การขี่มอเตอร์ไซค์ช่วยให้สมองแจ่มใส คนขับกระปรี้กระเปร่าแช่มชื่น ทำงานผิดพลาดน้อยลงและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น
ริวตะ คามาชิมะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตโฮกุ เปิดเผยภายหลังการวิจัยร่วมกับยามาฮา มอเตอร์ โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นชายวัยกลางคนว่า สมองของผู้ขี่มอเตอร์ไซค์จะทำงานหนักขึ้นเนื่องจากต้องใช้ความตื่นตัวสูง
“ในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ร่างกายและจิตใจของคนเรามักเคยชินกับภาวะที่ไร้อุปสรรค ข้อสรุปสุดท้ายของเราคือ การขี่มอเตอร์ไซค์อาจนำไปสู่ภาวะสูงวัยที่สติปัญญายังคงเฉียบคมอยู่”
ทั้งนี้ คาวาชิมะคือผู้พัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ยอดนิยม ‘เบรน เทรนนิ่ง’ ที่ประกอบด้วยเกมปริศนาและเกมอื่นๆ และอยู่ในเครื่องเล่นเกมนินเทนโด ดีเอสภายใต้ชื่อ ‘เบรน เอจ’ ในอเมริกาเหนือ
คาวาชิมะ วัย 49 ปี ที่ประกาศตัวว่าหลงใหลในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ อธิบายถึงงานวิจัยที่ทำร่วมกับยามาฮาว่า เกี่ยวข้องกับกลุ่มตัวอย่าง 22 คนที่มีอายุ 40-59 ปี ทั้งหมดนี้มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์แต่ไม่ได้ขับมาอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ
นักวิจัยสุ่มแยกกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสองส่วนๆ แรกขอให้กลับไปขี่มอเตอร์ไซค์ทุกวันเป็นเวลาสองเดือน อีกกลุ่มให้ใช้รถยนต์หรือจักรยานตามปกติ
ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์ทำคะแนนการทดสอบเชาว์ปัญญาได้ดีกว่า
ในการศึกษาหนึ่งที่กลุ่มตัวอย่างต้องจำชุดตัวเลขโดยเรียงลำดับย้อนหลัง นักวิจัยพบว่ากลุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์ได้คะแนนเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในช่วงเวลาสองเดือน ขณะที่คะแนนของอีกกลุ่มลดลงเล็กน้อย
กลุ่มนักบิดยังบอกว่าทำงานผิดพลาดน้อยลงและรู้สึกมีความสุขมากขึ้น
“การดูแลสุขภาพจิตใจเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสังคมทุกวันนี้ ผมคิดว่าเรากำลังปลุกกระแสที่น่าสนใจ เพราะข้อมูลที่ได้มาแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถปรับปรุงสภาพจิตใจได้ง่ายๆ โดยการขี่มอเตอร์ไซค์” คาวาชิมะทิ้งท้าย
ริวตะ คามาชิมะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตโฮกุ เปิดเผยภายหลังการวิจัยร่วมกับยามาฮา มอเตอร์ โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นชายวัยกลางคนว่า สมองของผู้ขี่มอเตอร์ไซค์จะทำงานหนักขึ้นเนื่องจากต้องใช้ความตื่นตัวสูง
“ในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ร่างกายและจิตใจของคนเรามักเคยชินกับภาวะที่ไร้อุปสรรค ข้อสรุปสุดท้ายของเราคือ การขี่มอเตอร์ไซค์อาจนำไปสู่ภาวะสูงวัยที่สติปัญญายังคงเฉียบคมอยู่”
ทั้งนี้ คาวาชิมะคือผู้พัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ยอดนิยม ‘เบรน เทรนนิ่ง’ ที่ประกอบด้วยเกมปริศนาและเกมอื่นๆ และอยู่ในเครื่องเล่นเกมนินเทนโด ดีเอสภายใต้ชื่อ ‘เบรน เอจ’ ในอเมริกาเหนือ
คาวาชิมะ วัย 49 ปี ที่ประกาศตัวว่าหลงใหลในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ อธิบายถึงงานวิจัยที่ทำร่วมกับยามาฮาว่า เกี่ยวข้องกับกลุ่มตัวอย่าง 22 คนที่มีอายุ 40-59 ปี ทั้งหมดนี้มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์แต่ไม่ได้ขับมาอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ
นักวิจัยสุ่มแยกกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสองส่วนๆ แรกขอให้กลับไปขี่มอเตอร์ไซค์ทุกวันเป็นเวลาสองเดือน อีกกลุ่มให้ใช้รถยนต์หรือจักรยานตามปกติ
ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์ทำคะแนนการทดสอบเชาว์ปัญญาได้ดีกว่า
ในการศึกษาหนึ่งที่กลุ่มตัวอย่างต้องจำชุดตัวเลขโดยเรียงลำดับย้อนหลัง นักวิจัยพบว่ากลุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์ได้คะแนนเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในช่วงเวลาสองเดือน ขณะที่คะแนนของอีกกลุ่มลดลงเล็กน้อย
กลุ่มนักบิดยังบอกว่าทำงานผิดพลาดน้อยลงและรู้สึกมีความสุขมากขึ้น
“การดูแลสุขภาพจิตใจเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสังคมทุกวันนี้ ผมคิดว่าเรากำลังปลุกกระแสที่น่าสนใจ เพราะข้อมูลที่ได้มาแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถปรับปรุงสภาพจิตใจได้ง่ายๆ โดยการขี่มอเตอร์ไซค์” คาวาชิมะทิ้งท้าย