ASTVผู้จัดการรายวัน-สตง.ยันร.ฟ.ท.ต้องแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีอาญาเอาผิด”ยุทธนา”ทุจริตทำสัญญาเช่าตลาดซันเดย์ ในฐานะผู้เสียหาย ละเลยไม่ได้ จี้ตามผลใน90 วัน ระบุ หลักธรรมภิบาล “ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.”ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้บริหารสูงสุด เหตุ ทำให้หน่วยงานเสียหายก่อนหน้าสมัครผู้ว่าฯ แล้ว
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า จากที่ สตง.สรุปผลสอบโครงการให้เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคารและให้เช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อดำเนินการจัดหาประโยชน์ (ตลาดซันเดย์) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และชี้มูลความผิดที่เกิดขึ้น โดยได้แจ้งผลไปยังหัวหน้าหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย คือร.ฟ.ท. ทั้ง ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.และประธานคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. เพื่อให้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้ร.ฟ.ท.เสียหาย ส่วนทางวินัยจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและลงโทษ และทางอาญา และแจ้งให้สตง.ทราบใน 90 วันหลังจากได้รับหนังสือจากสตง.
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า กรณีการทำสัญญาตลาดซันเดย์ของร.ฟ.ท.ไม่ถูกต้องและผู้ที่มีส่วนในการกระทำความผิดคือนายยุทธนา ทัพเจริญ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. แต่ปัจจุบันเป็นผู้ว่าฯร.ฟ.ท. แล้วนั้น การดำเนินคดีทางอาญา บอร์ดร.ฟ.ท.จึงต้องดำเนินการแจ้งความแทน เพราะผู้บริหารสูงสุดมีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี และสตง.จะติดตามความคืบหน้าเมื่อครบ 90 วันว่าร.ฟ.ท.มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของนายยุทธนา ซึ่งถูกชี้มูลความผิด และเป็นผู้ว่าฯร.ฟ.ท.อยู่นั้น นายพิศิษฐ์ ให้ความเห็นว่า นายยุทธนาขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารสูงสุดร.ฟ.ท.เพราะเป็นบุคคลที่ทำให้ร.ฟ.ท.เสียหาย และหากมีการชี้มูลความผิดก่อนที่จะมีการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ก็เท่ากับไม่สามารถสมัครเป็นผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ได้ แต่การจะหยุดปฎิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.หรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาในหลักธรรมาภิบาล แต่ในแง่กฎหมายก็สามารถโต้แย้งได้
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ร.ฟ.ท.จะต้องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้เสียหายยืนยันความเสียหาย เพื่อดำเนินคดี ทางอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ทุจริต พ.ศ. 2546 กรณีสตง.ตรวจพบความผิด และกรณีที่ สตง.ได้ส่งผลการสอบดังกล่าวไปให้ทางตำรวจถือว่าเป็นการส่งผลในฐานะที่สตง.เป็นผู้กล่าวโทษ แต่ร.ฟ.ท.ต้องแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย จะอ้างว่า สตง.ส่งเรื่องให้ตำรวจแล้วไม่ได้
“การตรวจสอบของสตง.หากพบทุจริตต้องส่งผลไปยังพนักงานสอบสวน คือตำรวจและป.ป.ช. เพื่อสอบสวนในการกระทำความผิดต่อหน้าที่”นายพิศิษฐ์กล่าว
โดยก่อนหน้านี้ นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ดร.ฟ.ท.กล่าวว่า ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายกระทรวงคมนาคมและฝ่ายกฎหมายร.ฟ.ท. ว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังสตง.ชี้มูลความผิดกรณีการเช่าตลาดซันเดย์และผู้ว่าฯร.ฟ.ท.เป็นหนึ่งในผู้ถูกระบุว่ามีความผิด โดยฝ่ายกฎหมายให้ความเห็นเบื้องต้นว่า จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัย คณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดประโยชน์ในบริเวณตลาดซันเดย์ ที่มีนายยุทธนา ทัพเจริญเป็นประธาน แต่การสอบวินัยจะดำเนินการเฉพาะบุคคลที่ยังคงเป็นพนักงานร.ฟ.ท.อยู่ แต่นายยุทธนาพ้นจากการเป็นพนักงานร.ฟ.ท.ไปแล้ว จึงไม่สามารถเอาผิดทางวินัยได้ ส่วนทางอาญา ฝ่ายกฎหมายให้ความเห็นว่า สตง.แจ้งผลไปที่ตำรวจแล้ว ร.ฟ.ท.ไม่ต้องดำเนินการซ้ำ
ทั้งนี้สตง.ได้ชี้มูลความผิดนายจิตต์สันติ ธนะโสภณ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ในขณะนั้นและคณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดประโยชน์พื้นที่ตลาดซันเดย์ มีนายยุทธนา ทัพเจริญ รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ในขณะนั้นเป็นประธาน กรณีที่ร.ฟ.ท.นำพื้นที่บริเวณตลาดซันเดย์ให้บริษัท ธนสารสมบัติ จำกัด เช่าเพื่อก่อสร้างอาคารและดำเนินการจัดหาผลประโยชน์ โดยมิได้ดำเนินการประมูลตามระเบียบรถไฟ และมีการเสนอบอร์ดร.ฟ.ท.ในขณะนั้นให้อนุมัติสิทธิ์ในการเช่าที่ดินโดยมิได้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทธนสารสมบัติ และมีการรายงานข้อมูลเท็จต่อบอร์ดร.ฟ.ท. และพบว่าร.ฟ.ท.เสียหายจากที่ไม่ดำเนินการบังคับค่าปรับและหนี้ค้างชำระจากบริษัท โดยให้ดำเนินดดี กับ นายจิตต์สันติ ธนะโสภณ และคณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดประโยชน์ในบริเวณตลาดซันเดย์ ที่มีนายยุทธนา ทัพเจริญเป็นประธาน ทั้งทางแพ่ง ทางวินัยและทางอาญา
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า จากที่ สตง.สรุปผลสอบโครงการให้เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคารและให้เช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อดำเนินการจัดหาประโยชน์ (ตลาดซันเดย์) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และชี้มูลความผิดที่เกิดขึ้น โดยได้แจ้งผลไปยังหัวหน้าหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย คือร.ฟ.ท. ทั้ง ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.และประธานคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. เพื่อให้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้ร.ฟ.ท.เสียหาย ส่วนทางวินัยจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและลงโทษ และทางอาญา และแจ้งให้สตง.ทราบใน 90 วันหลังจากได้รับหนังสือจากสตง.
