ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่า ถ้าหากวันหนึ่ง มีเหตุให้ชีวิตเราต้องสะดุดล้มลง เราก็ควรจะลุกขึ้น แล้วเริ่มต้นเดินหน้าต่อไป แต่ในความจริง หากเราล้มลงจริงๆ คุณอาจสงสัยว่า เราจะลุกขึ้นได้อย่างไร
ถ้าหากคุณล้มลง เพราะการกระทำของตัวเอง คุณอาจสูญเสียความเชื่อมั่น
แต่หากคุณล้มลง เพราะการกระทำของคนอื่น คุณอาจมีความโกรธเคืองค้างอยู่ในใจ คิดแต่จะกล่าวโทษเขา ต้องการให้เขารับผิดชอบ จนแทบไม่เหลือพลังพอที่จะลุกขึ้นใหม่
เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องน่าคิดนะครับ ว่าถ้าเราล้มลง เราจะมีวิธีลุกขึ้นใหม่ได้อย่างไร
ก่อนอื่น ลองทบทวนดูว่า ....
คุณเคยเห็นภาพคนที่ล้มลง แล้วลุกขึ้นมาใหม่ ได้อย่างน่าชื่นชมบ้างไหมครับ
เชื่อแน่ว่าหลายคนคงนึกถึงเด็กๆ ที่กำลังหัดเดิน ที่ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
เด็กๆ เป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมนะครับ และยังน่ารักมากซะด้วย ทุกครั้งที่เขาล้มลง เขาจะลุกขึ้นมาได้ใหม่ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ บางรายอาจร้องไห้สักพัก แล้วจึงลุกขึ้นเดินต่อ บางรายก็ยิ้มหัวเราะกับการล้มของตนเอง หรือบางรายก็ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่ล้ม เด็กทุกคนต่างก็ลุกขึ้นได้ แล้วเดินหน้าต่อไป
สงสัยไหมครับ ว่าอะไรทำให้เด็กๆ ล้มแล้วลุกขึ้นได้ ด้วยความน่ารัก
เด็กๆ ทำได้ เพราะเขาไม่ได้มองว่าการล้มเป็นปัญหา ตรงกันข้าม เด็กๆ กลับเห็นเป็นเรื่องสนุกด้วยซ้ำที่จะได้เรียนรู้วิธีเดินด้วยท่าต่างๆ การล้มจึงเป็นเรื่องปกติ ที่พวกเขาจะต้องเจอะเจอ ล้มเมื่อไหร่ก็ได้เรียนรู้กันเมื่อนั้น
การล้มจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กๆ และยังเป็นเรื่องของการเรียนรู้ ที่จะช่วยให้เด็กลุกขึ้นได้ ในทุกๆ ครั้ง
เราทุกคน ต่างก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้นกันมาแล้วนะครับ เราเคยล้ม แล้วลุกขึ้นใหม่ ล้ม แล้วลุกขึ้นใหม่นับครั้งไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นตอนนี้ หากมีเหตุให้เราต้องล้มลงอีกครั้งหนึ่ง ก็น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่เราจะได้ทบทวนวิธีลุกขึ้นใหม่เหมือนอย่างที่เราเคยทำมาแล้วสมัยเป็นเด็กๆ
ประเด็นสำคัญก็คือ การสะดุดล้มนี้นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้แล้ว เรายังอาจใช้เป็นเวลาของการทบทวนเป้าหมายชีวิต ได้ด้วยนะครับ เพราะคนที่เคยล้มหลายคน พูดคล้ายกันว่า การล้มทำให้เขาได้หันกลับมาทบทวนชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่งว่า
ตัวเขาเองต้องการอะไร อะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตและสิ่งที่เขาทำอยู่ จนกระทั่งมีเหตุให้สะดุดล้มนั้น ใช่เส้นทางที่จะพาไปสู่จุดหมายที่แท้จริง หรือไม่
การทบทวนเช่นนี้ทำให้หลายคนได้ค้นพบหนทางใหม่ที่ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เราลองมาทบทวนกันดูนะครับ...
เริ่มจากการถามตัวเองดูว่า ทุกวันนี้ ความสุขในชีวิตของคุณเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง กิจกรรมอะไร หรือการทำอะไร ที่ทำให้คุณมีความสุข คุณได้ทำสิ่งที่มีความสุขเช่นนี้ เป็นประจำ สม่ำเสมอ มากน้อยเพียงใด และอะไรทำให้เป็นเช่นนั้น
หลายคนบอกว่า การได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัว คือ ความสุข
หลายคนบอกว่า ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเอง ได้นั่งนิ่งๆ เงียบๆ ได้ทบทวนตัวเอง คือ ความสุข
หลายคนบอกว่า การได้ทำสิ่งที่ชอบด้วยความเพลิดเพลิน เช่น อ่านหนังสือ รดน้ำต้นไม้ เดินเล่น คือ ความสุข
หลายคนบอกกว่า การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้พัฒนาตัวเอง ได้เติมความเข้าใจชีวิตให้ลึกซึ้งขึ้น นั่นคือความสุข
หลายคนบอกว่า เพียงแค่ได้สัมผัสความรื่นรมย์ของธรรมชาติรอบตัว เช่น แสงแดดอุ่นๆ ร่มไม้ที่เย็นสบาย อากาศบริสุทธิ์ยามเช้า หรือเห็นผีเสื้อสวยๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
แล้วคุณล่ะครับ อะไรคือความสุขในชีวิตของคุณ
ลองทบทวนดูว่า ครั้งสุดท้ายที่มีความสุข คุณกำลังทำอะไรอยู่ และคุณได้ทำสิ่งนั้นเป็นประจำ สม่ำเสมอเพียงใด คำตอบที่คุณมีให้กับตัวเอง จะช่วยให้คุณเห็นภาพชีวิตตัวเองได้ชัดขึ้น ว่าคุณได้เรียนรู้อะไร จากการสะดุดล้มครั้งนี้บ้าง
การลุกขึ้นใหม่ในรอบนี้ คุณต้องการจะปรับเปลี่ยนจุดหมายในชีวิตใหม่หรือไม่
จุดหมายในชีวิตของคุณ คืออะไร
มีความลับที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งครับ ถ้ามนุษย์ค้นพบจุดหมายในชีวิตที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงแล้วมนุษย์จะมีพลังอย่างเพียงพอในการที่จะทำอะไรก็ได้
ไม่เพียงแค่การลุกขึ้นเท่านั้นนะครับ แต่ยังรวมถึงการเดินไปข้างหน้า ด้วยความเชื่อมั่น ศรัทธาและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
ลองถามตัวเองดูนะครับว่าวันนี้ คุณพบจุดหมายในชีวิต หรือยังและคุณพร้อมหรือยังที่จะลองเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
(เรียบเรียงจาก บทสื่อเสียงชุด "ถามชีวิต" www.jitdee.com)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 124 มีนาคม 2554 โดย นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิต สสส.)