xs
xsm
sm
md
lg

พท.กระทู้ย้ายสุกิจไม่เป็นธรรมเจอย้อน"โกวิท-เหลิม"ก็เคยทำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "มาร์ค" เตรียมถาม "บุญจง" หลัง "สุกิจ" โวยถูกย้ายไม่เป็นธรรม พร้อมปูดเรื่องงบอุดหนุนท้องถิ่น 1.2 หมื่นล้าน
"วิชัย" รับลูก มท.1 ตั้งกก.สอบวินัย พร้อมเรียกรายงานตัวด่วน ด้าน "สุกิจ" อำลาข้าราชการ สถ. ย้ำไม่อยากพูดเรื่องถูกเด้ง เผยฝ่ายค้านขอข้อมูลเตรียมอภิปราย แต่ไม่ได้ให้ไป เตือนสติ ขรก.อย่าทำตามใจนักการเมือง ส.ส.เพื่อไทยยื่นกระทู้ในสภา ถามหากติกา-จริยธรรม นักการเมืองในการโยกย้ายขรก. เจอ "บุญจง" ย้อนในสมัย "โกวิท-เหลิม" ก็เคยย้ายลดชั้น ด้าน "ชวรัตน์" ควงปลัด มท.ไปทำบุญที่วัดชนะสงคราม บอกสบายใจ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการโยกย้าย ข้าราชการระดับสูง กระทรวงมหาดไทย ที่ขณะนี้มีการออกมาตอบโต้กันไปมาว่า หากเขาไม่ได้รับความ เป็นธรรมในขณะนี้ เขาก็ประกาศว่าจะใช้สิทธิของเขา ซึ่งก็มีก.พ. และศาลปกครอง ตนก็มีหน้าที่ดูแลว่าได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งความจริงตอนนี้ก.พ.ก็มีคณะกรรมการดูแลตรงนี้ต่างหาก

ส่วนที่ นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ออกมาเปิดเผยเรื่องเงินอุดหนุนเฉพาะกิจพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 12,000 ล้านบาท นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ายังไม่ทราบว่าปัญหาคืออะไร เพราะไม่ได้ร้องมาที่ตน หากร้องเรียนมาที่ตนก็ทำไปตามข้อเท็จจริง แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบประเด็นที่ร้องเรียนมาคืออะไร ถ้าพบนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย จะสอบถามดู

**ยันทำตามหน้าที่ไม่ได้แทรกแซง

นายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุกิจ ระบุว่า นายบุญจง ไปแทรกแซงการใช้งบประมาณ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบว่า ยังไม่เห็นหนังสือของอธิบดีท่านนี้ อย่างไรก็ตาม งบประมาณนั้นเป็นเงินภาษีอากรของประชาชน ในอดีตนั้นงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการนำไปขาย นำไปทุจริต ดังนั้นเมื่อตนเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรี ก็มีหน้าที่กำกับดูแลให้งบประมาณเหล่านี้ลงสู่พื้นที่ มีการกระจาย ให้เกิดความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยเรียกอธิบดีท่านนี้มาพบ หรือพูดคุยเรื่องงบประมาณใดๆ ทั้งสิ้น

**ตั้งกก.สอบวินัย"สุกิจ"
นายวิชัย ศรีขวัญ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนทางวินัยนายสุกิจ ที่ออกมาเคลื่อนไหว แฉเบื้องหลังการโยกย้ายและตอบโต้ผู้บังคับบัญชา โดยให้มีการสอบสวนเร่งด่วน คาดว่าภายใน 15 วัน จะได้รับทราบข้อเท็จจริงว่ามีความผิดหรือไม่
ส่วนที่นายสุกิจ ยังคงออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้รัฐมนตรีอีกจะถือเป็นความผิดวินัยซ้ำซากหรือไม่ นายวิชัย พยายามเลี่ยงโดยกล่าวเพียงว่า คณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้น ก็ต้องสอบไปทุกเรื่อง โดยให้แต่ละระดับชั้นมีการรายงานเข้ามา