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า กรณีการทำสัญญาตลาดซันเดย์ของร.ฟ.ท.ไม่ถูกต้องและผู้ที่มีส่วนในการกระทำความผิดคือนายยุทธนา ทัพเจริญ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. แต่ปัจจุบันเป็นผู้ว่าฯร.ฟ.ท. แล้วนั้น การดำเนินคดีทางอาญา บอร์ดร.ฟ.ท.จึงต้องดำเนินการแจ้งความแทน เพราะผู้บริหารสูงสุดมีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี และสตง.จะติดตามความคืบหน้าเมื่อครบ 90 วันว่าร.ฟ.ท.มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของนายยุทธนา ซึ่งถูกชี้มูลความผิด และเป็นผู้ว่าฯร.ฟ.ท.อยู่นั้น นายพิศิษฐ์ ให้ความเห็นว่า นายยุทธนาขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารสูงสุดร.ฟ.ท.เพราะเป็นบุคคลที่ทำให้ร.ฟ.ท.เสียหาย และหากมีการชี้มูลความผิดก่อนที่จะมีการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ก็เท่ากับไม่สามารถสมัครเป็นผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ได้ แต่การจะหยุดปฎิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.หรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาในหลักธรรมาภิบาล แต่ในแง่กฎหมายก็สามารถโต้แย้งได้
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ร.ฟ.ท.จะต้องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้เสียหายยืนยันความเสียหาย เพื่อดำเนินคดี ทางอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ทุจริต พ.ศ. 2546 กรณีสตง.ตรวจพบความผิด และกรณีที่ สตง.ได้ส่งผลการสอบดังกล่าวไปให้ทางตำรวจถือว่าเป็นการส่งผลในฐานะที่สตง.เป็นผู้กล่าวโทษ แต่ร.ฟ.ท.ต้องแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย จะอ้างว่า สตง.ส่งเรื่องให้ตำรวจแล้วไม่ได้
“การตรวจสอบของสตง.หากพบทุจริตต้องส่งผลไปยังพนักงานสอบสวน คือตำรวจและป.ป.ช. เพื่อสอบสวนในการกระทำความผิดต่อหน้าที่”นายพิศิษฐ์กล่าว
โดยก่อนหน้านี้ นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ดร.ฟ.ท.กล่าวว่า ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายกระทรวงคมนาคมและฝ่ายกฎหมายร.ฟ.ท. ว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังสตง.ชี้มูลความผิดกรณีการเช่าตลาดซันเดย์และผู้ว่าฯร.ฟ.ท.เป็นหนึ่งในผู้ถูกระบุว่ามีความผิด โดยฝ่ายกฎหมายให้ความเห็นเบื้องต้นว่า จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัย คณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดประโยชน์ในบริเวณตลาดซันเดย์ ที่มีนายยุทธนา ทัพเจริญเป็นประธาน แต่การสอบวินัยจะดำเนินการเฉพาะบุคคลที่ยังคงเป็นพนักงานร.ฟ.ท.อยู่ แต่นายยุทธนาพ้นจากการเป็นพนักงานร.ฟ.ท.ไปแล้ว จึงไม่สามารถเอาผิดทางวินัยได้ ส่วนทางอาญา ฝ่ายกฎหมายให้ความเห็นว่า สตง.แจ้งผลไปที่ตำรวจแล้ว ร.ฟ.ท.ไม่ต้องดำเนินการซ้ำ
ทั้งนี้สตง.ได้ชี้มูลความผิดนายจิตต์สันติ ธนะโสภณ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ในขณะนั้นและคณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดประโยชน์พื้นที่ตลาดซันเดย์ มีนายยุทธนา ทัพเจริญ รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ในขณะนั้นเป็นประธาน กรณีที่ร.ฟ.ท.นำพื้นที่บริเวณตลาดซันเดย์ให้บริษัท ธนสารสมบัติ จำกัด เช่าเพื่อก่อสร้างอาคารและดำเนินการจัดหาผลประโยชน์ โดยมิได้ดำเนินการประมูลตามระเบียบรถไฟ และมีการเสนอบอร์ดร.ฟ.ท.ในขณะนั้นให้อนุมัติสิทธิ์ในการเช่าที่ดินโดยมิได้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทธนสารสมบัติ และมีการรายงานข้อมูลเท็จต่อบอร์ดร.ฟ.ท. และพบว่าร.ฟ.ท.เสียหายจากที่ไม่ดำเนินการบังคับค่าปรับและหนี้ค้างชำระจากบริษัท โดยให้ดำเนินดดี กับ นายจิตต์สันติ ธนะโสภณ และคณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดประโยชน์ในบริเวณตลาดซันเดย์ ที่มีนายยุทธนา ทัพเจริญเป็นประธาน ทั้งทางแพ่ง ทางวินัยและทางอาญา
