นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการโยกย้าย นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มาเป็นเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ซึ่งนายสุกิจ ประกาศจะเปิดโปงข้อมูลความไม่ชอบมาพากลเรื่องการใช้งบประมาณ จำนวน 12,000 ล้านบาท ว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายสุกิจโดยตรง แต่เพิ่งได้ข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น
ส่วนกรณีที่นายสุกิจ ระบุว่าไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งนักการเมืองที่มิชอบนั้น ตนเห็นว่า นายสุกิจไม่รู้วิธีการบริหารราชการแผ่นดินหรืออย่างไร เพราะนักการเมือง เป็นผู้ถือนโยบายแต่ละหน่วยงาน ซึ่งข้าราชการประจำ ก็ต้องนำไปปฏิบัติ ถ้าไม่ฟังถือว่าขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ ก็มีบทลงโทษ เช่น การโยกย้าย
อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายครั้งนี้ ยึดหลักความถูกต้องและความเหมาะสมเป็นที่ตั้ง ตามหลักบริหารงาน ไม่ได้มีการแบ่งภาคระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างใด เพราะการหมุนเวียนผู้ว่าฯ ก็เป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันมาก่อนอยู่แล้ว อีกทั้ง การที่ผู้ว่าฯได้ทำงานในจังหวัดใหม่ ก็มีความท้าทาย เป็นการวัดศักยภาพการทำงาน ไม่เกี่ยวกับใครจะมีความผูกพันกับใคร ตามที่นายสุกิจ ระบุไว้ เพราะนายสุกิจจะรู้จักกับใคร ก็เป็นเรื่องของนายสุกิจ
การที่นายสุกิจออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีถึงการแต่งตั้งโยกย้าย ถือว่าผิดมารยาท ถ้าดูแล้วคำพูดหนัก ก็จะเรียกมาตักเตือน ซึ่งตนก็รู้สึกว่าค่อนข้างหนัก เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ว่าจะมีการนำข้อมูลไปให้ฝ่ายค้านใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะคนที่พูดคนเดียว ไม่มีน้ำหนักพอที่คนส่วนใหญ่จะเชื่อถือ ซึ่งการพูดอะไรออกมาต้องมีหลักฐาน ถ้าไม่มีอาจถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้
**ปลัดมท.ให้กก.สอบ"สุกิจ"
ด้านนายวิชัย ศรีขวัญ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการที่นายสุกิจ ได้เซ็นคำสั่งยกเลิกคณะกรรมการพิจารณา และกำหนดให้ดำเนินการโครงการ 3,000 โครงการ ภายหลังที่ครม.อนุมัติให้ไปเป็นผู้ตรวจการกระทรวงแล้วนั้น ถือว่ายังมีอำนาจในการสั่งการหรือไม่ว่า ต้องไปดูว่าใครเป็นคนตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมา ถ้านายสุกิจ เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการชุดนี้เอง ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ส่วนการออกมาเคลื่อนไหวของนายสุกิจ ถือว่ามีความผิดวินัยหรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามีประเด็นใหม่เกิดขึ้น ก็สามารถนำเรื่องใหม่เข้าไปตรวจสอบได้ ซึ่งต้องทำโดยเร่งด่วน
เมื่อถามว่า จะต้องตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุด เกี่ยวกับกรณีที่นายสุกิจจะเปิดโปงข้อมูลเรื่องงบประมาณจำนวน 12,000 ล้านบาท มีการจัดสรรไม่ถูกต้องหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า อยู่ที่การให้ชี้แจงของนายสุกิจ จึงไม่ต้องตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม ซึ่งนายจาดู อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง จะเป็นประธานคณะกรรมการสอบ เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่มีการจัดสรรงบดังกล่าว นายวิชัย กล่าวว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีเรื่องนี้จริง กระทรวงสามารถสั่งเพิ่มเติมได้ ส่วนการโยกย้ายที่นายสุกิจ ระบุว่าโครงการเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะมีความผิดแค่ไหนนั้น กระทรวงต้องตรวจสอบกับคำสั่งการที่สั่งไป
