ก่อนที่ “ฝ่ายค้านหัดเดิน” อย่างพรรคเพื่อไทย ที่ได้ออกมาตีปี๊ปเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงปลายเดือนมี.ค. ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปภายในพรรคว่าจะเลื่อนการยื่นอภิปรายต่อไปอีกหรือไม่
ก็เริ่มมีสัญญาณไม่ดีกับพรรคเพื่อไทยกับ“จำนวนมือ” ที่ลดลงในสภาฯ หลังนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กับ กลุ่ม12 เพื่อแผ่นดิน ประสานเสียงไม่ร่วมลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ล่าสุดแว่วมาว่า อาจมีปรากฏการณ์ “งูเห่าภาค 2” หลังจากงูเห่าชุดแรก ส.ส.ก๊วนเพื่อนเนวิน พลิกขั้วการเมืองครั้งสำคัญ หันไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ กุมอำนาจในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล จนได้ดิบได้ดี มีที่นั่งในกระทรวงใหญ่กันถ้วนหน้า
สัญญาณร้ายของพรรคเพื่อไทยเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่นายปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี ลูกชายนายปองพล อดิเรกสาร อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้แสดงท่าทีชัดเจนโดยติดสอยห้อยตามออกงานร่วมกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย ที่มียี่ห้อเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
โดยอ้างเหตุผลในการที่จะย้ายมาซบพรรคภูมิใจไทยว่า เพราะพรรคมีอุดมการณ์ ชื่นชอบการทำงานของสมาชิกภูมิใจไทย ที่มีบุคลากรหลากหลาย มีความสามารถในการทำงาน เหมือนกับพรรคไทยรักไทยยุคแรก
รวมถึงนายปองพล ก็สนับสนุนอีกด้วย อีกทั้งยังประกาศย้ำชัดว่า เลือกตั้งสมัยหน้าก็เตรียมที่จะลงสมัครในฐานะคนของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว
พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวว่าเป็น“ งูเห่า“ทุกกรณี และไม่เกี่ยวกับช่วง “เสื่อมอำนาจ” ของพรรคเพื่อไทย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร้อนถึงพรรคเพื่อไทยที่เริ่มให้สมาชิกพรรคจับตา ส.ส.ในพรรคบ้างแล้ว โดยเฉพาะส.ส.ในจ.กำแพงเพชร หนองคาย ปทุมธานี เพชรบูรณ์ นครนายก และกทม.บางส่วน ว่าจะมีท่าทีอย่างไรก่อนการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ
งานนี้โฆษกพรรคเพื่อไทยอย่าง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ออกมาพูดแกมขู่ ส.ส.เพื่อไทย ที่จะย้ายค่ายว่า พรรคไม่ได้กังวลเรื่องงูเห่าในพรรค แต่หลังการโหวต ส.ส.ถ้าคนในพรรคเพื่อไทยไปโหวตให้กับพรรครัฐบาล จะต้องตอบคำถามประชาชนในพื้นที่ของตัวเองให้ได้
หวังกระตุก ส.ส.งูเห่าที่เหลือในพรรคว่า “แบรนด์ทักษิณ” ยังขายได้
แต่การย้ายค่ายช่วงเวลานี้ของนายปรพล ถือเป็นการจุดพลุให้ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่หลงเหลืออยู่ในพรรคเพื่อไทย เริ่มเคลื่อนไหว จนมีกระแสข่าวว่าอาจมี “กองทัพงูเห่า” อีก 20 คน เตรียมแห่ไปซบพรรคภูมิใจไทยอีกชุดหนึ่ง ที่ถึงแม้ “ตัว” จะสังกัดพรรคเพื่อไทยอยู่ แต่ “ใจ”ไปอยู่กับ พรรคภูมิใจไทยนานแล้ว
งานนี้จึงเหมือนเข้าทาง ส.ส.ก๊วนเพื่อนเนวิน ที่เหลืออยู่ในพรรคเพื่อไทยว่าจะ “ดีดลูกคิดรางแก้ว” เดินเกมตีตัวออกห่างจากพรรคเพื่อไทยในภาวะ“เรือไร้หางเสือ” ได้อย่างไร โปรดติดตาม !!!