ส่วนที่นายสุกิจ มีหนังสือโต้ตอบกับสำนักงานรมช.มหาดไทย พร้อมทั้ง ร้องเรียนถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่ามีเบื้องหลังการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ และกดดันเรื่องการจัดสรรงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทของอปท. ทางกระทรวงจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังแค่ไหน นายวิชัย กล่าวว่าคณะกรรมการสอบสวนชุดดังกล่าวที่ตนตั้งขึ้น มีหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ก็จะได้สอบสวนในประเด็นดังกล่าวด้วย ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือไม่ 

**"วิชัย"เรียก"สุกิจ"รายงานตัวด่วน
เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (12มี.ค.) ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น( สถ.) ข้าราชการสถ.ได้ร่วมกันมอบดอกกุหลาบสีแดงให้ นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ได้รับคำสั่งด่วนจากนายวิชัย ศรีขวัญ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้เข้ารายงานตัวในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ในวันที่ 12 มี.ค.ทันที ในขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ที่มีการโยกย้าย จะเข้ารายงานตัวในที่ทำงานใหม่ ในวันที่16 มี.ค.
นายสุกิจ ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจ กรณีถูกโยกย้ายว่า ตนเป็นข้าราชการ เมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้น ถ้าคิดว่าคำสั่งนั้นไม่เป็นธรรม ก็มีกฎหมาย ระเบียบ ที่ทำให้เราสามารถใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ตนของดให้สัมภาษณ์ ให้เป็นกระบวนการตามกฎหมาย แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ ที่คนเป็นรองปลัด หรืออธิบดี แล้วถูกย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ถ้าจะมีก็ตัวเล็กๆและขอให้ดูประวัติตนว่า มาตามขั้นตอนถูกต้อง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่ตนจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ไม่ใช่เพราะถูกทางกระทรวงกดดัน แต่ตนรู้ความเหมาะสมว่า มันพอสมควรแล้ว ไม่มีการร้องขอหรือตักเตือนอะไรจากฝ่ายการเมือง ผู้บังคับบัญชาคงทราบว่าตนไม่เคยทำอะไรขัดต่อระเบียบกฎหมาย
นายสุกิจยอมรับว่า มีฝ่ายค้านมาขอข้อมูลเตรียมใช้อภิปรายรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย แต่ตนไม่ให้ เนื่องจากเอกสารบางชิ้นเป็นเอกสารลับ ซึ่งไม่ควรหลุดออกไปจากหน่วยราชการ อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่าไม่ถอดใจ เพราะตนสง่างามพอ
ส่วนกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ( มท.2 ) ให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยล้วงลูกการทำงานในสถ. นายสุกิจกล่าวว่า เอาไว้ดูข้อเท็จจริงดีกว่า ตนเรียนว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ท่านเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ติดใจท่านมท.1 รวมทั้งไม่ติดใจ มท.2 ในการแสดงออกที่มีต่อกัน
เมื่อถามว่าแสดงว่า เป็นอำนาจของรัฐมนตรี ที่จะเรียกดูการกระจายงบประมาณในกรมได้ นายสุกิจ กล่าวว่าเรียกดูได้แน่นอน แต่จะสั่งว่าไม่ให้คนนั้น ไม่ให้คนนี้ ไม่ได้ ส่วนกรณีที่ทางกระทรวงมหาดไทย จะตั้งกรรมการสอบวินัย ที่มีนายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานนั้น ตนกำลังรอดูว่าจะสอบอะไรตน

