"สิทธิชัย เจริญขจรกุล" กลุ่ม"เบสท์ โอเชี่ยน กอล์ฟ" และเจ้าของธุรกิจคลังสินค้าไม่หวั่นภาวะเศรษฐกิจ ประกาศลุยธุรกิจอสังหาฯเต็มรูปแบบ ล่าสุดเตรียมเนรมิตที่ดินกว่า 2,800 ไร่ ย่านพระราม 2 สมุทรสาคร ผุดโครงการ เบสท์ โอเชี่ยน แอร์พาร์ค บ้านหรูพร้อมรันเวย์และลานจอดเครื่องบินหน้าบ้าน สนามกอล์ฟ 3 สนาม, โรงแรม รีสอร์ท มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมเปิดโครงการบ้านเดี่ยวย่านพระราม 3 - หาดใหญ่
นายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โอเชี่ยน กอล์ฟ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ และคลังสินค้า สนามกอล์ฟ โดยมีบริษัทในเครือกว่า 15 แห่ง เปิดเผยว่า ตนได้ซื้อที่ดินบนถนนพระราม 2 เนื้อที่กว่า 2,800 ไร่ จากบริษัท สาริน แพลนเนอร์ จำกัด โดยมีแผนที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพยแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ "เบสท์ โอเชี่ยน แอร์ปาร์ค" ประกอบด้วย สนามกอล์ฟ, สปอร์ต คอมเพล็กซ์, โรงแรม, บ้านจัดสรร มูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุน 5,000-7,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนพัฒนาสนามกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม 1 สนาม และรีสอร์ท จำนวน 60 หลัง บนเนื้อที่ 10 ไร่ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว
ล่าสุด นำพื้นที่กว่า 200 ไร่ มาพัฒนาเป็นบ้านหรูพร้อมลานจอดเครื่องบินหน้าบ้าน พร้อมรันเวย์สำหรับเครื่องบินเล็กความยาว 800 เมตร จำนวน 62 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 16-29 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันขายไปแล้ว 2 ยูนิต ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ขับเครื่องบินเล็กทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้แก่กลุ่มดังกล่าว โดยบริษัทจะรับบริหารจัดการให้ลูกค้า
"การเสนอขายโครงการเบสท์ โอเชี่ยน แอร์พาร์ค ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการลงทุนในหุ้นก็ไม่ดี ฝากเงินก็ติดลบ ทำให้มูลค่าเงินลดลง ซึ่งการลงทุนในอสังหาฯจึงเป็นวิธีการลงทุนที่ดีที่สุดในขณะนี้ อีกทั้งโครงการบ้านพร้อมลานจอดเครื่องบิน และรันเวย์ในเมืองไทยมีเพียง 2 โครงการเท่านั้น คือ ที่พัทยาและโครงการเบสท์ โอเชี่ยนทำให้ไม่มีคู่แข่งในทางธุรกิจ"
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุมเพิ่มอีก 2 สนาม โดยคาดว่าจะใช้เวลาพัฒนาประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นจะเริ่มนำที่ดินรอบสนามกอล์ฟอีกกว่า 1,000 ไร่มาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ซึ่งเชื่อว่าหากขายในช่วงที่มีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคครบครันจะได้รับความสนใจจากลูกค้ามากกว่า และได้ในราคาสูงกว่าปัจจุบัน
นายสิทธิชัย กล่าวว่า นอกจากโครงการดังกล่าว บริษัทยังมีที่ดินย่านพระราม 3 พัฒนาเป็นโครงการทาวน์โฮมจำนวนกว่า 20 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท และที่ดินในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขนาด 75 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ บ้านกลางเมือง จำนวน 200 ยูนิต ราคา 4 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากจากนี้ยังจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นไฟแนนซ์เชียล สตีท ด้วยการเจรจากับสถาบันการเงินต่างๆ ให้มาเปิดบริการภายในโครงการ
อนึ่ง บริษัท เบสท์ โอเชี่ยน กอล์ฟ จำกัด ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนจำนวน 700 ล้านบาท และมีรายได้ในปีนี้ประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนรายได้ทั้งกลุ่มประมาณ 300 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทคาดว่า โครงการ เบสท์ โอเชี่ยน แอร์ปาร์ค จะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 3 ปี นับจากนี้ ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยตัวเอง จากเดิมก่อนหน้านี้บริษัทมีแผนที่จะใช้วิธีแลกหุ้นเพิ่มทุนกับ บมจ.แอ๊ดว้านซ์เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล (ไทยแลนด์) (APC) แต่ตามกฎของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ไม่อนุญาติให้ดำเนินการได้
