xs
xsm
sm
md
lg

HSBCประกาศเพิ่มทุน$17,700ล้าน หลังกำไรวูบ-เจอหนี้เสียบานในUS

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – เอชเอสบีซี แบงก์ใหญ่สัญชาติอังกฤษที่เป็นธนาคารใหญ่ที่สุดในยุโรป อีกทั้งมีกิจการกว้างขวางในเอเชีย ประกาศออกหุ้นเพิ่มทุนมูลค่า 12,500 ล้านปอนด์ (17,700 ล้านดอลลาร์) เมื่อวานนี้(2) เพื่อระดมเม็ดเงินมาประคองงบดุลของตนเอง หลังจากกำไรหดลงไปมากกว่าครึ่ง และหนี้เสียในสหรัฐฯกำลังพุ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
เอชเอสบีซีวางแผนจะออกขายหุ้น 5,100 ล้านหุ้นในราคา 254 เพนนีต่อหนึ่งหุ้น จึงจะกลายเป็นการออกหุ้นใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ โดยราคานี้ต่ำกว่าราคาปิดของหุ้นเอชเอสบีซีเมื่อวันศุกร์(27ก.พ.) ซึ่งอยู่ที่ 491.25 เพนนี ราว 48%
นักลงทุนหลายคนกล่าวว่าพวกเขาจะซื้อหุ้นใหม่เหล่านี้ แต่ก็ต้องการให้ฝ่ายบริหารของธนาคารแก้ไขปัญหาทั้งหลายที่จะส่งผลถึงราคาของหุ้นให้ลุล่วงไปด้วย
“การออกขายหุ้นใหม่ครั้งนี้ตั้งราคาต่ำกว่าตลาดคาดหมายไว้มาก แต่ก็น่าจะเป็นผลดีสำหรับผู้ถือหุ้นปัจจุบันซึ่งจะสามารถคงสัดส่วนเดิมเอาไว้ได้” วาย เค ลี นักวิเคราะห์จากคอร์ แปซิฟิก ยามาอิชิ ในฮ่องกงกล่าว
เอชเอสบีซีแถลงวานนี้ด้วยว่า ยอดกำไรก่อนหักภาษีของเมื่อปีที่แล้วร่วงลงถึง 62% มาเหลือ 9,300 ล้านดอลลาร์ จาก 24,200 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการตั้งสำรองเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินเป็นมูลค่าถึง 10,600 ล้านดอลลาร์
เมื่อหักส่วนสำรองดังกล่าวแล้ว ก็ทำให้กำไรก่อนหักภาษีหล่นลงไป 18% เหลือ 19,900 ล้านดอลลาร์ กระนั้นก็ยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ที่คาดกันไว้ที่ 19,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามราคาหุ้นเอชเอสบีซีในตลาดลอนดอนก็ดิ่งลง 10.1% มาอยู่ที่ 441.5 เพนนีในช่วงต้นๆ ของการซื้อขายวานนี้
นอกจากนี้ เอชเอสบีซียังแจ้งในคราวนี้ด้วยว่า จะลดการจ่ายเงินปันผลสำหรับทั้งปีลงไป 29% คือเหลือ 64 เซนต์ต่อหุ้น และกล่าวว่าจะปิดกิจการธุรกิจเงินกู้ส่วนบุคคลในสหรัฐฯที่ชื่อ เอชเอฟซี เพราะกำลังมีปัญหาอย่างหนัก
เอชเอสบีซีขาดทุนในอเมริกาเหนือเมื่อปีที่แล้วเท่ากับ 15,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งกรณีการสำรองสำหรับการลดค่าของสินทรัพย์แล้ว ปัญหาส่วนหนึ่งนั้นมาจากการเข้าซื้อกิจการ “เฮ้าส์โฮลด์” ซึ่งเป็นผู้ให้กู้รายย่อยของสหรัฐฯ โดยเอชเอสบีซีซื้อมาเมื่อหกปีก่อนด้วยมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์
“ตอนนี้เรายังมองไม่เห็นกำไรเลย และเป็นการควบรวมที่เมื่อมองกลับไปแล้วเราไม่ควรทำเลย” สตีเฟน กรีน ประธานของเอชเอสบีซีแถลง

ธนาคารกล่าวว่าจะปิดสาขาส่วนใหญ่ของเอชเอฟซี และธุรกิจภายใต้แบรนด์ เบเนฟิเชี่ยล ในสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้มีพนักงานตกลงถึง 6,100 คน อีกทั้งทำให้ยกเว้นธุรกิจบัตรเครดิตแล้ว หน่วยงานของเอชเอชบีซีในสหรัฐฯก็จะเลิกทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยในประเทศนี้ไปเลย
การประกาศออกหุ้นใหม่คราวนี้ ทำให้หุ้นของเอชเอสบีซีส่วนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงถูกแขวนป้ายห้ามซื้อขายชั่วคราวเมื่อวานนี้ ส่วนหุ้นที่ซื้อขายในลอนดอนนั้น ราคาปิดเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ 491.25 เพนนี หรือรวมแล้วแบงก์แห่งนี้เท่ากับมีมูลค่าตามราคาตลาดที่ 85,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้มีอันดับแซงหน้าเจพีมอร์แกนเชสในฐานะธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในตลาดระหว่างประเทศซึ่งไม่นับรวมจีน
เอสเอชบีซีโดยธรรมชาติแล้ว ถือเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีเงินทุนแข็งแกร่งที่สุดในโลก และยังไม่เคยประกาศระดมทุนเพิ่ม ในช่วงที่วิกฤตการเงินรุนแรงจนส่งผลให้บรรดาคู่แข่งต้องทำเช่นนี้ไปก่อนแล้ว หรือไม่ก็ถึงขั้นต้องขอรับความช่วยเหลือจากทางการ
ดักลาส ฟลินท์ผู้อำนวยการด้านการเงินของเอชเอสบีซี กล่าวว่าธนาคารอาจต้องการระดมทุนเพื่อหนุนการควบรวมกิจการของธนาคาร เพราะตอนนี้คู่แข่งอื่น ๆต่างกำลังอ่อนแอและล่าถอยไปจากตลาดการซื้อกิจการระหว่างประเทศกันหมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารที่กำลังพึ่งความช่วยเหลือของรัฐบาล
“เราต้องการวางสถานะของเราให้รักษาตัวเองได้ในช่วงเวลาวิกฤต และสามารถสร้างโอกาสขยายตัวได้ในช่วงที่มีทางเลือกหลากหลาย” ฟลินท์กล่าว “แม้ว่าตอนนี้เรายังไม่ได้เคลื่อนไหว แต่เราเชื่อว่าโอกาสมากมายจะมาถึงธนาคารในที่สุดและเราก็มีศักยภาพที่จะเลือกทางเลือกต่าง ๆได้”
กำลังโหลดความคิดเห็น