ทิม เอ็ดเวิร์ดส์ เป็นแค่ใครอีกคนที่ขอโอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่กลับถูกผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ในอุโมงค์ลอดใต้สะพานที่การจราจรพลุกพล่านของฮูสตันละเลย ไม่แม้กระทั่งชายตามอง จนกระทั่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้
ต้องขอบคุณแผนการตลาดทางอินเทอร์เน็ตและพันธมิตรที่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะวันนี้ เอ็ดเวิร์ดกลายเป็นตัวแทนของคนไร้บ้านสำหรับผู้เล่นเว็บนับพันที่ถูกดึงดูดมายังเว็บไซต์ของเขาที่มีชื่อชวนให้เปิดประเด็นถกเถียง
ผู้เยี่ยมชมมากมายซักถามเกี่ยวกับชีวิตของเอ็ดเวิร์ด และความเป็นมาที่ทำให้เขากลายสภาพจากผู้จัดการสำนักงานที่มีทั้งบ้าน รถยนต์ และอนาคตสวยสด มาเป็นคนจรจัดไร้หวังหมดกำลังใจ
เว็บไซต์ http://www.pimpthisbum.com/ ยังเป็นช่องทางที่ผู้เยี่ยมชมสามารถบริจาคเงิน บริการและสินค้าเพื่อช่วยเหลือเอ็ดเวิร์ดให้หลุดพ้นจากสภาพดังกล่าว
กระนั้น ตัวแทนคนไร้บ้านบางคนมองว่าเว็บไซต์นี้กำลังจ้องหาประโยชน์จากเอ็ดเวิร์ด
“เราต้องการประชดประชันปฏิกิริยาตอบสนองของคนเพื่อให้คนเหล่านั้นเข้าไปดูทิมในไซต์ แล้วคนจะหลงรักเขา เพราะเขาทั้งตลกและไม่เคยโทษใครว่าทำให้เข้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้” เควิน โดแลน วัย 55 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจากย่านเคทีของฮูสตัน ที่ตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวขึ้นมาร่วมกับฌอน ลูกชายวัย 24 ปี บอก
ฌอนบอกว่า ถ้าใช้ชื่อเว็บไซต์ทื่อๆ ว่า ‘Help the Homeless’ นักเล่นเว็บอาจมองเลยผ่านไป
แรกทีเดียวสองพ่อลูกเพียงอยากทดสอบแผนการโฆษณาและสร้างกระแสสำหรับธุรกิจการตลาดใหม่ทางอินเทอร์เน็ต พวกเขาวางแผนโปรโมทธุรกิจขนาดย่อมในครอบครัว จนกระทั่งฌอนบอกว่าน่าจะใช้เว็บทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมบ้าง
ปัจจุบัน ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์นี้ได้รู้จักเอ็ดเวิร์ดนอกเหนือจากความเป็นกลุ่มคนนิรนามที่ถูกเรียกขานรวมกันว่า ‘คนจรจัด’
“ผมเป็นคนจรจัดออนไลน์คนแรกของโลก แนวคิดทั้งหมดของโครงการนี้คือช่วยให้เราไม่ต้องนอนข้างถนน ผมเป็นผู้บุกเบิกโดยมีเพื่อนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ถ้าผมทำพลาด โครงการนี้ก็จะไม่ได้ผลสำหรับคนไร้บ้านอื่นๆ”
เว็บไซต์นี้มีวิดีโอและภาพถ่ายของเอ็ดเวิร์ด นอกจากนั้นยังมีปุ่ม ‘บริจาค’ ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถกดเพื่อบริจาคโดยหักผ่านบัตรเครดิต บางคนยังแวะไปหาเขาเพื่อส่งอาหารหรือบัตรกำนัลร้านฟาสต์ฟูด หรือแค่ทักทาย
สัปดาห์นี้ เอ็ดเวิร์ดมีกำหนดเข้าศูนย์บำบัดอาการติดเหล้าที่ซันเรย์ ทรีตเมนท์ แอนด์ รีคอฟเวอรีในซีแอตเติล ซึ่งเป็นโครงการ 35 วัน ปกติแล้วมีค่าใช้จ่าย 13,800 ดอลลาร์ แต่กรณีของเอ็ดเวิร์ด ทางศูนย์ใจดีบำบัดให้ฟรี และระหว่างการบำบัดจะมีการถ่ายทอดผ่านเว็บไซต์ให้ผู้สนใจได้ติดตามชม
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของเอ็ดเวิร์ดได้ปลุกกระแสโต้เถียงในอินเทอร์เน็ตถึงความชอบธรรมของวิธีการของโดแลน ขณะที่องค์กรช่วยเหลือคนไร้บ้านบางแห่งบอกว่าเว็บไซต์นี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่แท้จริงของคนจรจัด
