ASTVผู้จัดการรายวัน- กรมวิชาการเกษตรยอมถอยเสนอเรื่องถอนพืชสมุนไพร 13 ชนิดขึ้นบัญชีวัตถุอันตรายแล้ว ด้านคณะกรรมการวัตถุอันตรายยังประชุมไม่ได้เหตุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหมดวาระต้องรอตั้งใหม่ คาดไม่เกินสิ้นเดือนมี.ค.นัดถก ด้านปัญหาสารซัลเฟอร์ภาคเอกชน-กรอ.เล็งยื่นอุทธรณ์โดยตรง
นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรทำหนังสือมายังคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้วว่าขอให้ยกเลิกการประกาศให้พืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ตามพรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ซึ่งออกประกาศเมื่อวันที่ 29 ม.ค.52 และลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 3 ก.พ.52 ซึ่งพืช 13 ชนิดประกอบด้วย สะเดา ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน ขิง ข่า ดาวเรือง สาบเสือ กากเมล็ดชา พริก ขึ้นฉ่าย ชุมเห็ดเทศ ดองดึง และหนอนตายหยาก
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการวัตถุอันตรายยังไม่สามารถนัดประชุมเพื่อพิจารณาถอดถอนเรื่องดังกล่าวได้เนื่องจากบอร์ดฯในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิหมดวาระไปแล้วตั้งแต่ 18 ก.พ.52 ซึ่งนายดำริ สุโขธนัง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกำลังเร่งส่งหนังสือไปยังปลัดกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพรบ.วัตถุอันตรายเพื่อขอความเห็นชอบรายชื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายจากผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเสนอครม.ได้ใน 1-2 สัปดาห์ หากการแต่งตั้งเรียบแล้วจะเรียกประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายทันทีคาดว่าไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนมี.ค.นี้
นายอนุสรณ์กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรในฐานะต้นเรื่องเมื่อเสนอมาทางคณะกรรมการฯคงไม่ขัดข้องที่จะประกาศถอดถอนออก อย่างไรก็ตามกรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นถึงความเหมาะสมในการประกาศให้พืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 หลังจากนี้คงอยู่ที่กรมวิชาการเกษตรว่าจะเสนอให้พืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 อีกครั้งหรือไม่
ส่วนในกรณีของศาลซัลเฟอร์ที่ศาลฯมีคำสั่งให้ชะลอยกเลิกเป็นวัตถุอันตรายนั้น เป็นคำสั่งศาลฉบับเดียวกับกับคำสั่งเกี่ยวกับพืชสมุนไพร เพราะเป็นคำฟ้องเดียวกัน ขณะนี้ผู้ที่ได้รับความเสียหายคือกรมโรงงานอุตสาหกรรม และภาคอุตสาหกรรมกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่ออุทธรณ์ต่อศาล ตรงนี้ผู้เสียหายสามารถอุทธรณ์ได้เลย ไม่ต้องขอความเห็นจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย
นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรทำหนังสือมายังคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้วว่าขอให้ยกเลิกการประกาศให้พืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ตามพรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ซึ่งออกประกาศเมื่อวันที่ 29 ม.ค.52 และลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 3 ก.พ.52 ซึ่งพืช 13 ชนิดประกอบด้วย สะเดา ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน ขิง ข่า ดาวเรือง สาบเสือ กากเมล็ดชา พริก ขึ้นฉ่าย ชุมเห็ดเทศ ดองดึง และหนอนตายหยาก
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการวัตถุอันตรายยังไม่สามารถนัดประชุมเพื่อพิจารณาถอดถอนเรื่องดังกล่าวได้เนื่องจากบอร์ดฯในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิหมดวาระไปแล้วตั้งแต่ 18 ก.พ.52 ซึ่งนายดำริ สุโขธนัง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกำลังเร่งส่งหนังสือไปยังปลัดกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพรบ.วัตถุอันตรายเพื่อขอความเห็นชอบรายชื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายจากผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเสนอครม.ได้ใน 1-2 สัปดาห์ หากการแต่งตั้งเรียบแล้วจะเรียกประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายทันทีคาดว่าไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนมี.ค.นี้
นายอนุสรณ์กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรในฐานะต้นเรื่องเมื่อเสนอมาทางคณะกรรมการฯคงไม่ขัดข้องที่จะประกาศถอดถอนออก อย่างไรก็ตามกรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นถึงความเหมาะสมในการประกาศให้พืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 หลังจากนี้คงอยู่ที่กรมวิชาการเกษตรว่าจะเสนอให้พืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 อีกครั้งหรือไม่
ส่วนในกรณีของศาลซัลเฟอร์ที่ศาลฯมีคำสั่งให้ชะลอยกเลิกเป็นวัตถุอันตรายนั้น เป็นคำสั่งศาลฉบับเดียวกับกับคำสั่งเกี่ยวกับพืชสมุนไพร เพราะเป็นคำฟ้องเดียวกัน ขณะนี้ผู้ที่ได้รับความเสียหายคือกรมโรงงานอุตสาหกรรม และภาคอุตสาหกรรมกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่ออุทธรณ์ต่อศาล ตรงนี้ผู้เสียหายสามารถอุทธรณ์ได้เลย ไม่ต้องขอความเห็นจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย