ASTVผู้จัดการรายวัน – เบบี้เลิฟ ซุ่มศึกษาแตกผ้าอ้อมสำเร็จรูปชนิดกางเกง หลังเป็นเซกเมนต์เติบโตสูงสวนกระแสเศรษฐกิจถดถอย ระบุพ่อแม่เปลี่ยนพฤติกรรมแห่ซื้อสินค้าเซกเมนต์ระดับกลางแทนพรีเมียม เพราะราคาถูกกว่า 2-3 บาท ต่อชิ้น ลุยจัดกิจกรรม “หนูน้อยเบบี้เลิฟ ตะลุยแรลลี่” มัดใจฐานลูกค้า สิ้นปีหวังโค่นดรายเพอร์ส รั้งอันดับ 2 กวาดแชร์ 20%
นางสาวจัสติน หวาง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาค บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กเบบี้เลิฟ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กมูลค่า 5,300 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าเติบโต 10% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเติบโต 9-10% โดยผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจไม่กระทบต่อตลาด ซึ่งพบว่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปเซกเมนต์กางเกงมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท เติบโต 30% และเซกเมนต์ระดับกลางมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท เติบโต 12-15%
ส่วนเซกเมนต์พรีเมียมมูลค่า 1,000 ล้านบาท การขยายตัวติดลบ 11-12% ทั้งนี้เป็นเพราะผู้บริโภคมีการเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าไปสู่สินค้าที่ดีขึ้น หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงหันมาซื้อสินค้าที่ถูกกว่า โดยเฉพาะเซกเมนต์ระดับกลางราคาถูกกว่าพรีเมียม 2-3 บาทต่อชิ้น
สำหรับแผนการตลาดในขณะนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาแตกโปรดักส์ไลน์ สู่เซกเมนต์ผ้าอ้อมสำเร็จรูปชนิดกางเกง เนื่องจากเป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโตสูง และสอดคล้องกับแนวโน้มพ่อแม่สมัยใหม่ที่นิยมมีลูกน้อยลง ทำให้พร้อมยอมจ่ายเม็ดเงิน เพื่อซื้อสินค้าที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังวางแผนเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ”หนูน้อยเบบี้เลิฟ ตะลุยแรลลี่” ประกวดการแข่งขันสำหรับเด็กวัยคลานและวัยหัดเดิน เพื่อมุ่งส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กความผูกพันระหว่างพ่อแม่ และลูก และในปีนี้ยังวางแผนเปิดตัวแคมเปญใหญ่ 1-2 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้ากับผู้บริโภค
จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 16% เป็น20% โดยขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาดอย่างชัดเจน หลังจากก่อนนี้เบบี้เลิฟ และดรายเพอร์ส ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 17% ผลัดกันขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาด ส่วนผู้นำตลาดมามี่ โพโค ครองส่วนแบ่ง 53%
นางสาวจัสติน หวาง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาค บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กเบบี้เลิฟ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กมูลค่า 5,300 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าเติบโต 10% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเติบโต 9-10% โดยผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจไม่กระทบต่อตลาด ซึ่งพบว่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปเซกเมนต์กางเกงมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท เติบโต 30% และเซกเมนต์ระดับกลางมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท เติบโต 12-15%
ส่วนเซกเมนต์พรีเมียมมูลค่า 1,000 ล้านบาท การขยายตัวติดลบ 11-12% ทั้งนี้เป็นเพราะผู้บริโภคมีการเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าไปสู่สินค้าที่ดีขึ้น หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงหันมาซื้อสินค้าที่ถูกกว่า โดยเฉพาะเซกเมนต์ระดับกลางราคาถูกกว่าพรีเมียม 2-3 บาทต่อชิ้น
สำหรับแผนการตลาดในขณะนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาแตกโปรดักส์ไลน์ สู่เซกเมนต์ผ้าอ้อมสำเร็จรูปชนิดกางเกง เนื่องจากเป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโตสูง และสอดคล้องกับแนวโน้มพ่อแม่สมัยใหม่ที่นิยมมีลูกน้อยลง ทำให้พร้อมยอมจ่ายเม็ดเงิน เพื่อซื้อสินค้าที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังวางแผนเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ”หนูน้อยเบบี้เลิฟ ตะลุยแรลลี่” ประกวดการแข่งขันสำหรับเด็กวัยคลานและวัยหัดเดิน เพื่อมุ่งส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กความผูกพันระหว่างพ่อแม่ และลูก และในปีนี้ยังวางแผนเปิดตัวแคมเปญใหญ่ 1-2 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้ากับผู้บริโภค
จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 16% เป็น20% โดยขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาดอย่างชัดเจน หลังจากก่อนนี้เบบี้เลิฟ และดรายเพอร์ส ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 17% ผลัดกันขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาด ส่วนผู้นำตลาดมามี่ โพโค ครองส่วนแบ่ง 53%