xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณจากพรรคแดง

เผยแพร่:   โดย: ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

9 กุมภาพันธ์ 2552 นายใจ อึ๊งภากรณ์ ได้ออกแถลงการณ์ สยามแดง เป็นแถลงการณ์ที่ด่าทอสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างรุนแรง พร้อมกับการเรียกร้องให้ม็อบสีแดงเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยให้เป็นสังคมนิยม

แถลงการณ์ฉบับนั้นได้ทำให้คนไทยจำนวนมากเชื่อว่ามีขบวนการของกบฏในราชอาณาจักรที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีอยู่จริง

แตกต่างจากการใส่ความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นกบฏ ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายที่ออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญและขับไล่รัฐบาลที่ผิดกฎหมาย

แถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ได้ทำให้นักวิชาการ ข้าราชการ นักเรียนที่ล่ารายชื่อเพราะฝักใฝ่ระบอบทักษิณ หรือเพราะต้องการเสรีภาพทางวิชาการด้วยการรณรงค์ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ต่างได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากแถลงการณ์สยามแดงของนายใจที่เขียนออกมาแบบทิ้งทวนและทิ้งเพื่อน โดยที่นายใจกลับหนีเอาตัวรอดอยู่คนเดียวในต่างแดน

คุณประโยชน์ของแถลงการณ์สยามแดงฉบับนั้น ก็คือทำให้ทุกอย่างชัดเจนเป็นที่สุด!

แถลงการณ์สยามแดงของนายใจ อึ๊งภากรณ์ ได้ทำให้เห็นตัวตนอย่างแท้จริงว่า
นายใจไม่ได้เป็นนักวิชาการที่มีความเชื่อและศรัทธาต่อลัทธิมาร์กซิสต์เท่านั้น แต่กลายเป็นนักวิชาการที่สนับสนุนทุนสามานย์ของระบอบทักษิณไปด้วย โดยนายใจได้เคยขึ้นเวทีคนเสื้อแดงที่รักทักษิณ ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2552 ปรากศรัยเอาไว้ความตอนหนึ่งว่า

“เป็นเกียรติที่ได้มาร่วมกับคนเสื้อแดง ประธานาธิบดีลิงคอร์นบอกว่า ประชาธิปไตยต้องมาจากประชาชน เพื่อประชาชน แต่ตอนนี้เป็นระบบอภิสิทธิ์ เพื่ออภิสิทธิชน เราต้องช่วยกันรื้อฟื้นการเมืองภาคประชาชน เพราะการเมืองภาคประชาชนเก่าเน่าเหมือนปลากระป๋อง เพราะไปร่วมกับพันธมิตรฯ เราจะต้องเรียกประชาสังคมให้สู้เพื่อประชาธิปไตย เราจะต้องชนะเพื่อต่อยอดนโยบายพรรคไทยรักไทย สร้างรัฐสวัสดิการ เก็บภาษีคนรวย ให้คนไทยเป็นพลเมืองที่มีศักดิ์ศรี"

แถลงการณ์สยามแดง ที่ทิ้งทวนและทิ้งเพื่อนของนายใจ ยังทำให้มีความชัดเจนว่าขบวนการเสื้อแดงที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น คือคนที่ได้ขึ้นบนเวทีเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณ และปรากฏเห็นเป็นภาพ ขบวนการต่อต้านสถาบันกษัตริย์และคนรักทักษิณคือแนวร่วมกันบนเวทีสีแดงเป็นที่ประจักษ์

แต่ลูกศิษย์ลูกหาและสาวกของนายใจบางส่วนที่ไม่ได้สนับสนุนระบอบทักษิณ คงจะต้องหัวใจสลาย เมื่อนายใจได้เข้าร่วมกับขบวนการเสื้อแดงที่รักทักษิณและสนับสนุนทุนสามานย์

นักวิชาการและผู้คนที่เข้าชื่อกันเพื่อที่จะยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพส่วนใหญ่ได้ถอยร่นแตกกระเจิง เพราะแถลงการณ์สยามแดง ทำให้สังคมเชื่อหรือจับได้ว่าคนที่ต้องการยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นมีเป้าหมายเหมือนกับนายใจคือการบ่อนทำลายพระมหากษัตริย์และไม่ใช่ต้องการเพียงแค่เสรีภาพทางวิชาการตามที่กล่าวอ้าง

