ASTV ผู้จัดการรายวัน – คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ไฟเขียวยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มแก่บริษัทจดทะเบียนที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเกณฑ์ชั่วคราว หวังลดภาระบจ.จากตลาดหุ้นไทยซบ บวกกับเศรษฐกิจทรุดฉุดงบการเงินหด ทำให้แก้ไขปัญหาฟรีโฟรทได้ลำบากยิ่งขึ้น ด้าน “ศักรินทร์” หวังเปลี่ยนใจผู้บริหารบจ.คงแนวคิดดำรงฐานะบริษัทจดทะเบียนต่อไป ขณะที่ “ชนิตร” เผยมีบจ.เล็งเพิกถอนบ้าง จากการหารือกับผู้บริหารบจ. รวมกว่า 68 ราย
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติผ่อนคลายหลักเกณฑ์หลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลท) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการลดภาระให้แก่บจ.ดังกล่าว เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อในการที่บจ.จะแก้ไขฟรีโฟลทให้เป็นไปตามเกณฑ์ได้
ทั้งนี้ จากดัชนีราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงจึงไม่สามารถที่จะมีการเพิ่มทุน หรือผู้ถือหุ้นใหญ่นำหุ้นออกมาขายได้ รวมถึงการที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปีที่ผ่านมาไม่ดี โดยสาเหตุที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการผ่อนเกณฑ์เพราะจากการประเมินสถานการณ์ต่างๆ และจากการที่กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนได้เข้าพบและหารือในเรื่องปัญหาอุปสรรคของการเป็นบริษัทจดทะเบียน โดยหากตลาดหลักทรัพย์ฯสามารถที่จะช่วยเหลือได้ก็จะทำเท่าที่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังว่าจากการที่มีการผ่อนคลายเกณฑ์แล้วจะทำให้บริษัทที่มีแนวคิดที่จะขอถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนจะมีการทบทวนและยังคงดำรงฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เดินเข้าไปพบกับบริษัทจดทะเบียนแล้วจำนวน 68 บริษัท ซึ่งจากการหารือพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนที่มีความประสงค์ที่จะขอถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนบ้าง โดยสาเหตุหลักจะเป็นเรื่องไม่สามารถกระจายการถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลท) เป็นไปตามเกณฑ์ ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่บริษัทจดทะเบียนยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
ทั้งนี้ แม้บริษัทที่มีฟรีโฟลทไม่ได้ตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น มีประกาศให้บริษัทดังกล่าวมีการจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มตามสัดส่วนฟรีโฟลทที่ไม่ถึงเกณฑ์และปีที่ขาดนั้น โดยไม่มีบทลงโทษอื่น แต่บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวไม่ต้องการที่จะทำผิด จึงมีความเห็นว่าจะขอเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น เช่น ภาระหน้าที่ในการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมากเกินไป
“จากที่ได้เข้าไปพบกับบริษัทจดทะเบียนในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้แล้วจำนวน 68 บริษัท ซึ่งมีบจ.มีการขู่บ้างที่จะขอเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีหลายสาเหตุ แต่ประเด็นหลักที่จะขอถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน จากการที่มีปัญหาฟรีโฟลทไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ถึงแม้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเรียกเก็บเพียงค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มไม่มีการลงโทษอย่างอื่น แต่บจ.ไม่ต้องการที่จะทำผิดเกณฑ์จึงอยากที่จะถอนตัวเองออกจากตลท.” นายชนิตร กล่าว
สำหรับในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าที่จะเข้าไปพบกับบริษัทจดทะเบียน จำนวน 200 บริษัท เพื่อหารือในเรื่องอุปสรรคในการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่จะมีการแก้ไขต่อไป และการให้คำปรึกษาในการให้บริษัทจดทะเบียนให้ใช้สิทธิประโยชน์ของตลาดทุนได้อย่างคุ้มค่า
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติผ่อนคลายหลักเกณฑ์หลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลท) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการลดภาระให้แก่บจ.ดังกล่าว เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้อในการที่บจ.จะแก้ไขฟรีโฟลทให้เป็นไปตามเกณฑ์ได้
ทั้งนี้ จากดัชนีราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงจึงไม่สามารถที่จะมีการเพิ่มทุน หรือผู้ถือหุ้นใหญ่นำหุ้นออกมาขายได้ รวมถึงการที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปีที่ผ่านมาไม่ดี โดยสาเหตุที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการผ่อนเกณฑ์เพราะจากการประเมินสถานการณ์ต่างๆ และจากการที่กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนได้เข้าพบและหารือในเรื่องปัญหาอุปสรรคของการเป็นบริษัทจดทะเบียน โดยหากตลาดหลักทรัพย์ฯสามารถที่จะช่วยเหลือได้ก็จะทำเท่าที่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังว่าจากการที่มีการผ่อนคลายเกณฑ์แล้วจะทำให้บริษัทที่มีแนวคิดที่จะขอถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนจะมีการทบทวนและยังคงดำรงฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เดินเข้าไปพบกับบริษัทจดทะเบียนแล้วจำนวน 68 บริษัท ซึ่งจากการหารือพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนที่มีความประสงค์ที่จะขอถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนบ้าง โดยสาเหตุหลักจะเป็นเรื่องไม่สามารถกระจายการถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลท) เป็นไปตามเกณฑ์ ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่บริษัทจดทะเบียนยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
ทั้งนี้ แม้บริษัทที่มีฟรีโฟลทไม่ได้ตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น มีประกาศให้บริษัทดังกล่าวมีการจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มตามสัดส่วนฟรีโฟลทที่ไม่ถึงเกณฑ์และปีที่ขาดนั้น โดยไม่มีบทลงโทษอื่น แต่บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวไม่ต้องการที่จะทำผิด จึงมีความเห็นว่าจะขอเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น เช่น ภาระหน้าที่ในการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมากเกินไป
“จากที่ได้เข้าไปพบกับบริษัทจดทะเบียนในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้แล้วจำนวน 68 บริษัท ซึ่งมีบจ.มีการขู่บ้างที่จะขอเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีหลายสาเหตุ แต่ประเด็นหลักที่จะขอถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน จากการที่มีปัญหาฟรีโฟลทไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ถึงแม้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเรียกเก็บเพียงค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มไม่มีการลงโทษอย่างอื่น แต่บจ.ไม่ต้องการที่จะทำผิดเกณฑ์จึงอยากที่จะถอนตัวเองออกจากตลท.” นายชนิตร กล่าว
สำหรับในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าที่จะเข้าไปพบกับบริษัทจดทะเบียน จำนวน 200 บริษัท เพื่อหารือในเรื่องอุปสรรคในการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่จะมีการแก้ไขต่อไป และการให้คำปรึกษาในการให้บริษัทจดทะเบียนให้ใช้สิทธิประโยชน์ของตลาดทุนได้อย่างคุ้มค่า