**ยันถูกย้ายเพราะเรื่องงบฯ
เมื่อถามว่า การยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องปัญหานักการเมืองแทรกแซงการกระจายงบประมาณ คาดว่าจะได้รับเสียงตอบรับอย่างไร นายสุกิจ กล่าวว่า ปัญหาที่ตนถูกย้าย มันคือ เรื่องงบประมาณ 12,000 ล้านบาท กับ 2,999 ล้านบาท รวมถึงเงินอุดหนุนเฉพาะกิจอื่นๆ ที่มาจาก พ.ร.บ.งบประมาณในแต่ละปี ที่รัฐบาลจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น( อปท.) งบตรงนี้ต้องเป็นของท้องถิ่น แต่ท้องถิ่นมีมาก 7,853 แห่ง ซึ่งจะมีเงิน 3 หมื่นล้านบาท เป็นเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ แต่มีความลักลั่น คือใครมีส่วนร่วม มีความกระตือรือล้นสูง ก็มีโอกาสได้งบประมาณมาก แม้ว่า คณะกรรมการกระจายอำนาจ พยายามให้กระจายตามหลักเกณฑ์ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ตนคงพูดได้แค่นี้
เมื่อถามว่ามี ส.ส.วิ่งของบไปลงพื้นที่ เพื่อใช้หาเสียงหรือไม่ นายสุกิจ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนรายงานข้อเท็จจริงไปที่ผู้บังคับบัญชาแล้ว ที่อยากพูดคือ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม งบตรงนี้ เมื่อวิ่งเต้นมาก ก็ไม่เป็นธรรม ลักลั่น กระจุกตัว อย่างท้องถิ่นบางแห่งแทบครึ่งประเทศ รายได้ถ้าไม่รวมเงินอุดหนุน ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ท้องถิ่นเหล่านี้มิใช่หรือที่ควรได้รับเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ และถ้าเอา 12,000 ล้านบาท มารวมกับ 2,999 ล้านบาท ก็จะได้อีกประมาณ 15,000 ล้านบาท ถ้าเราให้ท้องถิ่นยากจนเหล่านี้ ก็จะได้แห่งละ 3-4 ล้านบาท อย่างน้อยพัฒนาความจำเป็นเร่งด่วนของเขาได้

**เตือนขรก.อย่าก้มหัวให้นักการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายสุกิจ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเสร็จ ก็ได้กล่าวกับข้าราชการ ตอนหนึ่งว่า ตนมาอยู่ที่สถ.ประมาณ 5 เดือนเท่านั้น ถือว่าสั้นมาก ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะสถ.ถือว่าเป็นกรมที่งานหนักมาก ต้องดูแลงบประมาณจำนวนมาก และยังต้องทำงานกับประชาชน 6-7 ล้านคน ที่จะมารับเบี้ยยังชีพ เพราะฉะนั้นขอให้เตรียมใจไว้ว่า จะต้องมีความผิดพลาดบ้าง แต่ได้พยายามตั้งหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้มีความรัดกุมที่สุด ที่สำคัญคือเรื่องเงิน ขอให้รีบไปจัดสรรเงินที่สำนักงบประมาณโดยเร็ว ไม่เช่นนั้น หากถึงเวลาแล้วอาจจะมีอุปสรรค ขอบอกด้วยความห่วงใย
"ผมพูดอยู่เสมอว่า จะเป็นอธิบดี ผู้ว่าฯ ปลัดกระทรวง ก็เป็นแค่1-5 ปี ในที่สุดก็ต้องอำลาตำแหน่ง แต่เมื่ออำลาไปแล้ว วัฒนธรรมของข้าราชการจะไม่มีการนินทานาย แต่มันอยู่ในใจว่า ใครได้ทำอะไรไว้ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีก็เหมือนกัน ใครได้ทำอะไรไว้ คือในยุคนี้ที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพ 3-6 เดือน มาแบบนี้ เราต้องถามว่า มาทำอะไรให้กับบ้านเมือง และขอทิ้งวาทะสุดท้ายว่า ข้าราชการไม่ควรตามใจนักการเมืองที่ให้ปฏิบัติผิดๆ เพราะในที่สุดแล้วอำนาจนั้นเป็นอำนาจของราชการ แต่นักการเมืองอาศัยที่ว่า เดี๋ยวผมแต่งตั้งคุณนะ คือเอาตำแหน่งมาล่อ หรือเอาตำแหน่งมาขู่ว่า เดี๋ยวผมจะถอดถอนคุณนะ แล้วก็บีบบังคับให้เราทำ แบบนี้เราอย่าไปทำเลย เพราะเมื่อทำไปแล้วคนที่รับผิดที่ต้องเดินขึ้นศาลคือ ข้าราชการ อดีตอธิบดีบางคนเกษียณไปแล้วยังต้องไปขึ้นศาล เพราะไปตามใจ ทำตามคำสั่งที่มิชอบ" นายสุกิจกล่าว