ก็เริ่มมีสัญญาณไม่ดีกับพรรคเพื่อไทยกับ“จำนวนมือ” ที่ลดลงในสภาฯ หลังนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กับ กลุ่ม12 เพื่อแผ่นดิน ประสานเสียงไม่ร่วมลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ล่าสุดแว่วมาว่า อาจมีปรากฏการณ์ “งูเห่าภาค 2” หลังจากงูเห่าชุดแรก ส.ส.ก๊วนเพื่อนเนวิน พลิกขั้วการเมืองครั้งสำคัญ หันไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ กุมอำนาจในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล จนได้ดิบได้ดี มีที่นั่งในกระทรวงใหญ่กันถ้วนหน้า
สัญญาณร้ายของพรรคเพื่อไทยเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่นายปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี ลูกชายนายปองพล อดิเรกสาร อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้แสดงท่าทีชัดเจนโดยติดสอยห้อยตามออกงานร่วมกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย ที่มียี่ห้อเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
โดยอ้างเหตุผลในการที่จะย้ายมาซบพรรคภูมิใจไทยว่า เพราะพรรคมีอุดมการณ์ ชื่นชอบการทำงานของสมาชิกภูมิใจไทย ที่มีบุคลากรหลากหลาย มีความสามารถในการทำงาน เหมือนกับพรรคไทยรักไทยยุคแรก
รวมถึงนายปองพล ก็สนับสนุนอีกด้วย อีกทั้งยังประกาศย้ำชัดว่า เลือกตั้งสมัยหน้าก็เตรียมที่จะลงสมัครในฐานะคนของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว
พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวว่าเป็น“ งูเห่า“ทุกกรณี และไม่เกี่ยวกับช่วง “เสื่อมอำนาจ” ของพรรคเพื่อไทย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร้อนถึงพรรคเพื่อไทยที่เริ่มให้สมาชิกพรรคจับตา ส.ส.ในพรรคบ้างแล้ว โดยเฉพาะส.ส.ในจ.กำแพงเพชร หนองคาย ปทุมธานี เพชรบูรณ์ นครนายก และกทม.บางส่วน ว่าจะมีท่าทีอย่างไรก่อนการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ
งานนี้โฆษกพรรคเพื่อไทยอย่าง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ออกมาพูดแกมขู่ ส.ส.เพื่อไทย ที่จะย้ายค่ายว่า พรรคไม่ได้กังวลเรื่องงูเห่าในพรรค แต่หลังการโหวต ส.ส.ถ้าคนในพรรคเพื่อไทยไปโหวตให้กับพรรครัฐบาล จะต้องตอบคำถามประชาชนในพื้นที่ของตัวเองให้ได้
หวังกระตุก ส.ส.งูเห่าที่เหลือในพรรคว่า “แบรนด์ทักษิณ” ยังขายได้
แต่การย้ายค่ายช่วงเวลานี้ของนายปรพล ถือเป็นการจุดพลุให้ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่หลงเหลืออยู่ในพรรคเพื่อไทย เริ่มเคลื่อนไหว จนมีกระแสข่าวว่าอาจมี “กองทัพงูเห่า” อีก 20 คน เตรียมแห่ไปซบพรรคภูมิใจไทยอีกชุดหนึ่ง ที่ถึงแม้ “ตัว” จะสังกัดพรรคเพื่อไทยอยู่ แต่ “ใจ”ไปอยู่กับ พรรคภูมิใจไทยนานแล้ว
งานนี้จึงเหมือนเข้าทาง ส.ส.ก๊วนเพื่อนเนวิน ที่เหลืออยู่ในพรรคเพื่อไทยว่าจะ “ดีดลูกคิดรางแก้ว” เดินเกมตีตัวออกห่างจากพรรคเพื่อไทยในภาวะ“เรือไร้หางเสือ” ได้อย่างไร โปรดติดตาม !!!