“เขาชื่อทิม และผมไม่สนับสนุนการจัดหาโสเภณีให้ใคร” แอนโทนี เลิฟ ประธานกลุ่มแนวร่วมเพื่อผู้ไร้บ้านในฮูสตัน/แฮร์ริสเคาน์ตี้ วิจารณ์ชื่อเว็บไซต์
แต่สำหรับเจ้าตัวเล่าว่าเขาขำท้องแข็งเมื่อฌอนมาทาบทามท่าทางจริงจังพร้อมเสนอไอเดียเรื่องเว็บไซต์และชื่อเว็บ ตอนนั้นเป็นคืนหนึ่งช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เขาและคนไร้บ้านอีกหลายคนอยู่กันใต้อุโมงค์สายหนึ่ง “เรากำลังดื่มกันเหมือนเคย”
ตอนแรกเขาไม่แน่ใจว่าฌอนมาดีหรือมาร้าย แต่ตอนนี้เอ็ดเวิร์ดคิดว่าพ่อลูกโดแลนคือคำตอบจากสวรรค์
“ผมสวดมนต์ขอให้พระเจ้าบันดาลให้ฝนตกลงมา และแล้วพ่อลูกสองคนนี้ก็โผล่มา ผมคิดว่าไอเดียนี้บ้าพอที่จะทำให้คนสนใจ”
เอ็ดเวิร์ดกลายเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท่าตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2004 (เขาจำวันที่ได้แม่น) และติดเหล้างอมแงม
นับจากนั้นเขาเริ่มเรียนรู้ศิลปะในการอยู่รอดข้างถนน นั่นคือการยึดพื้นที่ของตัวเอง กล้าขอเพื่อให้ได้อาหาร บุหรี่ และเครื่องดื่มประทังชีวิต เรียนรู้ว่าใครไว้ใจได้และใครควรอยู่ให้ห่าง
เขาเห็นเพื่อนสนิทหลายคนต้องตายเพราะติดเหล้า ติดเชื้อ และเพียงแค่ตรอมใจกับความสิ้นหวัง หลายครั้งเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
เอ็ดเวิร์ดเล่าว่าเขาลองเข้าโครงการช่วยเหลือผู้ไร้บ้านมาแล้วหลายโครงการ แต่ไม่พบโครงการที่เหมาะกับตัวเอง
“แต่โครงการเหล่านั้นก็ทำให้ผมและเพื่อนมีความหวัง ผมไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ว่าพวกเรามีความหวังมากแค่ไหน”
เอ็ดเวิร์ดที่บอกว่า เขากลายเป็นคนไร้บ้านนับจากหันหลังให้พระเจ้าคือหลังจากแม่และยายตาย ยืนยันว่าเขาพร้อมแล้วที่จะบำบัดและหาทางคืนกลับสู่ชีวิตปกติ ไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อคนอื่นๆ ที่ต้องนอนกลางดินกินอยู่ข้างถนน
ต้องขอบคุณแผนการตลาดทางอินเทอร์เน็ตและพันธมิตรที่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะวันนี้ เอ็ดเวิร์ดกลายเป็นตัวแทนของคนไร้บ้านสำหรับผู้เล่นเว็บนับพันที่ถูกดึงดูดมายังเว็บไซต์ของเขาที่มีชื่อชวนให้เปิดประเด็นถกเถียง
ผู้เยี่ยมชมมากมายซักถามเกี่ยวกับชีวิตของเอ็ดเวิร์ด และความเป็นมาที่ทำให้เขากลายสภาพจากผู้จัดการสำนักงานที่มีทั้งบ้าน รถยนต์ และอนาคตสวยสด มาเป็นคนจรจัดไร้หวังหมดกำลังใจ
เว็บไซต์ http://www.pimpthisbum.com/ ยังเป็นช่องทางที่ผู้เยี่ยมชมสามารถบริจาคเงิน บริการและสินค้าเพื่อช่วยเหลือเอ็ดเวิร์ดให้หลุดพ้นจากสภาพดังกล่าว
กระนั้น ตัวแทนคนไร้บ้านบางคนมองว่าเว็บไซต์นี้กำลังจ้องหาประโยชน์จากเอ็ดเวิร์ด
“เราต้องการประชดประชันปฏิกิริยาตอบสนองของคนเพื่อให้คนเหล่านั้นเข้าไปดูทิมในไซต์ แล้วคนจะหลงรักเขา เพราะเขาทั้งตลกและไม่เคยโทษใครว่าทำให้เข้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้” เควิน โดแลน วัย 55 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจากย่านเคทีของฮูสตัน ที่ตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวขึ้นมาร่วมกับฌอน ลูกชายวัย 24 ปี บอก
ฌอนบอกว่า ถ้าใช้ชื่อเว็บไซต์ทื่อๆ ว่า ‘Help the Homeless’ นักเล่นเว็บอาจมองเลยผ่านไป
แรกทีเดียวสองพ่อลูกเพียงอยากทดสอบแผนการโฆษณาและสร้างกระแสสำหรับธุรกิจการตลาดใหม่ทางอินเทอร์เน็ต พวกเขาวางแผนโปรโมทธุรกิจขนาดย่อมในครอบครัว จนกระทั่งฌอนบอกว่าน่าจะใช้เว็บทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมบ้าง