นอกจากบนเวทีคนเสื้อแดงที่ผ่านมาจะได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจำนวนมากแล้ว ยังปรากฏอีกด้วยว่าผู้ชุมนุมได้ถูกปลูกฝังทางความคิดจนมีข่าวปรากฏออกมาว่าเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 ในวันที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนขบวนมาที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเพลง “รูปที่มีทุกบ้าน” ซึ่งขับร้องโดยเบิร์ด หรือนายธงไชย แมคอินไตย ซึ่งเนื้อหาเพลงบอกเล่าให้พสกนิกรจงรักภักดี แต่เมื่ออินโทรเพลงดังขึ้น กลับปรากฏว่ากลุ่มคนเสื้อแดงถึงกับส่งเสียงโห่ดังลั่น ขณะที่แกนนำคนเสื้อแดงบนเวทีบางคนยังคงปราศรัยอย่างเมามัน ทั้งนี้ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการเปิดเพลง “รักกันไว้เถิด” อีกเพลง แต่การเปิดเพลงนี้กลับไม่มีเสียงโห่ออกมาจากกลุ่มคนเสื้อแดง

กลุ่มคนเสื้อแดงที่อ้างว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ใช้สิทธิในการแสดงความคิดเห็น แต่วิธีการกลับเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน และทำร้ายคนที่คิดเห็นแตกต่างจากพวกตัวเอง

ขนาดชุมนุมสั้นๆ เพียงแค่ 3 วัน ยังไปลากทหารที่ปฏิบัติราชการอยู่ริมรั้วกองทัพภาคที่ 1 มาที่ชุมนุม ใส่กุญแจมือแล้วรุมกระทืบใจกลางเมือง พอสลายการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ก็ขนคนจากเชียงใหม่ไปก่อกวนที่พิษณุโลกเข้าไปรุมทำร้ายร่างกายประชาชนตามท้องถนนที่เห็นแตกต่างจากตัวเองอย่างไร้สติ ยังไม่นับการรุมฆาตกรรมพันธมิตรฯ ที่จัดวิทยุชุมชนใจกลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว

จึงย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงนั้นนิยมใช้ความรุนแรง เป็นอันธพาลละเมิดสิทธิมนุษยชน เมาสุรา กลัวแดด ไม่อดทน และยังถูกกล่าวหาว่าเป็นม็อบรับจ้างที่ประพฤติปฏิบัติตนมาชุมนุมกันเดือนละครั้งไม่เกิน 7 วัน จนมีประชาชนขนานนามไปต่างๆนานา เช่น ม็อบประจำเดือนมา, ม็อบกลัวแดด, ม็อบกระจอก, ม็อบหลอกแดก, ม็อบกุ๊ย ฯลฯ

ความเป็นจริงของม็อบเสื้อแดงเป็นอย่างไร ต้องไปอ่านคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.อุทัย ชินวัตร ผู้เป็นญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปรากฏในหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ ฉบับประจำวันที่ 22 – 28 กุมภาพันธ์ 2552 ความตอนหนึ่งว่า:

“ทักษิณควรจะบอก (เพื่อไทยและคนเสื้อแดง)ว่าอย่ามายุ่งกับผมเลย ให้ผมสบายๆ เราก็สงสารเขานะ เหมือนคนมีกรรม ตั้งแต่อยู่มาผมเห็นคนไปไถเงินตลอด...เวลานี้ก็ไม่ใช่ทักษิณทำนะ เสื้อแดงเนี่ย ไม่รู้ใครต่อใครทำ ขอเงินทักษิณจนหมดตัวแล้วมั้ง”

สภาพทุกลักทุเลของม็อบเหล่านี้ ทำให้นักวิชาการ และสื่อมวลชนที่สนับสนุนระบอบทักษิณต้องผิดหวัง อับอายขายหน้า เพราะถูกประชาชนจับได้ไล่ทันว่าม็อบเหล่านี้เป็นของปลอมที่ไม่ได้ตั้งมั่นอยู่ในธรรม

ไม่เว้นแม้แต่นายใจ อึ๊งภากรณ์ ซึ่งคาดหวังกับกลุ่มคนเสื้อแดงถึงขั้นจะไปเปลี่ยนแปลงประเทศ ยังไม่เชื่อมั่นในการนำของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ว่าจะทำให้ฝันของตัวเองสำเร็จได้หรือไม่?

วันที่ 1 มีนาคม 2552 นายใจ อึ๊งภากรณ์ ได้ออกบทความหลังจากแถลงการแดงสยามผ่านกระจายมาทางอีเมล ใช้ชื่อบทความว่า “เราควรเริ่มสร้างพรรค “แดง” อย่างไร?”

