ASTVผู้จัดการรายวัน – เลโก้ยาหอมไทยเป็นตลาดดาวรุ่งยุทธศาสตร์ 1 ใน 3 ของเอเซีย มั่นใจตลาดยังไปอีกไกล ดีทแฮล์มปรับงบใช้ทำบีโลว์เดอะไลน์มากขึ้น
นายไซม่อน สแตนฟิลด์ บาสท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ภาคพื้น เอเชีย แปซิฟิค บริษัท เลโก้ ประเทศเดนมาร์ก เปิดเผยว่า ไทยถือเป็นตลาดดาวรุ่งและเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของเลโก้ 1 ใน 3 ประเทศที่ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ของตลาดภูมิภาคเอเซียแฟซิฟิค ซึ่งทั้งสามประเทศนี้มียอดขายรวมเกือบ 60% ของภูมิภาคนี้แล้ว
“เราต้องการที่จะโฟกัสตลาด 3 ประเทศนี้ ซึ่งรวมทั้งไทยด้วย เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ผลประกอบการค่อนข้างแข็งแกร่ง ซึ่งมั่นใจว่าตลาดของเล่นยังไปได้อีกไกล แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกจะตกลงก็ตาม แต่ผู้บริโภคก็จะพิจารณาเลือกซื้อของเล่นที่มีแบรนด์และมีคุณภาพมากขึ้น”
ปัจจุบัน เลโก้ มีรายได้จากตลาดเอเชียสัดส่วน 5% ซึ่งยังน้อยมาก ดังนั้นยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3-5 ปีจากนี้ จะผลักดันสัดส่วนยอดรายได้ที่มาจากเอเซียเพิ่มเป็น 10% จากรายได้รวมทั่วโลก โดยมาจาก 3 ตลาดหลักนี้ จากปีที่แล้วยอดขายรวมทั่วโลกของเลโก้มีประมาณ 8,000 ล้านโครน เติบโตขึ้นประมาณ 18.7%
นายชูเกียรติ โตกมลธรรม ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภค-บริโภค บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเลโก้ในไทย กล่าวว่า ปีที่แล้วเลโก้ในไทยเติบโต 20% และปีนี้คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าเชื่อมั่นแบรนด์มากขึ้น อีกทั้งสินค้าจากจีนมีปัญหาเกี่ยวกับมาตรฐานการผลิต ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าคุณภาพมากขึ้นเพราะเลโก้นำเข้ามาจากเดนมาร์กโดยตรง
ปีนี้บริษัทฯตั้งงบการตลาดไว้ที่ 20 ล้านบาท โดยได้หันมาเน้นการใช้งบทางด้านบีโลว์เดอไลน์มากขึ้น ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมทั้งปีต่อเนื่องกันเพื่อผลักดันยอดขาย แต่งบอะโบฟเดอะไลน์ก็ยังมีอยู่เช่นกัน ขณะเดียวกันจะนำสินค้าใหม่เข้ามาเฉลี่ย 40-50 แบบต่อปี ในทุกระดับราคา ทั้งนี้เลโก้ไม่ได้ปรับราคาขึ้นมากมายในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
สำหรับตลาดรวมของเล่นในไทยมีประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าตลาดของเล่นระดับพรีเมียม 1,000 ล้านบาท และเลโกมีแชร์ตลาดกลุ่มนี้ 10% ล่าสุดร่วมมือกับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดการแข่งขันต่อเลโก้ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงทุนการศึกษา 250,000 บาท ซึ่งคาดหวังยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งเลโก้ไม่ได้จัดการแข่งขันนี้มานานเกือบ 10 ปีแล้ว
นายไซม่อน สแตนฟิลด์ บาสท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ภาคพื้น เอเชีย แปซิฟิค บริษัท เลโก้ ประเทศเดนมาร์ก เปิดเผยว่า ไทยถือเป็นตลาดดาวรุ่งและเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของเลโก้ 1 ใน 3 ประเทศที่ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ของตลาดภูมิภาคเอเซียแฟซิฟิค ซึ่งทั้งสามประเทศนี้มียอดขายรวมเกือบ 60% ของภูมิภาคนี้แล้ว
“เราต้องการที่จะโฟกัสตลาด 3 ประเทศนี้ ซึ่งรวมทั้งไทยด้วย เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ผลประกอบการค่อนข้างแข็งแกร่ง ซึ่งมั่นใจว่าตลาดของเล่นยังไปได้อีกไกล แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกจะตกลงก็ตาม แต่ผู้บริโภคก็จะพิจารณาเลือกซื้อของเล่นที่มีแบรนด์และมีคุณภาพมากขึ้น”
ปัจจุบัน เลโก้ มีรายได้จากตลาดเอเชียสัดส่วน 5% ซึ่งยังน้อยมาก ดังนั้นยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3-5 ปีจากนี้ จะผลักดันสัดส่วนยอดรายได้ที่มาจากเอเซียเพิ่มเป็น 10% จากรายได้รวมทั่วโลก โดยมาจาก 3 ตลาดหลักนี้ จากปีที่แล้วยอดขายรวมทั่วโลกของเลโก้มีประมาณ 8,000 ล้านโครน เติบโตขึ้นประมาณ 18.7%
นายชูเกียรติ โตกมลธรรม ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภค-บริโภค บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเลโก้ในไทย กล่าวว่า ปีที่แล้วเลโก้ในไทยเติบโต 20% และปีนี้คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าเชื่อมั่นแบรนด์มากขึ้น อีกทั้งสินค้าจากจีนมีปัญหาเกี่ยวกับมาตรฐานการผลิต ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าคุณภาพมากขึ้นเพราะเลโก้นำเข้ามาจากเดนมาร์กโดยตรง
ปีนี้บริษัทฯตั้งงบการตลาดไว้ที่ 20 ล้านบาท โดยได้หันมาเน้นการใช้งบทางด้านบีโลว์เดอไลน์มากขึ้น ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมทั้งปีต่อเนื่องกันเพื่อผลักดันยอดขาย แต่งบอะโบฟเดอะไลน์ก็ยังมีอยู่เช่นกัน ขณะเดียวกันจะนำสินค้าใหม่เข้ามาเฉลี่ย 40-50 แบบต่อปี ในทุกระดับราคา ทั้งนี้เลโก้ไม่ได้ปรับราคาขึ้นมากมายในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
สำหรับตลาดรวมของเล่นในไทยมีประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าตลาดของเล่นระดับพรีเมียม 1,000 ล้านบาท และเลโกมีแชร์ตลาดกลุ่มนี้ 10% ล่าสุดร่วมมือกับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดการแข่งขันต่อเลโก้ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงทุนการศึกษา 250,000 บาท ซึ่งคาดหวังยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งเลโก้ไม่ได้จัดการแข่งขันนี้มานานเกือบ 10 ปีแล้ว