นายสิทธิชัย เจริญขจรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โอเชี่ยน กอล์ฟ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ และคลังสินค้า สนามกอล์ฟ โดยมีบริษัทในเครือกว่า 15 แห่ง เปิดเผยว่า ตนได้ซื้อที่ดินบนถนนพระราม 2 เนื้อที่กว่า 2,800 ไร่ จากบริษัท สาริน แพลนเนอร์ จำกัด โดยมีแผนที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพยแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ "เบสท์ โอเชี่ยน แอร์ปาร์ค" ประกอบด้วย สนามกอล์ฟ, สปอร์ต คอมเพล็กซ์, โรงแรม, บ้านจัดสรร มูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุน 5,000-7,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนพัฒนาสนามกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม 1 สนาม และรีสอร์ท จำนวน 60 หลัง บนเนื้อที่ 10 ไร่ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว
ล่าสุด นำพื้นที่กว่า 200 ไร่ มาพัฒนาเป็นบ้านหรูพร้อมลานจอดเครื่องบินหน้าบ้าน พร้อมรันเวย์สำหรับเครื่องบินเล็กความยาว 800 เมตร จำนวน 62 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 16-29 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันขายไปแล้ว 2 ยูนิต ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ขับเครื่องบินเล็กทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้แก่กลุ่มดังกล่าว โดยบริษัทจะรับบริหารจัดการให้ลูกค้า
"การเสนอขายโครงการเบสท์ โอเชี่ยน แอร์พาร์ค ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการลงทุนในหุ้นก็ไม่ดี ฝากเงินก็ติดลบ ทำให้มูลค่าเงินลดลง ซึ่งการลงทุนในอสังหาฯจึงเป็นวิธีการลงทุนที่ดีที่สุดในขณะนี้ อีกทั้งโครงการบ้านพร้อมลานจอดเครื่องบิน และรันเวย์ในเมืองไทยมีเพียง 2 โครงการเท่านั้น คือ ที่พัทยาและโครงการเบสท์ โอเชี่ยนทำให้ไม่มีคู่แข่งในทางธุรกิจ"
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุมเพิ่มอีก 2 สนาม โดยคาดว่าจะใช้เวลาพัฒนาประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นจะเริ่มนำที่ดินรอบสนามกอล์ฟอีกกว่า 1,000 ไร่มาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ซึ่งเชื่อว่าหากขายในช่วงที่มีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคครบครันจะได้รับความสนใจจากลูกค้ามากกว่า และได้ในราคาสูงกว่าปัจจุบัน
นายสิทธิชัย กล่าวว่า นอกจากโครงการดังกล่าว บริษัทยังมีที่ดินย่านพระราม 3 พัฒนาเป็นโครงการทาวน์โฮมจำนวนกว่า 20 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท และที่ดินในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขนาด 75 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ บ้านกลางเมือง จำนวน 200 ยูนิต ราคา 4 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากจากนี้ยังจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นไฟแนนซ์เชียล สตีท ด้วยการเจรจากับสถาบันการเงินต่างๆ ให้มาเปิดบริการภายในโครงการ
อนึ่ง บริษัท เบสท์ โอเชี่ยน กอล์ฟ จำกัด ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนจำนวน 700 ล้านบาท และมีรายได้ในปีนี้ประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนรายได้ทั้งกลุ่มประมาณ 300 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทคาดว่า โครงการ เบสท์ โอเชี่ยน แอร์ปาร์ค จะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 3 ปี นับจากนี้ ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยตัวเอง จากเดิมก่อนหน้านี้บริษัทมีแผนที่จะใช้วิธีแลกหุ้นเพิ่มทุนกับ บมจ.แอ๊ดว้านซ์เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล (ไทยแลนด์) (APC) แต่ตามกฎของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ไม่อนุญาติให้ดำเนินการได้
