเฉพาะกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งที่สุพลกำกับดูแลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
การแข็งข้อของเฉลิมทั้งหมด ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ถูกรายงานตรงไปถึงเนวินแบบไม่หลุดไม่หล่น เพราะเนวินได้ส่งน้องชาย ศักดิ์สยามมานั่งเป็น ประธานคณะทำงานสุพล ฟองงาม เพื่อควบคุมสุพลอีกหนึ่งทอด และเรียนรู้งานในกระทรวงมหาดไทยทั้งหมดโดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ
การมีน้องชายนั่งเป็นใหญ่ในมหาดไทย แม้จะติดโทษแบนทางการเมือง จึงทำให้เนวินรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างในมหาดไทย และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม
เนวินจึงไม่ได้แค่ให้สมัครปรับเฉลิมจากเก้าอี้มท. 1 แต่เขาทำรุนแรงกว่านั้น ด้วยการขอให้เฉลิมกลับไปนั่งเลี้ยงหลานที่บ้าน แบบไม่มีตำแหน่งใดๆในรัฐบาล
ก่อนจะส่ง “บิ๊กโก”พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผบ.ตร.มานั่งเป็นมท.1 โดยมีร่างเงาของเนวิน ทาบผ่านอยู่ข้างหลังทุกย่างก้าว!
โปรดติดตามอีกตอนวันพรุ่งนี้ ที่จะเปิดโปงการเข้าไปบงการในกระทรวงมหาดไทย ศูนย์กลางอำนาจการบริการราชการแผ่นดิน ของ2พี่น้องชิดชอบ
โปรย “ปมเหตุสำคัญ นอกเหนือจากเนวินซึ่งไม่ได้สนิทอะไรกับเฉลิมแถมยังไม่กินเส้นกันมานานแล้ว ยังเป็นเพราะเฉลิมประเมินความเหี้ยมของเนวินน้อยไป เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่เนวินยื่นเงื่อนไขเด็ดขาดขอให้เฉลิมใช้อำนาจรมว.มหาดไทย
สั่งปลด- พงศ์โพยม วาศภูติ
จากเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนเกษียณอายุราชการ เพราะเป็นที่รู้กันว่าพงศ์โพยมนั้น ทักษิณไม่ชอบที่สนิทแนบแน่นกับพลากร สุวรรณรัฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
จึงสั่งผ่านเนวินมายังเฉลิม ให้จัดการกับพงศ์โพยมโดยทันที “