**เลิกใช้ตำแหน่งผู้ตรวจฯเป็นสุสาน
นายจาดุร อภิชาติบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนนายสุกิจ กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่านายสุกิจได้มารายงานตัวต่อ นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยแล้ว และจะเข้ามาทำงานในวันจันทร์ที่ 16 มี.ค.นี้
สำหรับการสอบสวนคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน 15 วันก็รู้ผล แต่หากไม่สมบูรณ์จริงๆ คงต้อขอขยายเวลาออกไป และพร้อมจะให้นายสุกิจ ชี้แจงได้เต็มที่ทุกเรื่อง แต่สิ่งที่รุ้สึกเสียใจก็คือ ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย รู้สึกว่าตำแหน่งผู้ตรวจฯเป็นสุสาน ความคิดแบบนี้ทำให้ตำแหน่งนี้ไม่มีศักดิ์ศรี ใครถูกย้ายมาถือว่าถูกลงโทษ ความคิดแบบนี้ไม่ถูกต้อง จนทุกวันนี้เมื่อมีผู้ตรวจฯได้เป็นเป็นผู้ว่าฯ ก็จะรู้สึกดีใจ แต่หากถูกย้ายมาเป็นผู้ตรวจฯ ก็จะเสียใจ ถือว่าถูกลดชั้น คิดกันแบบนี้ประเทศก็เสียประโยชน์ คนที่มา ก็ไม่อยากทำงานมานั่งรับเงินเดือนเฉยๆ ในขณะที่ประชาชนคือผู้เสียภาษีต้องเสียประโยชน์ไป
"กระทรวงมหาดไทยควรยกศักดิ์ศรีให้เลิกคิดว่า ผู้ตรวจฯคือ สุสาน อยากบอกนักการเมืองกับข้าราชการว่า ข้าราชการก็ต้องเลิกสอพลอ ต้องมีศักดิ์ศรี อย่าไปโหนนักการเมืองมาก พวกเราต้องมีศักดิ์ศรีในการเป็นข้าราชการ และหลังจากนี้ขอให้ฝ่ายการเมืองเปลี่ยนความคิดใหม่ อย่าเอาคนที่ไม่อยากทำงานมานั่งเป็นผู้ตรวจฯเหมือนที่ผ่านมา ถ้าเขาไม่อยากมาก็ไม่ควรให้มา มันไม่มีใครได้ประโยชน์ ทำไมไม่เอาคนเก่งๆ คนฉลาด มานั่งในตำแหน่งผู้ตรวจฯ ต้องเลิกทำให้สำนักผู้ตรวจฯ คือสุสานของข้าราชการมหาดไทยได้แล้ว " นายจาดุลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย ได้จัดห้องทำงานให้นายสุกิจ ไว้เรียบร้อยแล้วโดยเป็นห้องว่างเล็กๆ เก่าๆ ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก สมกับที่ถูกเรียกว่า ถูกเด้งเข้ากรุ

**ข้องใจโยกย้ายกลั่นแกล้ง
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถาม รมว.มหาดไทย เรื่อง การโยกย้ายข้าราชการระดับซี 10 จำนวน 28 คน ซึ่งเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล ทั้งๆที่คนเหล่านี้ผ่านชีวิตการทำงานมามาก ตนสงสัยว่าทำไมกล้าทำ เพราะรัฐมนตรี เพิ่งเข้ามาทำงานเพียง 2 เดือนเศษ ทราบได้อย่างไรว่า ผู้ที่ถูกย้ายทำงานไม่ดี หรือเป็นคนไม่ดี การประทำเช่นนี้ ไม่ใช่การใช้กฎ กติกา คุณธรรม และจริยธรรมในการปกครอง เพราะย้ายระดับอธิบดี ไปเป็นผู้ตรวจฯ หรือผู้ว่าฯ เป็น การย้ายต่างระดับ ลดระดับ ถือเป็นการกลั่นแกล้ง ไม่คำนึงเกียรติ ศักดิ์ศรีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เหล่านี้ หรือต้องการแสดงอำนาจให้เห็นว่าใหญ่ มีอำนาจ

