xs
xsm
sm
md
lg

พ่อนายกฯลั่นไร้แผลให้ฝ่ายค้านตีไม่หวั่นถูกลากพันการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิดาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหวที่ฝ่ายค้านเตรียมนำข้อมูลโจมตีครอบครัวเวชชาชีวะ เพราะไม่เป็นความจริงและไม่เคยไปถือหุ้นบริษัทเอกชนใดๆ เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยต้องการโจมตีนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ครอบครัวพร้อมให้ตรวจสอบอีกทั้งภริยานายกฯเอง ก็ไม่ได้มีการไปถือหุ้นบริษัทเอกชนใดๆ แต่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น เพราะได้รับมรดกจากญาติ ซึ่งมีหลักฐานเป็นเอกสารเรื่องการรับมรดกและเงินที่ได้รับส่วนหนึ่งนำไปสร้างมูลนิธิชื่อ พุทธบริษัท สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ศ.นพ.ยืนยันด้วยว่า ไม่จำเป็นต้องหารือกับบุตรชาย เพราะครอบครัวไม่ได้หวั่นไหวหรือวิตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นและครอบครัวพร้อมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีตลอดเวลา
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้พรรคเพื่อไทยกล่าวหานายอภิสิทธิ์ ซุกทรัพย์สินไม่แจ้ง ป.ป.ช. และกล่าวหา มารดานายกรัฐมนตรี ใช้ตำแหน่งลูกชายหาประโยชน์ โดยยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ อยากชี้แจงทั้ง 2 เรื่องในสภา แต่เกรงว่าจะรกสภา จึงขอชี้แจงเบื้องต้นว่า กรณีรถยนต์ฮอนดาโอดิสซี่ หมายเลขทะเบียน 9 ฬ 2733 ที่พรรคเพื่อไทย อ้างว่านายกรัฐมนตรีซุกทรัพย์สินโดยไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช.นั้นข้อเท็จจริงคือ นายอภิสิทธิ์ได้เช่าซื้อมาในปี 39 และขายให้พ.ต.ท.นีรนาถ ฉินประสิทธิชัย รอง ผกก.จร.สน.จักวรรดิ์ ซึ่งเป็นตำรวจติดตาม โดยโอนรถให้ ในวันที่ 15ก.ย.2551 และเปลี่ยนทะเบียนเป็น ฐฬ 2733 ซึ่งเรื่องนี้ได้ดำเนินการก่อนการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือน ธ.ค.51 จึงไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งต่อ ป.ป.ช.
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า มารดาของนายอภิสิทธิ์ใช้บารมีหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์บีบให้ผู้ว่าฯกทม.จัดเวลาในคลื่นของ กทม.ให้จัดรายการนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะมารดาของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นเจ้าของรายการ แต่เป็นวิทยากรในรายการธรรมะเท่านั้นอีกทั้งคลื่นดังกล่าวยังมีผู้จัดรายการอีกหลายรายขอใช้อีกด้วย
ยืนยันว่า นายกฯไม่ได้ซุกทรัพย์สินและไม่ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ให้คนในครอบครัว หรือคนใกล้ชิดแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับในยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่วงษ์วานว่านเครือ ได้รับการปูนบำเน็จให้มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ที่สูงขึ้นทุกคน คนในตระกูล ชินวัตร และดามาพงษ์ ได้ดิบได้ดีกันทั่วหน้า แม้แต่หมอประจำตัวแม่ยาย พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังได้ตำแหน่ง
ส่วนประเด็นเงิน 258 ล้าน ที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะเป็นอีกหมัดเด็ดถึงขนาด ทำให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคต้องขอข้อมูลไปดูนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ตนได้พบนายชวนแล้ว ท่านไม่ได้เรียกใครไปชี้แจง หรือหวั่นไหวจนต้องขอดูข้อมูลแต่อย่างใด
