xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.นัดถกสมาคมโบรกฯหาทางฟื้นตลาดหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมเรียกสมาคมโบรกเกอร์หารือสัปดาห์หน้า หวังระดมความสมองแก้ไขอุปสรรคให้มูลค่าการซื้อขายตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังวอลุ่มเงียบเหงามาตั้งแต่ต้นปี 52 ด้าน “ภัทรียา” แจงแม้ภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อ แต่ยังมีช่องทางหาผลตอบแทนที่ดีจากลงทุนหุ้นกู้เอกชน -อนุพันธ์ ล่าสุดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังดิ่งต่ออีก 15 จุด สอดคล้องตลาดหุ้นเอเชีย หลังเจอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังย่ำแย่ บวกกับปัญหาสถาบันการเงินยังวิกฤต
บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงตามดัชนีดาวโจนส์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้า จากแรงเทขายที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง กดดันให้ดัชนียังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ระหว่างการซื้อขายดัชนีปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 428.95 จุด ต่ำสุดที่ 415.32 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 416.52 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้าถึง 15.00 จุด หรือคิดเป็น 3.48% มูลค่าการซื้อขายรวม 8,057.81 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง คือ มียอดขายสุทธิ 305.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,029.67 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,334.74 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปี 2552 รวมทั้งสิ้น 7,999.61 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.บ้านปู (BANPU) ราคาปิดที่ 195 บาท ลดลงจากวันก่อน 17 บาท หรือคิดเป็น 8.02% มูลค่าการซื้อขาย 852.20 ล้านบาท บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิดที่ 83 บาท ลดลง 6 บา หรือ 6.74% มูลค่า 826.48 ล้านบาท และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปิดที่ 51.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 8.04% มูลค่า 598.76 ล้านบาท
ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียหลักๆ ต่างปรับตัวลดลงกันอย่างถ้วนหน้า อาทิ ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเออิ ปิดที่ 7,280.15 จุด ลดลงจากวันก่อน 288.27 จุด หรือคิดเป็น 3.81% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 12,317.46 จุด ลดลง 494.11 จุด หรือ 3.9% ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 4,425.83 จุด ลดลง 131.32 จุด หรือ 2.88% และตลาดหุ้นเกาหลี ปิดที่ 1,018.81 จุด ลดลง 44.22 จุด หรือ 4.16%
***นัดสมาคมบล.ถกฟื้นตลาดหุ้นไทย
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยแนวทางการแก้ไขปัญหาภาวะตลาดหุ้นที่ซบเซาอยู่ในขณะนี้ ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเชิญสมาชิกของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) เข้ามาหารือในสัปดาห์หน้า ถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่อุปสรรคและต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนให้สภาพคล่องในการซื้อขายปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการที่จะดูแลบริษัทหลักทรัพย์ หลังจากภาวะตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปี 52 ถึงปัจจุบันนักลงทุนได้ชะลอการซื้อขายฉุดให้มูลค่าการซื้อขายลดลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินสหรัฐฯ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้นักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขาย
“ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา จะเชิญสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ มาหารือถึงมาตรการที่ต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วยเหลือ เกี่ยวกับการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรค เพื่อที่จะเอื้อให้สภาพคล่องการซื้อขายปรับตัวดีขึ้น เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่สามารถตัดสินใจแทนได้ แต่ต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้ามาให้ข้อมูล”
อย่างไรก็ตาม ดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นการปรับตัวลดลงทั้งตลาดหุ้นภูมิภาคที่ดัชนีลดลงจากปี 2551 มากกว่า 50% จากวิกฤตทางการเงินโลก ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเพื่อฟื้นความมั่นใจให้กลับคืนมา แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โลกเช่นกัน สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯทำได้คือการให้ข้อมูลและเพิ่มทางเลือกในการลงทุนแก่นักลงทุนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากนั้นถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน ซึ่งตลาดอนุพันธ์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถลงทุนได้ทั้งช่วงภาวะตลาดหุ้นขาขึ้นและลง โดยเฉพาะในต่างประเทศใช้ตลาดอนุพันธ์ในการลงทุนเช่นกัน ซึ่งขณะนี้วอลุ่มของตลาดอนุพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา60% รวมถึงตลาดตราสารหนี้ ให้ผลอตอบแทนที่ดี แต่นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนที่มีการจัดอันดับ (เรทติ้ง) ที่ดี ที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีในระยะยาวได้
***หุ้นไทยดิ่งตามตลาดหุ้นเอเชีย***
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝายกลยุทธ์การลงทุน บล. ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 ก.พ.) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง จากความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อภาคธนาคารของสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มซิตี้ กรุ๊ป ที่คาดว่าปัญหาต่างๆ จะยังไม่สามารถยุติได้ แม้รัฐบาลภายใต้การนำของนายบารัค โอบามา จะเข้ามาถือหุ้นกลุ่มดังกล่าวแล้ว
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดดัชนีตลาดหุ้นจะยังคงปรับตัวอยู่ในแดนลบ แต่นักลงทุนควรจับตาการรายงานผลประกอบการของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ราคาน้ำมันโลก และตลาดหุ้นใางประเทศ ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนควรชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ โดยประเมินแนวรับอยู่ที่ 400-410 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 420-425 จุด
***เตือนนักลงทุนหยุดเทรด-ถือเงินสด
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กล่าวว่า จากความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อสถาบันการเงินสหรัฐฯ หลังกลุ่มซิตี้กรุ๊ปขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม รวมถึงการประกาศตัวเลขอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาส 4/51 ของสหรัฐฯ ที่ออกมาติดลบกว่า 6.2% และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวานนี้มีแรงเทขายออกมาตลอดทั้งวัน
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยลบการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเดือนมกราคม 52 ออกมาย่ำแย่ โดยดัชนีการบริโภคหดตัว 4.5% ส่วนภาคเอกชนมีการลงทุนลดลง 7.9% ขณะที่ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมร่วงลงอย่างต่อเนืองอีก 21.3% ได้กลายเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดให้ดัชนีปิดในแดนลบ
“นักลงทุนควรรอดูทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชีย ราคาน้ำมันโลก ตลอดจนความเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศ จึงแนะนำให้นักลงทุนควรหยุดลงทุนและถือเงินสด โดยมีแนวรับที่ 408 จุด แนวต้านที่ 420 จุด”
นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ รูดลงอย่างต่อเนื่องตลอดวัน สอดคล้องกับดัชนีดาวโจนส์และตลาดหุ้นในเอเชียปรับตัวอยู่ในแดนลบ หลังนักลงทุนกังวลต่อความมั่นคงทางการเงินของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ขณะที่ความเคลื่อนไหวในประเทศไม่มีผลต่อดัชนีมากนักเพราะอยู่ในช่วงรอผลของเม็ดเงินที่รัฐบาลอัดฉีดลงไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่ายังย่ำแย่ โดยนักลงทุนควรรอดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมันโลก เพราะฉะนั้นในช่วงนี้นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจน ซึ่งมองแนวรับอยู่ที่ 410 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 420 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น