**โกวิท-เหลิม ก็เคยย้ายลดชั้น
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน รมว.มหาดไทย ว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็นเรื่องปกติ เป็นการโยกย้ายตามฤดูกาล ที่กระทรวงมหาดไทย จะโยกย้ายข้าราชการ 2 ครั้ง ตามปีงบประมาณ คือ ครั้งแรกในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. และครั้งที่ 2 ระหว่างเดือนก.ย., ต.ค.และพ.ย. ซึ่งเป็นการโยกย้ายที่มีกฎหมายรองรับ โดยผู้ทำหน้าที่ประเมินคือ ปลัดกระทรวงมหาไทย ที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง เป็นอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนปี 50 มาตรา 57 (2) ที่ปลัดกระทรวง ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ 11 นำเสนอมายัง รมว.มหาดไทย เพื่อนำเสนอ ครม.พิจารณา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของปีนี้ ส่วนอีกครั้งจะเกิดช่วงปลายปี ส่วนที่ว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดีนั้น เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงพิจารณาความเหมาะสม
ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลในอดีต ไม่เคยโยกย้ายในลักษณะอย่างนี้นั้น ไม่จริง เพราะช่วงเดือน ต.ค.51 พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย ในขณะนั้น ที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จำนวน 62 คน ต่อมาในสมัย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรมว.มหาดไทย มีแต่งตั้งโยกย้าย 17 คน ส่วนครั้งนี้ ขอยืนยันว่าเป็นการย้ายตามปกติ อยู่บนพื้นฐานกฎหมายรองรับ
"การย้ายอธิบดีไปเป็นผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นระดับ 10 ทั้งหมด ในอดีตมีการย้ายอย่างนี้บนพื้นฐานข้อเท็จจริง อาทิ ปี 46 มีอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมที่ดิน ถูกย้ายมาประจำกระทรวง ต่อมาปี 47 มีคำสั่งย้ายนายพงศ์โพยม วาศภูติ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ไปเป็นผู้ว่าฯนครราชสีมา ดังนั้นครั้งนี้ไม่มีอะไรฝ่าฝืนกฎหมาย แต่มีเพียงคนเดียวคือ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น(นายสุกิจ เจริญรัตนกุล) ที่ออกมาพูด" นายบุญจงกล่าว
นายบุญจง กล่าวว่า การที่นายสุกิจ ออกมาพูดเรื่องงบอุดหนุนท้องถิ่น ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.)นี้เป็นกรมใหญ่ มีงบอุดหนุนจำนวนมาก จัดสรรให้ประชาชน มีอบต.ที่ต้องดูแลกว่า 7 พันแห่ง ต้องทำงานร่วมกับผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศ แต่วันนี้มีปัญหาท้องถิ่นเกิดขึ้น และเห็นว่า นายสุกิจ เคยเป็นนักวิชาการ เป็นศาตราจารย์ เคยเป็นรองผู้ว่าฯ และผู้ว่าฯ จนได้มาเป็นอธิบดีกรมนี้ การย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง เพราะเห็นว่ามีความรู้ความสามารถ และมีความใกล้ชิดกับท้องถิ่น การให้มาประจำกระทรวง จะเป็นประโยชน์กับการทำงานมาก หลังมีข่าวโยกย้ายออกไป บรรดาสันนิบาต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็เห็นด้วยกับการโยกย้ายครั้งนี้

**มท.1ควงปลัดทำบุญวัดชนะสงคราม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวรัตน์ ชาญวีร กูล รมว.มหาดไทย เลี่ยงที่จะตอบกระทู้ ของนายประเสริฐ โดยส่งนายบุญจง ไปตอบกระทู้แทน ส่วนตนเองไปทำบุญถวายตาลปัด และสังฆทาน ร่วมกับนางทัศนีย์ ภริยา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน มท1. นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวง ที่วัดชนะสงคราม
จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกสบายใจที่ได้มาทำบุญ ไม่เกี่ยวกับการเอาฤกษ์ เอาชัย และได้อธิฐานขอพรให้มีชีวิตช่วยประเทศชาติไปนานๆ
ส่วนการโยกย้ายนายสุกิจ นั้นยืนยันว่าไม่มีอคติกับใคร และไม่จำเป็นต้องเรียกนายสุกิจ มาคุยอีกแล้ว ส่วนที่นายสุกิจ กำชับข้าราชการอย่าทำงานตามคำสั่งนักการเมืองนั้น ตนไม่คิดว่าจะมีปัญหากับการทำงานในอนาคต
" สุภาษิตฝรั่งเศสเขาบอกว่า นกนางแอ่นตัวเดียวบินกลับมาไม่ได้ หมายถึงฤดูใบไม้ผลิ หมายความว่า คนพูดเพียงคนเดียว แต่อีก 65 ล้านคนไม่ได้พูด ดังนั้นจะไปเชื่อคนๆเดียวได้อย่างไร" นายชวรัตน์กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น