xs
xsm
sm
md
lg

พธม.สงขลาหนุนผุดร้าน “เพื่อนช่วยเพื่อน” เล็งเชื่อมข้าวสาร ASTVกระจายต่างจังหวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุมิตร นวลมณี
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา หนุนกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนตั้งร้านสหกรณ์เพื่อช่วยเหลือลดค่าครองชีพ โดยทดลองนำข้าวสารชนิดต่างๆ ที่มีคุณภาพมาจำหน่ายในราคายุติธรรม ด้วยการตัดค่าพ่อค้าคนกลางออก และปันผลทุกสิ้นปีให้กับสมาชิก โดยจะมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้กับ ASTV ซึ่งเป็นจุดกำเนิดสร้างประชาชนให้เกิดความเข้มแข็งกลมเกลียวจากการร่วมต่อสู้ทางการเมืองตลอด 193 วัน ด้านคณะกรรมการดำเนินงานเผยสนใจเชื่อมต่อเป็นเอเย่นต์ข้าวสาร ASTV ตรามือตบ เพื่อกระจายในต่างจังหวัด และช่วยเหลือให้สถานีข่าวประชาชนให้อยู่รอดอีกทางหนึ่ง

ภายหลังจากที่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา บางส่วนได้ริเริ่มตั้งกลุ่มเพื่อช่วยเพื่อน เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลอาชีพซึ่งกันและกัน ตลอดจนงานสังคมต่างๆ โดยยึดมั่นในความรัก ความสามัคคีของหมู่คณะเป็นที่ตั้ง โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้น

ล่าสุดมติสมาชิกได้เตรียมความพร้อมเปิดร้านค้า “เพื่อนช่วยเพื่อน” ตั้งอยู่เลขที่ 207 ถ.นิพัทธ์อุทิศ1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยทดลองเพื่อจำหน่ายข้าวสารให้แก่สมาชิก เนื่องจากเป็นสินค้าปัจจัยสี่ที่ทุกครัวเรือนมีความต้องการ ซึ่งจะเปิดร้านอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคม

นางจินตนา สังฆรัตน์ คณะกรรมการดำเนินงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้วางแผนจำหน่ายข้าวสาร 5 ชนิด เช่น ข้าวหอมมะลิ 100% ข้าวหอม ข้าวขาว และข้าวเหนียว เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อข้าวสารโดยตรงมาจากโรงสีใน จ.บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางทำให้มีราคาถูก การจำหน่ายจะมีการบริการส่งสินค้าภายในตัวเมืองหาดใหญ่ ส่วนนอกตัวเมืองจะคิดค่าน้ำมันตามระยะทาง เนื่องด้วยสมาชิกมีทั้งประชาชนที่ซื้อบริโภคภายในครอบครัว และประกอบกิจการร้านอาหาร

การจัดการร้านใช้รูปแบบกึ่งสหกรณ์ มีสมาชิกร้านค้ามี 2 ประเภท คือ 1. เป็นผู้ถือหุ้น (เป็นเจ้าของ)ราคาหุ้นละ 100 บาท และ 2.เป็นผู้ซื้อสินค้า (ไม่ซื้อหุ้น) ราคาหุ้นละ 100 บาท ผลตอบแทนนอกจากสมาชิกจะได้ซื้อสินค้าคุณภาพดีในราคายุติธรรมแล้ว ยังจะได้รับปันผลจากกำไรสิ้นปีหลังหักค่าใช้จ่ายและทุนสำรองแล้วตามปริมาณหุ้นที่ถือ หรือได้รับปันผลจากตามยอดซื้อสะสม กำไรสิ้นปี หลังหักค่าใช้จ่ายและทุนสำรอง นอกจากนี้หากมีการแนะนำต่อก็จะได้รับค่าตอบแทนในชั้นแรกอีกด้วย
หน้าร้านแห่งนี้จะเปิดเป็นร้านค้า” เพื่อนช่วยเพื่อน”เพื่อจำหน่ายสินค้า นำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ASTV
“จุดมุ่งหมายหนึ่งของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน คือ จะนำรายได้ส่วนหนึ่งของจะบริจาคให้แก่ ASTV ซึ่งเป็นสื่อหลักที่ทำให้พลังภาคประชาชนเกิดองค์ความรู้ และตื่นตัวเรื่องจิตสำนึกสาธารณะ หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่เป็นประโยชน์กับพันธมิตรฯ จ.สงขลา ในการขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชน เพราะที่เกิดกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนได้ก็เพราะเหล่าพันธมิตรฯ และยังเป็นพี่เลี้ยงในการให้คำแนะนำในการเติบโตของเราด้วย”

