xs
xsm
sm
md
lg

คิวเฮ้าส์ฉีกตลาดบ้านจัดสรร ผุดแบรนด์ซุปเปอร์ไฮเอนด์”Q”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – คิวเฮ้าส์ยกระดับการพัฒนาโครงการบ้านหรู เล็งเปิดแบรนด์ซุปเปอร์ไฮเอนด์  “Q”  บ้านราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท ประเดิมตลาดกลางปีหน้า ส่วนคอนโดฯ ราคาเริ่มต้น ตร.ม.ละ 2 แสนบาท เริ่มกลางปีนี้ เชื่อเศรษฐกิจทรุดลูกค้าขนหน้าแข้งไม่ร่วง  พร้อมปรับแผนเน้นรักษาสภาพคล่อง ปี 52 งดซื้อที่ดิน

นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “QH” เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินงานใหม่หมด โดยหันมาเน้นรักษาสภาพคล่อง และปรับแผนดำเนินงานทุกไตรมาสให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ โดยเน้นรักษาสภาพคล่อง ลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะในปีนี้จะไม่ลงทุนซื้อที่ดินเพิ่ม  ซึ่งในปีนี้บริษัทจะใช้งบลงทุนทั้งปีเพียง 6,000 ล้านบาท น้อยกว่าปีก่อนที่ใช้งบลงทุน 10,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ได้ปรับแผนการพัฒนาโครงการ โดยลดสต๊อกสินค้าให้เหมาะสมกับภาวะตลาดและยอดขาย ซึ่งโครงการใดขายดีก็จะสร้างสต๊อกตามปกติ แต่หากโครงการใดที่ยอดขายชะลอตัวก็จะลดสต๊อกลงหรือชะลอแผนการเปิดเฟสต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโซนบางนาสุวรรณภูมิที่มียอดช้า ส่วนหนึ่งอาจมาจากการแข่งขันที่สูง และมีการย้ายที่อยู่อาศัยไปบางส่วนแล้ว

ในส่วนโครงการในเครือของคิวเฮ้าส์ ที่มียอดขายดีที่สุดในปัจจุบัน คือ โครงการในบริษัท คาซ่า วิลล์ จำกัด ได้แก่ คาซ่า วิลล์ พระราม 2 จำนวน 250 ยูนิต เปิดขายเพียง 1 สัปดาห์มียอดขายแล้ว 40 ยูนิต แม้ว่าภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวไปบ้าง แต่ก็ยังมียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดระดับบนที่บริษัททำตลาดอยู่ และเพื่อเป็นการหาตลาดใหม่ บริษัทจึงมีแผนที่จะออกแบรนด์ “ Q “ ขึ้นมา เพื่อจับกลุ่มลูกค้าระดับซุปเปอร์ไฮเอนด์ ทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม

โดยโครงการบ้านเดี่ยวจะมีโครงการละไม่เกิน 20 ยูนิต ราคาตั้งแต่  50 ล้านบาทขึ้นไป โดยโครงการแรกได้ซื้อที่ดินเข้ามาแล้วบนถนนสาทร-กาญจนาภิเษก เนื้อที่ 30 ไร่ พัฒนาบ้านเดี่ยวขนาด 300 ตารางวา (ตรว.) ขึ้นไป จำนวน 12 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700-800 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างวางแผนออกแบบ คาดว่าจะเปิดขายได้ในกลางปีหน้า

“ คิวเฮ้าส์เคยพัฒนาบ้านหรูมาตลอด ทำให้รู้ว่าคนรวยเค้าต้องการอะไรบ้าง ต้องมีความพิเศษตรงไหน การพัฒนาจะต้องสมบูรณ์แบบ  ลูกค้ากลุ่มนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ หรือแม้จะได้รับผลกระทบบ้างก็เพียงทำให้เงินน้อยลงเท่านั้น แต่กำลังซื้อยังมีมากอยู่ แต่โครงการแบรนด์ Q จะต้องอยู่ในทำเลที่ดีจริงๆ จึงจะขายได้และที่ดินแปลงดีๆหายาก” นายรัตน์กล่าวและว่า

ในส่วนโครงการคอนโดฯ “Q Langsuan” โครงการระดับซุปเปอร์ไฮเอนด์ มูลค่าโครงการประมาณ 3,400 ล้านบาท ระดับราคาขาย 180,000 – 200,000  บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) โดยมีห้องเพนท์เฮาส์ 2 ยูนิต ราคา 150 ล้านบาทขึ้นไป

 นายรัตน์กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจว่า ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเห็นได้ชัดในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา โดยในเดือนต.ค. 2551 ยอดขายเริ่มชะลอตัวลง หลังจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ยอดขายไม่เข้า เป้าจากที่ตั้งไว้ 3,000 กว่าล้านบาท เหลือเพียง 2,000 กว่าล้านบาท พอเข้าสู่เดือนม.ค.ปีนี้ ยอดขายก็หายไปจำนวนมาก และเริ่มกลับสู่ภาวะปกติในปลายเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าในไตรมาส 1 บริษัทจะมียอดขาย 1,500 ล้านบาท

สำหรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้จะมีทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่า 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 5 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 8,520 ล้านบาท โครงการคอนโดฯจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 5,700 ล้านบาทคือ“Q Langsuan” และ “Q. House Condo Sathorn” คอนโดฯติดรถไฟฟ้า มูลค่าโครงการประมาณ 2,300 ล้านบาท ระดับราคาขายประมาณ 74,000 – 94,000 บาทต่อตร.ม. ทั้ง 2 โครงการ คาดว่าจะเริ่มเปิดขายไตรมาส 2 ของปี
กำลังโหลดความคิดเห็น