นายใจ อึ๊งภากรณ์ได้เขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อส่งสัญญาณเสนอแนะให้ตั้ง “พรรคแดง” ซึ่งเป็นการสร้างจากพลเมืองรากหญ้า ให้มีการจัดตั้งลงทะเบียนอย่างเป็นระบบ สร้างกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาผู้นำชุมชน โดยบทความบางตอนของชิ้นนี้ได้บ่งบอกความไม่เชื่อมั่นว่าการนำของกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มนี้จะนำไปสู่ความมุ่งหวังของนายใจได้ ดังปรากฏความตอนหนึ่งว่า:

เพราะคนเสื้อแดงบางส่วนเคยตั้งความหวังและผิดหวังกับคนอย่างเนวิน ที่จำหน่ายตั๋วเปลี่ยนข้าง หรือทุกวันนี้เราอาจมองว่าแกนนำเสื้อแดงในส่วนที่เป็นนักการเมืองเก่า อาจ “ไปไม่ถึง” “ย่ำอยู่กับที่” โดยที่ไม่มีข้อเสนอใหม่ๆ ตามความต้องการของมวลชน

หากความแหลมคมของสถานการณ์มาถึงจุดหนึ่ง จนถึงขนาดที่ฝ่ายทหาร พรรคประชาธิปัตย์และ “เส้นใหญ่” ต้องการประนีประนอม ซึ่งทำให้แกนนำ เสื้อแดงบางส่วนที่ “ใจไม่ถึง” พะว้าพะวงไม่แน่ใจว่าจะไปอย่างไรดี จนต้องยุติการชุมนุมนั้น... คนเสื้อแดงธรรมดาจะมีส่วนร่วมในการออกแบบมาตรฐานใหม่อย่างไรเพื่อไม่ให้การเมืองไทยวุ่นวายอยู่ในวงจรอุบาทว์แบบเดิม?

สัญญาณนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองกำลังไม่เชื่อมั่นการนำของเสื้อแดงอีกกลุ่มหนึ่งที่ลังเล ย่ำอยู่กับที่ ใจไม่ถึง และอาจมีคนบางกลุ่มทำมาหากินไถเงินจากทักษิณไปวันๆ อย่างไร้อุดมการณ์อีกด้วย

แล้วพรรคแดงของนายใจ อึ๊งภากรณ์ มีลักษณะเป็นเช่นใด ก็ให้ไปดูเป้าหมายของแถลงการณ์สยามแดงที่ได้ประกาศเอาไว้ความตอนหนึ่งระบุว่า:

“สร้างระบบสาธารณรัฐในประเทศไทยเพื่อให้ทุกตำแหน่งมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน เพื่อสร้างสังคมที่มีประชาธิปไตยเต็มใบและไม่มีชนชั้น ปราศจากการกดขี่ขูดรีด... ระบบสังคมนิยมนั้นเอง แต่นั่นเป็นเป้าหมายระยะยาว”

แถลงการณ์สยามแดงสนใจเพียงแค่รูปแบบที่ไร้เดียงสาว่าทุกตำแหน่งมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเพื่อทำให้สังคมไทยไม่มีชนชั้นแล้วจะทำให้สังคมไทยพ้นจากอุบาทว์ ทั้งๆ ที่กรรมการการเลือกตั้งบางคนเพิ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดปัจจุบันนั้นเป็นของปลอม! แล้วเราจะไว้ใจระบบการเลือกตั้งของปลอมที่เป็นต้นธารแห่งอำนาจทางการเมืองสกปรกเพียงอย่างเดียวได้อย่างไร?

เพราะการเมืองที่ได้มาจากการเลือกตั้งที่สกปรก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเผด็จการรัฐสภาโดยทุนนิยมสามานย์ที่นำไปสู่การเแบ่งสรรเก้าอี้รัฐมนตรีตามสัดส่วนของมุ้งการเมืองและนายทุน การทุจริตคอร์รัปชัน การปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน การเข่นฆ่าประชาชนใจกลางเมืองได้โดยไม่มีคนต้องรับผิด การพยายามแก้ไขกฎหมายเพื่อฟอกความผิดของตัวเองอย่างไร้ยางอาย ตลอดจนการใช้เงินติดสินบนตุลาการ นี่หรอกหรือคือคำตอบของการเมืองที่จะไม่อุบาทว์ต่อไป?

ธงแดงที่ทำมาหากินกับเงินในระบอบทักษิณก็สนใจแต่การกินหัวคิว อ่อนแอและขาดความชอบธรรมลงเรื่อยๆ ในขณะธงแดงของพวกหวังเปลี่ยนแปลงการปกครองก็ไร้เดียงสา และไม่มีทางที่สังคมส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะยอมรับได้

สัญญาณที่ส่งมาจากนายใจ อึ๊งภากรณ์ สะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายแดงกำลังพ่ายแพ้อย่างยับเยิน!
กำลังโหลดความคิดเห็น