xs
xsm
sm
md
lg

‘ข้าวถุง ASTV ตรามือ (ตบ)’ เป็นมากกว่าข้าวถุง

เผยแพร่:   โดย: สุวิชชา เพียราษฎร์


วันนี้ตลาดข้าวบรรจุถุงหมื่นล้านอาจจะยังไม่สะดุ้งสะเทือน ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้วก็อาจจะไม่เห็นอยู่ในสายตา เมื่อข้าวถุงยี่ห้อใหม่ ข้าวสารASTV “ตรามือ(ตบ)” ออกสู่ท้องตลาด

หนึ่งนั้นอาจเพราะข้าวสาร ASTV เองก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อตอบโจทย์ทางการค้าเหมือนๆ สินค้าทั่วไป!

สอง ข้าวสาร ASTV เป็นสินค้าที่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

ทว่า หากวิเคราะห์และดูกันไปยาวๆ...ก็ไม่แน่นัก

ใครได้อ่านความคิด อ่านคำของ คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือ ASTV ผู้จัดการที่เล่าถึงที่ไปที่มาในการให้สัมภาษณ์ “ASTV ผู้จัดการออนไลน์” ถึงข้าวสารบรรจุถุงภายใต้แบรนด์ ASTV นี้แล้วก็จะเข้าใจความนัยตรงนี้มากขึ้น

คุณจิตตนาถบอกว่า “โครงการดังกล่าวเกิดมาจากแนวคิดที่ว่า หลังจากที่ ASTVเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดการชุมนุมให้แก่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ASTV ก็ได้ปรับตัวเองให้เป็นทีวีของประชาชน เป็นสื่อที่รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งคำว่าสื่อที่รับใช้ประชาชนนั้นไม่ใช่แค่การนำเสนอข่าวสาร และเรื่องราวที่เป็นสาระประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องการให้ ASTV เป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือประชาชนคนไทยด้วยกันเองด้วย”

ถามว่า ช่วยเหลืออย่างไร ซีอีโอ ASTV บอกว่า ตอนนี้บ้านเรามีวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากเศรษฐกิจโลก ขณะที่รัฐบาลเองก็ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างไร ASTV จึงพิจารณาว่าขณะนี้ ASTV มีฐานคนดูอยู่ถึง 10 ล้านคนทั่วประเทศ หรือเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านกว่าครัวเรือน จึงน่าจะใช้ศักยภาพที่มีอยู่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยที่ผ่านมา ASTV ได้หารือกับผู้ประกอบการหลายรายซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นภูมิปัญญาไทยและสนใจเข้าร่วมโครงการกับเรา จากการพิจารณาก็เห็นว่าข้าวน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่ายผ่านเอเอสทีวีเป็นผลิตภัณฑ์แรกเพราะข้าวเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้ หากยังจำได้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็เคยพูดถึงเรื่องความสำคัญของข้าวไทยในเวทีการเมืองใหม่มาหลายครั้ง

คุณสนธิเห็นว่า การส่งเสริมการขายข้าวก็เท่ากับสนับสนุนให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ถ้าใช้ ASTV เป็นตัวกลางในการจำหน่ายข้าวสารเพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคข้าวคุณภาพดีในราคาถูก ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย รายกลางที่ไม่มีอำนาจการแข่งขันมากนัก นอกจากนั้นรายได้ส่วนหนึ่งยังนำมาสนับสนุนการดำเนินการของ ASTV อีกด้วย

หากคิดตามนี้ ข้าวถุง 1 ถุงเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตไปยุติที่ผู้ซื้อนำไปบริโภค ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จึงมีตั้งแต่ชาวนา สามารถมีช่องระบายข้าวเปลือกได้มากขึ้น ผู้ประกอบการรายกลางถึงเล็กมีช่องทางจัดจำหน่ายผลิตและผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ ก็มีทางเลือกสินค้าคุณภาพดี ราคาย่อมเยาว์เพิ่มขึ้น

ในยามวิกฤตเศรษฐกิจ คนตกงาน ค่าครองชีพสูง ทุกประเทศทั่วโลกต่างมุ่งให้ความสำคัญต่อการช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายในประเทศ แม้กระทั่งประเทศผู้บริโภครายใหญ่อย่างสหรัฐฯ ก็ต้องปรับตัวหนีตาย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ “บารัค โอบามา” ถึงกับเน้นย้ำให้คนอเมริกันหันมาใช้ของที่ผลิตจากอเมริกาเอง และต้องรอบคอบในการจับจ่ายใช้สอย

สำหรับไทยๆ ข้าวสาร ASTV ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างของการมีส่วนจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจในครัวเรือนไทยได้

“โครงการข้าว ASTV นี้ถือว่าเป็นโครงการนำร่องให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต่อไป ผมเชื่อว่าถ้าทำตรงนี้สำเร็จจะช่วยให้การซื้อขายสินค้าภายในประเทศขยายตัวมากขึ้น ซึ่งเราวางแผนว่าในอนาคตจะขยายชนิดสินค้าให้เพิ่มมากขึ้นโดยจะเจาะกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภคเป็นหลัก เช่น น้ำดื่ม สบู่ และอาจรวมไปถึงสินค้าบริการ เช่น กรมธรรม์ประกันภัยด้วย” คุณจิตตนาถ กล่าว

หากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครั้งล่าสุดยืดเยื้อยาวนานถึง 193 วันที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความเป็นสังคม “พันธมิตรฯ” ที่สร้างกลไกการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้อย่างเข้มแข็งมีพลัง ข้าวถุงก็อาจจะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของการแปรเปลี่ยนจากพลังดังกล่าวเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสานต่อเนื่องกันมา

สมมติว่า ข้าวสารตรามือ (ตบ) ประสบความสำเร็จพี่น้องพันธมิตรฯ หรือเป็นประชาชนทั่วไปที่คิดอ่านรอบคอบในการใช้จ่าย ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ก้าวย่างต่อไปจึงน่าสนใจอย่างที่คุณจิตตนาถบอกว่า

“จากนี้ไปสังคมพันธมิตรฯ จะไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองเท่านั้น แต่จะขยายไปสู่การเกื้อกูลกันทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม จะเกิดเป็นสังคมที่เข้มแข็งทั้งด้านแนวคิด และชีวิตความเป็นอยู่”

ข้าวถุง ASTV ตรามือ(ตบ)จึงเป็นมากกว่าข้าวถุงธรรมดา!!


ท่านผู้อ่านสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ที่ เอ็มบล็อก http://mblog.manager.co.th/suwitcha67 หรือ suwitcha@manager.co.th
กำลังโหลดความคิดเห็น