ASTVผู้จัดการรายวัน – วันทูโก ไม่ขอร่วมวงสงครามราคา เร่งอัพเกรดบริการ ประกาศเดินหน้าเพิ่มเส้นทางบินต่อเนื่องทั้งปี ประเดิม กรุงเทพฯ-ตรัง ตั้งเป้าสิ้นปีโกยรายได้ 1 พันล้านบาท
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวัน ทู โก ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) เปิดเผยว่า แผนการทำธุรกิจของสายการบิน วัน ทู โก ในปี 2552 จะไม่เน้นแคมเปญลดราคาตั๋วโดยสาร เหมือนสายการบินอื่นๆ ที่กำลังแข่งขันกันหั่นราคา เพราะเชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะทำให้โครงสร้างราคาเสียหายได้ในอนาคต อีกทั้งยังไม่คุ้มกับต้นทุนดำเนินงานที่แท้จริง
แต่กลยุทธ์ของวัน ทู โก เน้นเรื่องของบริการให้เทียบชั้นสายการบินปกติ เช่น มีบริการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง การให้บริการที่ตรงต่อเวลา และการขยายเส้นทางบินให้ครอบคลุมตามที่ลูกค้าต้องการ ล่าสุดเปิดเส้นทาง กรุงเทพฯ-ตรัง วันละ 1 เที่ยวบิน โดยเส้นทางนี้มีสายการบินนกแอร์ให้บริการเพียงรายเดียววันละ 1 เที่ยวเช่นกัน
“ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเริ่มรู้จักตรังมากขึ้น เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม ติดที่ว่าการเดินทางเข้าถึงยังลำบาก ซึ่งเมื่อมีสายการบินให้บริการจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าถึงเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวที่ 70-75%”
อย่างไรก็ตาม วัน ทู โก ยังเน้นขายตั๋วโดยสารราคาเดียวเหมือนเดิม และ ปลายเดือนมี.ค.นี้ มีแผนเปิดเพิ่มอีก 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี , กรุงเทพฯ-พิษณุโลก จากปัจจุบันบินอยู่ 12 เที่ยวต่อวัน จากกรุงเทพฯไปยัง เชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต ตั้งเป้าสิ้นปีนี้สามารถขนส่งผู้โดยสารได้รวม 7 แสนคน สร้างรายได้ 1.2-1.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ยอมรับว่าปัญฯหาเศรษฐกิจถดถอยที่จะเริ่มเห็นผลชัดในครึ่งปีหลัง จะส่งผลให้ การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวลดลง แต่ยังมีการท่องเที่ยวอยู่ เพราะภาครับและเอกชนช่วยจัดแคมเปญกรุต้นส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก การจัดงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 15 ที่มีผู้เข้าชมงานเกือบ 4 แสนคน แต่มีกาใช้จ่ายเพียง 300 ล้านบาท
ส่วนกรณีที่การบินไทยย้ายเส้นทางบินในประเทศกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรณภูมินั้น โดยส่วนตัวมองว่าอย่ามองเป็นเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบของสายการบินโลว์คอสต์ ควรมองว่ารัฐไม่ต้องการให้เอกชนมาเสียค่าใช้จ่ายเรื่องการขนย้าย ซึ่งการย้ายกลับของการบินไทยก็เพราะมีความจำเป็นที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายโดยมีฐานปฎิบัติงานเพียงแห่งเดียว ขณะเดียวกันรัฐก็ต้องเร่งพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิให้สามารถองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเพื่อลดความแออัด
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวัน ทู โก ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) เปิดเผยว่า แผนการทำธุรกิจของสายการบิน วัน ทู โก ในปี 2552 จะไม่เน้นแคมเปญลดราคาตั๋วโดยสาร เหมือนสายการบินอื่นๆ ที่กำลังแข่งขันกันหั่นราคา เพราะเชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะทำให้โครงสร้างราคาเสียหายได้ในอนาคต อีกทั้งยังไม่คุ้มกับต้นทุนดำเนินงานที่แท้จริง
แต่กลยุทธ์ของวัน ทู โก เน้นเรื่องของบริการให้เทียบชั้นสายการบินปกติ เช่น มีบริการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง การให้บริการที่ตรงต่อเวลา และการขยายเส้นทางบินให้ครอบคลุมตามที่ลูกค้าต้องการ ล่าสุดเปิดเส้นทาง กรุงเทพฯ-ตรัง วันละ 1 เที่ยวบิน โดยเส้นทางนี้มีสายการบินนกแอร์ให้บริการเพียงรายเดียววันละ 1 เที่ยวเช่นกัน
“ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเริ่มรู้จักตรังมากขึ้น เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม ติดที่ว่าการเดินทางเข้าถึงยังลำบาก ซึ่งเมื่อมีสายการบินให้บริการจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าถึงเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวที่ 70-75%”
อย่างไรก็ตาม วัน ทู โก ยังเน้นขายตั๋วโดยสารราคาเดียวเหมือนเดิม และ ปลายเดือนมี.ค.นี้ มีแผนเปิดเพิ่มอีก 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี , กรุงเทพฯ-พิษณุโลก จากปัจจุบันบินอยู่ 12 เที่ยวต่อวัน จากกรุงเทพฯไปยัง เชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต ตั้งเป้าสิ้นปีนี้สามารถขนส่งผู้โดยสารได้รวม 7 แสนคน สร้างรายได้ 1.2-1.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ยอมรับว่าปัญฯหาเศรษฐกิจถดถอยที่จะเริ่มเห็นผลชัดในครึ่งปีหลัง จะส่งผลให้ การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวลดลง แต่ยังมีการท่องเที่ยวอยู่ เพราะภาครับและเอกชนช่วยจัดแคมเปญกรุต้นส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก การจัดงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 15 ที่มีผู้เข้าชมงานเกือบ 4 แสนคน แต่มีกาใช้จ่ายเพียง 300 ล้านบาท
ส่วนกรณีที่การบินไทยย้ายเส้นทางบินในประเทศกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรณภูมินั้น โดยส่วนตัวมองว่าอย่ามองเป็นเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบของสายการบินโลว์คอสต์ ควรมองว่ารัฐไม่ต้องการให้เอกชนมาเสียค่าใช้จ่ายเรื่องการขนย้าย ซึ่งการย้ายกลับของการบินไทยก็เพราะมีความจำเป็นที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายโดยมีฐานปฎิบัติงานเพียงแห่งเดียว ขณะเดียวกันรัฐก็ต้องเร่งพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิให้สามารถองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเพื่อลดความแออัด