** "บุญจง"ปัดแทรกแซงสถ.
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่าเข้าไปแทรกแซงการทำงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ว่าไม่ใช่เรื่องการแทรกแซง แต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ที่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งเป็นลักษณะเป็นเพียงการแจ้งให้ทราบ เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนอนุมัติ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบข้าราชการ แต่เนื่องจากว่าตนเป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องทราบว่ามีการอนุมัติไปเท่าไร แต่ตนไม่มีอำนาจไปอนุมัติแต่อย่างใด
เมื่อถามว่ามีการเรียกอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเข้ามาพบเพื่อสั่งการหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ไม่มีเลย ส่วนมากจะมีการคุยเรื่องนมโรงเรียน เรื่องโครงการอาหารกลางวัน ตนไม่เคยสั่งอธิบดีเลย และที่สำคัญอธิบดีไม่เคยเข้าพบตน และตนก็ไม่เคยไปตรวจเยี่ยมที่กรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นสักครั้ง มีแต่รมว.มหาดไทยไปตรวจเยี่ยม
เมื่อถามว่าเป็นคนสั่งการผ่าน ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อโยกย้ายอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นใช่หรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจในการสั่งการผ่านท่านปลัด เพราะเรื่องนี้เข้าครม.ไม่เกี่ยวกับตน
เมื่อถามว่าการที่อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระบุว่ารู้ทันนักการเมืองที่จะมาหาประโยชน์กับกรม นายบุญจง กล่าวว่าตนไม่ทราบ ไม่รู้ประเด็นพวกนี้ เรื่องโครงการทั้งหมดเป็นส่วนของข้าราชการทำ ไม่เกี่ยวกับตน ตนเป็นฝ่ายนโยบาย ทุกอย่างมีหลักเกณฑ์สามารถตรวจสอบได้
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุกิจ จะไปร้องต่อศาลปกครอง เรื่องถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจำนวน 28 ตำแหน่ง โดยเฉพาะกรณี นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ว่า เรื่องนี้รัฐบาลควรชี้แจ้งให้ชัดเจนว่า เหตุใดจึงมีการโยกย้ายอย่างรีบเร่ง เพราะนายสุกิจ พึ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 4 เดือน กับอีก 23 วัน หากทำผิด เป็นความผิดเรื่องอะไร เพราะหากทำผิดก็ต้องสั่งให้ดำเนินคดี ไม่ใช่ทำผิดแล้วสั่งโยกย้าย แบบนี้นายกฯ ต้องรับผิดชอบ แล้วเรื่องนี้ควรให้คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 (1) และมาตรา 288 กำหนด ไม่ให้รัฐมนตรีเข้าไปก้าวก่ายการปฏิบัติงาน การดำเนินการของข้าราชการประจำด้วย
ส่วนกรณีที่นายสุกิจ ระบุว่าไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งนักการเมืองที่มิชอบนั้น ตนเห็นว่า นายสุกิจไม่รู้วิธีการบริหารราชการแผ่นดินหรืออย่างไร เพราะนักการเมือง เป็นผู้ถือนโยบายแต่ละหน่วยงาน ซึ่งข้าราชการประจำ ก็ต้องนำไปปฏิบัติ ถ้าไม่ฟังถือว่าขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ ก็มีบทลงโทษ เช่น การโยกย้าย
อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายครั้งนี้ ยึดหลักความถูกต้องและความเหมาะสมเป็นที่ตั้ง ตามหลักบริหารงาน ไม่ได้มีการแบ่งภาคระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างใด เพราะการหมุนเวียนผู้ว่าฯ ก็เป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันมาก่อนอยู่แล้ว อีกทั้ง การที่ผู้ว่าฯได้ทำงานในจังหวัดใหม่ ก็มีความท้าทาย เป็นการวัดศักยภาพการทำงาน ไม่เกี่ยวกับใครจะมีความผูกพันกับใคร ตามที่นายสุกิจ ระบุไว้ เพราะนายสุกิจจะรู้จักกับใคร ก็เป็นเรื่องของนายสุกิจ
การที่นายสุกิจออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีถึงการแต่งตั้งโยกย้าย ถือว่าผิดมารยาท ถ้าดูแล้วคำพูดหนัก ก็จะเรียกมาตักเตือน ซึ่งตนก็รู้สึกว่าค่อนข้างหนัก เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ว่าจะมีการนำข้อมูลไปให้ฝ่ายค้านใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะคนที่พูดคนเดียว ไม่มีน้ำหนักพอที่คนส่วนใหญ่จะเชื่อถือ ซึ่งการพูดอะไรออกมาต้องมีหลักฐาน ถ้าไม่มีอาจถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้