ปัจจุบัน ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์นี้ได้รู้จักเอ็ดเวิร์ดนอกเหนือจากความเป็นกลุ่มคนนิรนามที่ถูกเรียกขานรวมกันว่า ‘คนจรจัด’
“ผมเป็นคนจรจัดออนไลน์คนแรกของโลก แนวคิดทั้งหมดของโครงการนี้คือช่วยให้เราไม่ต้องนอนข้างถนน ผมเป็นผู้บุกเบิกโดยมีเพื่อนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ถ้าผมทำพลาด โครงการนี้ก็จะไม่ได้ผลสำหรับคนไร้บ้านอื่นๆ”
เว็บไซต์นี้มีวิดีโอและภาพถ่ายของเอ็ดเวิร์ด นอกจากนั้นยังมีปุ่ม ‘บริจาค’ ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถกดเพื่อบริจาคโดยหักผ่านบัตรเครดิต บางคนยังแวะไปหาเขาเพื่อส่งอาหารหรือบัตรกำนัลร้านฟาสต์ฟูด หรือแค่ทักทาย
สัปดาห์นี้ เอ็ดเวิร์ดมีกำหนดเข้าศูนย์บำบัดอาการติดเหล้าที่ซันเรย์ ทรีตเมนท์ แอนด์ รีคอฟเวอรีในซีแอตเติล ซึ่งเป็นโครงการ 35 วัน ปกติแล้วมีค่าใช้จ่าย 13,800 ดอลลาร์ แต่กรณีของเอ็ดเวิร์ด ทางศูนย์ใจดีบำบัดให้ฟรี และระหว่างการบำบัดจะมีการถ่ายทอดผ่านเว็บไซต์ให้ผู้สนใจได้ติดตามชม
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของเอ็ดเวิร์ดได้ปลุกกระแสโต้เถียงในอินเทอร์เน็ตถึงความชอบธรรมของวิธีการของโดแลน ขณะที่องค์กรช่วยเหลือคนไร้บ้านบางแห่งบอกว่าเว็บไซต์นี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่แท้จริงของคนจรจัด
“เขาชื่อทิม และผมไม่สนับสนุนการจัดหาโสเภณีให้ใคร” แอนโทนี เลิฟ ประธานกลุ่มแนวร่วมเพื่อผู้ไร้บ้านในฮูสตัน/แฮร์ริสเคาน์ตี้ วิจารณ์ชื่อเว็บไซต์
แต่สำหรับเจ้าตัวเล่าว่าเขาขำท้องแข็งเมื่อฌอนมาทาบทามท่าทางจริงจังพร้อมเสนอไอเดียเรื่องเว็บไซต์และชื่อเว็บ ตอนนั้นเป็นคืนหนึ่งช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เขาและคนไร้บ้านอีกหลายคนอยู่กันใต้อุโมงค์สายหนึ่ง “เรากำลังดื่มกันเหมือนเคย”
ตอนแรกเขาไม่แน่ใจว่าฌอนมาดีหรือมาร้าย แต่ตอนนี้เอ็ดเวิร์ดคิดว่าพ่อลูกโดแลนคือคำตอบจากสวรรค์
“ผมสวดมนต์ขอให้พระเจ้าบันดาลให้ฝนตกลงมา และแล้วพ่อลูกสองคนนี้ก็โผล่มา ผมคิดว่าไอเดียนี้บ้าพอที่จะทำให้คนสนใจ”
เอ็ดเวิร์ดกลายเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท่าตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2004 (เขาจำวันที่ได้แม่น) และติดเหล้างอมแงม
นับจากนั้นเขาเริ่มเรียนรู้ศิลปะในการอยู่รอดข้างถนน นั่นคือการยึดพื้นที่ของตัวเอง กล้าขอเพื่อให้ได้อาหาร บุหรี่ และเครื่องดื่มประทังชีวิต เรียนรู้ว่าใครไว้ใจได้และใครควรอยู่ให้ห่าง
เขาเห็นเพื่อนสนิทหลายคนต้องตายเพราะติดเหล้า ติดเชื้อ และเพียงแค่ตรอมใจกับความสิ้นหวัง หลายครั้งเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
เอ็ดเวิร์ดเล่าว่าเขาลองเข้าโครงการช่วยเหลือผู้ไร้บ้านมาแล้วหลายโครงการ แต่ไม่พบโครงการที่เหมาะกับตัวเอง
“แต่โครงการเหล่านั้นก็ทำให้ผมและเพื่อนมีความหวัง ผมไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ว่าพวกเรามีความหวังมากแค่ไหน”
เอ็ดเวิร์ดที่บอกว่า เขากลายเป็นคนไร้บ้านนับจากหันหลังให้พระเจ้าคือหลังจากแม่และยายตาย ยืนยันว่าเขาพร้อมแล้วที่จะบำบัดและหาทางคืนกลับสู่ชีวิตปกติ ไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อคนอื่นๆ ที่ต้องนอนกลางดินกินอยู่ข้างถนน