อัลญะซีเราะห์ – ขบวนการ “บีอาร์เอ็น-ซี” กองกำลังติดอาวุธใต้ดินกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพัวพันกับเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ยืนยันกับสถานีโทรทัศน์ข่าวอัลญะซีเราะห์ของอาหรับว่า ต้องการที่จะแบ่งแยกดินแดนเป็นประเทศเอกราช โดยที่จะไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องนี้
ระหว่างพูดคุยกับ สเตป เวียสเซน ผู้สื่อข่าวของอัลญะซีเราะห์ ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่นอกประเทศไทย สมาชิกระดับสูงผู้หนึ่งของขบวการบีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนต (National Revolutionary Front Co-ordinate หรือ หรือ บีอาร์เอ็น - ซี)บอกว่า เป้าหมายหลักของกลุ่มของเขา คือ "การต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน ด้วยการปฏิวัติโดยใช้อาวุธ"
"จุดมุ่งหมายหลักของเราไม่ใช่สงคราม แต่เราถูกบีบบังคับให้เข้าสู่สิ่งนี้ เพราะหากไม่ใช้ความรุนแรง ฝ่ายสยาม (ประเทศไทย) ก็จะไม่หยุดยั้งการแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติกับชาวมลายูในภาคใต้" สมาชิกบีอาร์เอ็น - ซีผู้นี้ กล่าวกับอัลญะซีเราะห์ โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ
ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,500 คน นับตั้งแต่สถานการณ์ความตึงปะทุขึ้นในปี 2004
**ความรุนแรง**
ช่วงต้นสัปดาห์นี้ มีพลเรือน 2 รายถูกสังหาร และมีคนอื่น ๆ รวมทั้งทหารจำนวนนับสิบได้รับบาดเจ็บ จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เดือดดาลขึ้นระลอกล่าสุดในพื้นที่
ที่จังหวัดยะลาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24) กลุ่มคนร้ายกระหน่ำโจมตีร้านอาหารแห่งหนึ่ง และสังหารเจ้าของร้านวัย 24 ปีเสียชีวิต ส่วนญาติอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว
อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเดียวกัน หญิงวัย 41 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งตำรวจบอกว่า เธอทำงานเป็นผู้ให้ข้อมูลกับทางการ ถูกลอบยิงเสียชีวิต
ถึงแม้ทางการจะระดมทหารราว 30,000 คน เข้าไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่การบุกยิง, โจมตีด้วยระเบิด และเหตุคาร์บอมบ์ ยังคงเกิดขึ้นแบบรายวัน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของการโจมตีดังกล่าว ล้วนแล้วคร่าชีวิตพลเรือน
ชาวมุสลิม ซึ่งทำงานเป็นครูหรือมีตำแหน่งอื่น ๆ ที่ดูแล้วมีความใกล้ชิดกับทางการ กลายเป็นเป้าหมายของการโจมตี โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ บางรายถึงกับถูกตัดคอและเผาทั้งเป็น ทั้งนี้จากข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชน
"ศัตรูของเรามี 3 ประเภท" สมาชิกระดับอาวุโสของบีอาร์เอ็น - ซีกล่าว
"สยามกับพันธมิตรของพวกเขา และอีกหนึ่งศัตรู ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่รู้จัก แต่พวกเขาคืออุปสรรคต่อการปฏิวัติของเรา ดังนั้นเราต้องทำให้พวกเขาทราบว่า ชาวมุสลิมต้องอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา"