**ปลัดมท.ให้กก.สอบ"สุกิจ"
ด้านนายวิชัย ศรีขวัญ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการที่นายสุกิจ ได้เซ็นคำสั่งยกเลิกคณะกรรมการพิจารณา และกำหนดให้ดำเนินการโครงการ 3,000 โครงการ ภายหลังที่ครม.อนุมัติให้ไปเป็นผู้ตรวจการกระทรวงแล้วนั้น ถือว่ายังมีอำนาจในการสั่งการหรือไม่ว่า ต้องไปดูว่าใครเป็นคนตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมา ถ้านายสุกิจ เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการชุดนี้เอง ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ส่วนการออกมาเคลื่อนไหวของนายสุกิจ ถือว่ามีความผิดวินัยหรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามีประเด็นใหม่เกิดขึ้น ก็สามารถนำเรื่องใหม่เข้าไปตรวจสอบได้ ซึ่งต้องทำโดยเร่งด่วน
เมื่อถามว่า จะต้องตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุด เกี่ยวกับกรณีที่นายสุกิจจะเปิดโปงข้อมูลเรื่องงบประมาณจำนวน 12,000 ล้านบาท มีการจัดสรรไม่ถูกต้องหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า อยู่ที่การให้ชี้แจงของนายสุกิจ จึงไม่ต้องตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม ซึ่งนายจาดู อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง จะเป็นประธานคณะกรรมการสอบ เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่มีการจัดสรรงบดังกล่าว นายวิชัย กล่าวว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีเรื่องนี้จริง กระทรวงสามารถสั่งเพิ่มเติมได้ ส่วนการโยกย้ายที่นายสุกิจ ระบุว่าโครงการเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะมีความผิดแค่ไหนนั้น กระทรวงต้องตรวจสอบกับคำสั่งการที่สั่งไป
** "บุญจง"ปัดแทรกแซงสถ.
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่าเข้าไปแทรกแซงการทำงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ว่าไม่ใช่เรื่องการแทรกแซง แต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ที่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งเป็นลักษณะเป็นเพียงการแจ้งให้ทราบ เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนอนุมัติ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบข้าราชการ แต่เนื่องจากว่าตนเป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องทราบว่ามีการอนุมัติไปเท่าไร แต่ตนไม่มีอำนาจไปอนุมัติแต่อย่างใด
เมื่อถามว่ามีการเรียกอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเข้ามาพบเพื่อสั่งการหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ไม่มีเลย ส่วนมากจะมีการคุยเรื่องนมโรงเรียน เรื่องโครงการอาหารกลางวัน ตนไม่เคยสั่งอธิบดีเลย และที่สำคัญอธิบดีไม่เคยเข้าพบตน และตนก็ไม่เคยไปตรวจเยี่ยมที่กรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นสักครั้ง มีแต่รมว.มหาดไทยไปตรวจเยี่ยม
เมื่อถามว่าเป็นคนสั่งการผ่าน ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อโยกย้ายอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นใช่หรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจในการสั่งการผ่านท่านปลัด เพราะเรื่องนี้เข้าครม.ไม่เกี่ยวกับตน
เมื่อถามว่าการที่อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระบุว่ารู้ทันนักการเมืองที่จะมาหาประโยชน์กับกรม นายบุญจง กล่าวว่าตนไม่ทราบ ไม่รู้ประเด็นพวกนี้ เรื่องโครงการทั้งหมดเป็นส่วนของข้าราชการทำ ไม่เกี่ยวกับตน ตนเป็นฝ่ายนโยบาย ทุกอย่างมีหลักเกณฑ์สามารถตรวจสอบได้
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุกิจ จะไปร้องต่อศาลปกครอง เรื่องถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจำนวน 28 ตำแหน่ง โดยเฉพาะกรณี นายสุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ว่า เรื่องนี้รัฐบาลควรชี้แจ้งให้ชัดเจนว่า เหตุใดจึงมีการโยกย้ายอย่างรีบเร่ง เพราะนายสุกิจ พึ่งเข้ามารับตำแหน่งได้เพียง 4 เดือน กับอีก 23 วัน หากทำผิด เป็นความผิดเรื่องอะไร เพราะหากทำผิดก็ต้องสั่งให้ดำเนินคดี ไม่ใช่ทำผิดแล้วสั่งโยกย้าย แบบนี้นายกฯ ต้องรับผิดชอบ แล้วเรื่องนี้ควรให้คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 (1) และมาตรา 288 กำหนด ไม่ให้รัฐมนตรีเข้าไปก้าวก่ายการปฏิบัติงาน การดำเนินการของข้าราชการประจำด้วย
