นครพนม - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จวางศิลาฤกษ์สะพานข้ามโขงแห่งที่ 3 นครพนม-แขวงคำม่วน สปป.ลาว ชาวนครพนมกว่า 2,000 คนปลื้มรอรับเสด็จ
เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (6 มี.ค) ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตบ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ตรงข้ามบ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างสะพานข้ามโขงแห่งที่ 3 ระหว่างนครพนม-แขวงคำม่วน โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังจากทรงวางศิลาฤกษ์ที่ฝั่งลาว ได้เสด็จข้ามโขงเพื่อวางศิลาฤกษ์ในฝั่งไทย ซึ่งมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝั่งไทยและลาว มาร่วมงานและรับเสด็จจำนวนมาก โดยฝ่ายไทยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะที่ฝ่ายลาว นำโดยท่านบุญยัง วรจิตร รองประธานประเทศลาว
ขณะที่บริเวณฝั่งไทยได้มีข้าราชการประชาชนกว่า 2,000 คน มาร่วมรับเสด็จด้วยความปลาบปลื้ม ซึ่งก็มีการจัดการแสดงการฟ้อนรำประเพณีวัฒนธรรมอีสานสองฝั่งแม่น้ำโขง
นายสมทัติ บุญทะพาน ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในแง่ของนักลงทุนไทย-ลาว สะพานแห่งนี้เป็นที่รอคอยมานานกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาโครงการสะพานข้ามโขงยังไม่มีความชัดเจนทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าเสี่ยง เมื่อมีการวางศิลาฤกษ์ครั้งนี้เกิดขึ้นทำให้นักธุรกิจมีความเชื่อมั่น ซึ่งสังเกตุได้ว่าขณะนี้มีการเคลื่อนไหวทั้งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นแ ราคาที่ดินก็ปรับตัวสูงขึ้นนี่ คือ ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ที่สำคัญที่ผ่านมาเราได้มีการหารือระหว่างนักธุรกิจเพื่อนำบทเรียนจากการาร้างสะพานข้ามโขงหนองคายเท่าที่รู้หนองคายได้ประโยชน์ส่วนน้อยแต่จังหวัดอุดรกลับได้ประโยชน์มากกว่า ตรงนี้เราจะมีการหารือกันว่าเราจะปรับตัวอย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนมแขวงคำม่วนจะดำเนินการก่อสร้างด้วยวงเงิน 1,760 ล้านบาทมีกรมทางหลวงเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเมื่อสะพานแล้วเสร็จจะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลวงสายเอเชียจะเป็นจุดเชื่อมกับโยงกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับ สปป.ลาว ตามถนนหมายเลข 12-8 เชื่อมกับภาคกลางเวียตนาม ก็จะทะลุ สู่ทะเลเวียตนามสั้นที่สุดประมาณ 300 ก.ม. ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงการค้าเป็นการเปิดประตูอินโดจีนอย่างแท้จริง
เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (6 มี.ค) ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงเขตบ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ตรงข้ามบ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างสะพานข้ามโขงแห่งที่ 3 ระหว่างนครพนม-แขวงคำม่วน โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังจากทรงวางศิลาฤกษ์ที่ฝั่งลาว ได้เสด็จข้ามโขงเพื่อวางศิลาฤกษ์ในฝั่งไทย ซึ่งมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝั่งไทยและลาว มาร่วมงานและรับเสด็จจำนวนมาก โดยฝ่ายไทยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะที่ฝ่ายลาว นำโดยท่านบุญยัง วรจิตร รองประธานประเทศลาว
ขณะที่บริเวณฝั่งไทยได้มีข้าราชการประชาชนกว่า 2,000 คน มาร่วมรับเสด็จด้วยความปลาบปลื้ม ซึ่งก็มีการจัดการแสดงการฟ้อนรำประเพณีวัฒนธรรมอีสานสองฝั่งแม่น้ำโขง
นายสมทัติ บุญทะพาน ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในแง่ของนักลงทุนไทย-ลาว สะพานแห่งนี้เป็นที่รอคอยมานานกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาโครงการสะพานข้ามโขงยังไม่มีความชัดเจนทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าเสี่ยง เมื่อมีการวางศิลาฤกษ์ครั้งนี้เกิดขึ้นทำให้นักธุรกิจมีความเชื่อมั่น ซึ่งสังเกตุได้ว่าขณะนี้มีการเคลื่อนไหวทั้งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นแ ราคาที่ดินก็ปรับตัวสูงขึ้นนี่ คือ ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ที่สำคัญที่ผ่านมาเราได้มีการหารือระหว่างนักธุรกิจเพื่อนำบทเรียนจากการาร้างสะพานข้ามโขงหนองคายเท่าที่รู้หนองคายได้ประโยชน์ส่วนน้อยแต่จังหวัดอุดรกลับได้ประโยชน์มากกว่า ตรงนี้เราจะมีการหารือกันว่าเราจะปรับตัวอย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนมแขวงคำม่วนจะดำเนินการก่อสร้างด้วยวงเงิน 1,760 ล้านบาทมีกรมทางหลวงเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเมื่อสะพานแล้วเสร็จจะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลวงสายเอเชียจะเป็นจุดเชื่อมกับโยงกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับ สปป.ลาว ตามถนนหมายเลข 12-8 เชื่อมกับภาคกลางเวียตนาม ก็จะทะลุ สู่ทะเลเวียตนามสั้นที่สุดประมาณ 300 ก.ม. ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงการค้าเป็นการเปิดประตูอินโดจีนอย่างแท้จริง