ผู้บัญชาการภาคสนามของบีอาร์เอ็น - ซี อีกคนหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่า มีส่วนรับผิดชอบในการโจมตีหลายครั้งตลอด 2 - 3 ปีที่ผ่านมา บอกกับสถานีโทรทัศน์ข่าวอาหรับแห่งนี้ว่า ขบวนการของเขามีหน่วยสมาชิกที่ซ่อนตัวอยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหน่วยเหล่านี้มีการรักษาความลับเข้มงวดมาก ขนาดว่าแม้แต่สมาชิกด้วยกันเองยังไม่สามารถระบุตัวคนอื่นๆ ได้
ในการพบปะกันอย่างลับๆ ในจังหวัดนราธิวาส ชายผู้นี้บอกกับผู้สื่อข่าวของอัลญะซีเราะห์ว่า กลุ่มของเขาพร้อมจะต่อสู้จนกว่าจะถึงลมหายใจสุดท้าย เพื่อปลอดปล่อยชาวมุสลิมจากสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า อาณานิคมภาคใต้ของไทย
**"กุญแจสู่สันติภาพ"**
ระหว่างให้สัมภาษณ์อัลญะซีเราะห์ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเร่งทำงาน โดยใช้การเยียวยา "ความอยุติธรรมและความเจ็บแค้นในอดีต" เป็นแนวทางการรุกคืบในพื้นที่
"รัฐบาลของผมมีนโยบายชัดเจนว่า กุญแจที่จะนำไปสู่สันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ความยุติธรรม" นายกฯ อภิสิทธิ์กล่าว
"มันอาจจะเป็นจุดมุ่งหมาย (ของกลุ่มกบฎในการเรียกร้องเป็นรัฐเอกราช) แต่รัฐบาลของผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม นอกจากนี้พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับโอกาสต่าง ๆ และคุณค่าในสายตารัฐบาล"
แต่เนื่องจากยังไม่ค่อยไม่มีความคืบหน้าใดๆ การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจึงยังคงเติบโตต่อไป
ด้านกองทัพไทยเชื่อมั่นว่า ขบวนการบีอาร์เอ็น - ซี มีกำลังพลราว 5,000 คน และผู้ผลิตระเบิด ตลอดจนผู้สนับสนุนอีก 50,000 คน
ทางการคาดหมายว่า ขบวนการดังกล่าว ระดมสมาชิกใหม่ ๆ จากโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดภาคใต้ ที่ซึ่งแรงต่อต้านการปกครองของทางการได้ลุกโชนขึ้นตลอด 2 - 3 ปีมานี้ เนื่องจากการให้ยุทธวิธีแบบโหดเหี้ยมของทหาร
ระหว่างพูดคุยกับ สเตป เวียสเซน ผู้สื่อข่าวของอัลญะซีเราะห์ ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่นอกประเทศไทย สมาชิกระดับสูงผู้หนึ่งของขบวการบีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนต (National Revolutionary Front Co-ordinate หรือ หรือ บีอาร์เอ็น - ซี)บอกว่า เป้าหมายหลักของกลุ่มของเขา คือ "การต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน ด้วยการปฏิวัติโดยใช้อาวุธ"
"จุดมุ่งหมายหลักของเราไม่ใช่สงคราม แต่เราถูกบีบบังคับให้เข้าสู่สิ่งนี้ เพราะหากไม่ใช้ความรุนแรง ฝ่ายสยาม (ประเทศไทย) ก็จะไม่หยุดยั้งการแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติกับชาวมลายูในภาคใต้" สมาชิกบีอาร์เอ็น - ซีผู้นี้ กล่าวกับอัลญะซีเราะห์ โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ
ความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,500 คน นับตั้งแต่สถานการณ์ความตึงปะทุขึ้นในปี 2004
**ความรุนแรง**
ช่วงต้นสัปดาห์นี้ มีพลเรือน 2 รายถูกสังหาร และมีคนอื่น ๆ รวมทั้งทหารจำนวนนับสิบได้รับบาดเจ็บ จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เดือดดาลขึ้นระลอกล่าสุดในพื้นที่
ที่จังหวัดยะลาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24) กลุ่มคนร้ายกระหน่ำโจมตีร้านอาหารแห่งหนึ่ง และสังหารเจ้าของร้านวัย 24 ปีเสียชีวิต ส่วนญาติอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว
อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเดียวกัน หญิงวัย 41 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งตำรวจบอกว่า เธอทำงานเป็นผู้ให้ข้อมูลกับทางการ ถูกลอบยิงเสียชีวิต
ถึงแม้ทางการจะระดมทหารราว 30,000 คน เข้าไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่การบุกยิง, โจมตีด้วยระเบิด และเหตุคาร์บอมบ์ ยังคงเกิดขึ้นแบบรายวัน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของการโจมตีดังกล่าว ล้วนแล้วคร่าชีวิตพลเรือน
ชาวมุสลิม ซึ่งทำงานเป็นครูหรือมีตำแหน่งอื่น ๆ ที่ดูแล้วมีความใกล้ชิดกับทางการ กลายเป็นเป้าหมายของการโจมตี โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ บางรายถึงกับถูกตัดคอและเผาทั้งเป็น ทั้งนี้จากข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชน
"ศัตรูของเรามี 3 ประเภท" สมาชิกระดับอาวุโสของบีอาร์เอ็น - ซีกล่าว
"สยามกับพันธมิตรของพวกเขา และอีกหนึ่งศัตรู ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่รู้จัก แต่พวกเขาคืออุปสรรคต่อการปฏิวัติของเรา ดังนั้นเราต้องทำให้พวกเขาทราบว่า ชาวมุสลิมต้องอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา"
ผู้บัญชาการภาคสนามของบีอาร์เอ็น - ซี อีกคนหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่า มีส่วนรับผิดชอบในการโจมตีหลายครั้งตลอด 2 - 3 ปีที่ผ่านมา บอกกับสถานีโทรทัศน์ข่าวอาหรับแห่งนี้ว่า ขบวนการของเขามีหน่วยสมาชิกที่ซ่อนตัวอยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหน่วยเหล่านี้มีการรักษาความลับเข้มงวดมาก ขนาดว่าแม้แต่สมาชิกด้วยกันเองยังไม่สามารถระบุตัวคนอื่นๆ ได้
ในการพบปะกันอย่างลับๆ ในจังหวัดนราธิวาส ชายผู้นี้บอกกับผู้สื่อข่าวของอัลญะซีเราะห์ว่า กลุ่มของเขาพร้อมจะต่อสู้จนกว่าจะถึงลมหายใจสุดท้าย เพื่อปลอดปล่อยชาวมุสลิมจากสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า อาณานิคมภาคใต้ของไทย
**"กุญแจสู่สันติภาพ"**
ระหว่างให้สัมภาษณ์อัลญะซีเราะห์ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเร่งทำงาน โดยใช้การเยียวยา "ความอยุติธรรมและความเจ็บแค้นในอดีต" เป็นแนวทางการรุกคืบในพื้นที่
"รัฐบาลของผมมีนโยบายชัดเจนว่า กุญแจที่จะนำไปสู่สันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ความยุติธรรม" นายกฯ อภิสิทธิ์กล่าว
"มันอาจจะเป็นจุดมุ่งหมาย (ของกลุ่มกบฎในการเรียกร้องเป็นรัฐเอกราช) แต่รัฐบาลของผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม นอกจากนี้พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับโอกาสต่าง ๆ และคุณค่าในสายตารัฐบาล"
แต่เนื่องจากยังไม่ค่อยไม่มีความคืบหน้าใดๆ การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจึงยังคงเติบโตต่อไป
ด้านกองทัพไทยเชื่อมั่นว่า ขบวนการบีอาร์เอ็น - ซี มีกำลังพลราว 5,000 คน และผู้ผลิตระเบิด ตลอดจนผู้สนับสนุนอีก 50,000 คน
ทางการคาดหมายว่า ขบวนการดังกล่าว ระดมสมาชิกใหม่ ๆ จากโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดภาคใต้ ที่ซึ่งแรงต่อต้านการปกครองของทางการได้ลุกโชนขึ้นตลอด 2 - 3 ปีมานี้ เนื่องจากการให้ยุทธวิธีแบบโหดเหี้ยมของทหาร
