ม็อบเสื้อแดงจ๋อย กะไล่ รมว.คมนาคมตรวจสะพานโขงนครพนม เจอเสื้อน้ำเงินตะเพิดกระเจิง

นครพนม - ม็อบเสื้อแดงนครพนมจ๋อย ยกพวก 200 คนบุกสนามบินหวังไล่รัฐมนตรีคมนาคมตรวจสะพานข้ามโขง แต่เจอมวลชนเสื้อสีน้ำเงินกว่า 400 คน ขับพ้นสนามบิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้( 2 มี.ค.) ที่บริเวณท่าอากาศยานนครพนม ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงนครพนม 52 นำโดยนายเสวต ทินกูล อดีต ส.ส.ร.นครพนม พร้อมสมาชิก ประมาณ 200 คน เดินทางมาชูป้ายเตรียมขับไล่ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมคณะ ขณะเดินทางมาด้วยเที่ยวบินส่วนตัว เพื่อตรวจสถานที่เตรียมความพร้อมพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 บริเวณจุดก่อสร้างสะพานบ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 6 มีนาคม 2552

ขณะเดียวกันบริเวณภายในสนามบินได้มีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีน้ำเงิน ของพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย นำสมาชิกมาให้การต้อนรับประมาณ 400 คน โดยทางจังหวัด นำโดยนายบุญสนอง บุญมี ผวจ.นครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้มีการระดมตำรวจทหาร ไปดูแลความสงบเรียบร้อยกันไม่ให้มวลชนเสื้อแดงเข้าภายในสนามบิน หวั่นเกิดเหตุปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งมีการเปิดเครื่องเสียงไฮปาร์ค โจมตีกัน อย่างเข้มข้น

จนกระทั่งนายโสภณ ซารัมย์ เดินทางมาถึง แล้วขึ้นรถยนต์ อ้อมออกไปทางประตูด้านข้างของสนามบิน เพื่อไปตรวจความพร้อมสถานที่รับเสด็จ เตรียมจัดพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 และท่าเทียบเรือที่ก่อสร้างแล้วใช้งานไม่ได้ ที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของตำรวจทหารอย่างใกล้ชิด จากนั้นเสื้อแดงจึงสลายตัว

นายโสภณ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ไม่อยากพูดเรื่องการเมือง เพราะมาดูเรื่องสะพานที่จะเกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ ทั้งไทย – ลาว ซึ่งสะพานแห่งนี้เกิดขึ้นแน่นอน และจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการค้า คมนาคม ขนส่ง อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องปัญหาของประเทศอาจยังมีความไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

นายศุภชัย โพธิ์สุ กล่าวว่า ในการเดินทางมาของ รวม.คมนาคมครั้งนี้ ไม่ใช่มาเรื่องการเมือง เป็นเรื่องส่วนรวม ที่คนนครพนมและชาวไทยจะมีสะพานข้ามโขงแห่งที่ 3 แต่ยังมีกลุ่มการเมืองเสื้อแดงมาเคลื่อนไหวขับไล่ ขอบอกว่าไม่หนักใจ แต่เสียความรู้สึก เพราะเวลานี้ไม่อยากให้ทุกคนมาขัดแย้งกัน ควรหันมาร่วมกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เพราะการที่มีการแบ่งกลุ่ม หรือย้ายพรรค ที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น มันเป็นการหาทางช่วยให้ประเทศเดินหน้า ไม่ใช่เอาตัวรอด อยากให้ทุกคนมาร่วมมือกันดีกว่า