ส่วนนายบุญเติม วุฒิรัตน์ คณะกรรมการดำเนินงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางร้านค้าจะทำกิจการแบบเล็กๆ แต่หากมีกระแสการตอบรับดีจะนำสินค้าจำเป็นอื่นๆ ต่อชีวิตประจำวันมาจำหน่ายเพิ่มเติมเพื่อเป็นการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เนื่องจากปัจจุบันนั้นเศรษฐกิจไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนดังเดิม ซึ่งนอกจากเป็นจุดจำหน่ายสินค้าแล้ว จะทำให้สมาชิกได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความคิด ให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ และสร้างความกลมเกลียวซึ่งกันและกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับการจำหน่ายข้าวสารถุง ASTV ตรามือตบนั้น ทางกลุ่มก็มีความสนใจว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำมาจำหน่ายที่ร้านเพื่อนช่วยเพื่อนด้วย เนื่องจากจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้พี่น้องพันธมิตรฯ ได้เลือกบริโภคและสนับสนุน ASTV ให้อยู่รอดได้ แต่ยังต้องศึกษารายละเอียดว่า บริษัทมีกฎเกณฑ์อย่างไรบ้าง สอดรับกับอีกเป้าหมายหนึ่งที่ทางกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนได้เตรียมความพร้อมสร้างความเข้มแข็งจากกลุ่มเล็กๆ สู่การเชื่อมโยงกับโครงการ PAD Directory หรือโครงการธุรกิจเข้มแข็งในเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีเครือข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป

ด้านนายสุมิตร นวลมณี รองประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาร้านค้าเพื่อนช่วยเพื่อน เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชาชนได้ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองกว่า 193 วันมาแล้ว ก็ต้องนำเอาความรู้และจิตสำนึกสาธารณะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาตัวเอง ก่อนจะขยายสู่วงกว้าง เหมือนดังกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนที่หันมาพัฒนาบ้านเกิดตัวเองตามศักยภาพ จนเกิดความเข้มแข็ง และอยู่รอดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ หากกลุ่มเล็กๆ ในสังคมเกิดความสามัคคี เข้มแข็ง ประเทศชาติก็จะอยู่ได้

“การเปิดร้านขายข้าวสารเพื่อนช่วยเพื่อน ไม่ต้องกังวลว่าจะซ้ำกับการจำหน่ายข้าวสาร ASTV เพราะที่กำลังทำอยู่ก็เป็นการช่วยพี่น้องพันธมิตรฯ ให้ติดต่อค้าขายซึ่งกันและกันตามศักยภาพอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราช่วยตัวเองได้ก็เหมือนได้ช่วย ASTV ที่เป็นสื่อตัวแทนของประชาชน สิ่งที่กำลังทำทั้งหมดนี้ล้วนมาจากรากเหง้าความเข้าใจทางการเมืองเดียวกัน และเชื่อว่าจะดีกว่าโครงการแจกเงิน 2,000 บาทของรัฐบาลเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่มีการกินนอกกินใน แต่ทำอย่างโปร่งใสและเกื้อกูลทั้งระบบ” นายสุมิตรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น