ที่ฝ่ายค้านระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์หวั่นไหวในเรื่องนี้ จนต้องพูดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติแลกกับการไม่ต้องอภิปรายในประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกลัวเรื่องนี้ เป็นแค่เรื่องน้ำจิ้มซึ่งสามารถชี้แจงได้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า เสียใจที่ฝ่ายค้านจะนำแม่และภรรยามาเป็นประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่ทราบว่านายกฯไปนำข้อมูลมาจากไหน ยืนยันว่ายังไม่มีข้อเท็จจริงเรื่องนี้บนโต๊ะประชุมของเรา ดังนั้นข่าวที่ออกมาจึงไม่ได้มาจากส.ส.ในพรรคอย่างแน่นอน แต่วันข้างหน้าจะมีหรือไม่นั้นคงไม่สามารถบอกได้ นายกฯไปดักฟังโทรศัพท์จากใคร หรือไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าคงเป็นแค่มุกอ้อนแม่ยกเท่านั้น ส่วนที่รัฐบาลออกมาปรามาสฝ่ายค้านว่ามาตรฐานต่ำนั้น เดี๋ยวก็รู้ว่าใครกันแน่ พวกตนเล่นละครไม่เป็นมีแต่ของจริง ยืนยันว่าการอภปิรายของฝ่ายค้านมาตรฐานสูงอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องกิ๊กรัฐมนตรีนั้น เป็นเพราะมีข้อมูลว่ารัฐมนตรีบางคนในพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า เป็นโสด เป็นม่าย แต่กลับเอาทรัพย์สินไปซุกซ่อนกับคนใกล้ชิด ซึ่งเข้าข่ายปกปิดทรัพย์สิน และที่บอกว่าจะยื่นอภิปรายเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์นั้นก็ไม่เป็นความจริงเพราะยังไม่มีการสรุป ถ้าใครมีพฤติกรรมไม่ถูกต้องไม่ว่าพรรคไหน ก็เอาหมด แต่อย่างไรเราก็ไม่ชนะโหวตอยู่แล้ว เพียงแต่จะอภิปรายให้เห็นธาตุแท้ของรัฐบาล
วันนี้รัฐบาลไปเก็บภาษีสรรพสามิตทำให้ประชาชนเดือดร้อนถ้วนหน้า แล้วไปแจกจ่ายเป็นเงินจำนวน2,000 บาท ผมทำนายล่วงหน้าคล้ายกับที่มูดี้ทำนาย ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียต่ำสุด 3 เดือนขาดเกินไม่มาก ไปแน่ เพียงแต่อย่าหนีไปก่อนก็แล้วกัน
น.ส.วิสาระดี เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองโฆษกคณะทำงานเตรียมการเปิดอภปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ที่ประชุมมีมติว่าในวันที่ 4 มี.ค.จะได้ข้อสรุปทั้งหมดเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ที่ชัดเจนแล้วคือ จะยื่นถอดถอน นายกรัฐมนตรีในวันที่ 8 มี.ค.จากนั้นในวันที่ 11 มี.ค.จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สำหรับข้อยุติเบื้องต้นนั้น ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายฯรัฐมนตรี 4 คน คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใน 14 ประเด็น นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 5 ประเด็น นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง 3 ประเด็น และนายอิสสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 7 ประเด็น
นอกจากนี้ คณะทำงานกำลังพิจารณาเพิ่มเติมอีก 3 คนคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในส่วนของส.ส.ที่จะอภิปรายนั้นมีการเสนอชื่อมาแล้วกว่า 30 คน ยืนยันว่าจะสร้างบรรทัดฐานการอภิปรายขึ้นมาใหม่โดยมีมาตรฐานมากขึ้น มุ่งเน้นอภิปรายเรื่องเศรษฐกิจ การบริหารที่ผิดพลาด และการทุจริตสร้างความเสียหาย โดยหลีกเลี่ยงเรื่องส่วนตัว เช่น เรื่องกิ๊ก แต่ถ้าหากมีการไปทำให้ครอบครัวแตกร้าว ก็ไม่แน่ ส่วนประเด็นเรื่องแม่และภรรยานายกฯนั้นยืนยันว่ายังไม่มีการคุยกัน
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่าจะไม่อภิปรายพาดพิลเรื่องส่วนตัวของนายกฯและรัฐมนตรี แต่จะเน้น ่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินเท่านั้น ถ้าใครไม่เกี่ยวข้องจะไม่หยิบยกมาอภิปรายเด็ดขาด
ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ฝ่ายค้านต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของรัฐบาลซึ่งปัญหาที่จะเอาไปอภิปรายฯ มีเยอะ เช่น เรื่องนมบูด ส่วนที่มีชื่อนายอิสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่ทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์นั้น ตนเห็นว่า นายอิสระ ก็คงจะต้องมารับอนิสงค์จากกรณีของ นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ เพราะมันก็ต้องเชื่อมโยงมาถึงรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการอภิปรายเรื่องเกี่ยวกับคุณแม่ และภรรยา ของนายกรับมนตรีด้วย ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว แต่คงยังไม่ได้ข้อยุติ อาจจะเป็นการตีปี๊บให้ตกใจ ในขณะนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ที่ แน่ๆ เบื้องต้น มีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เช่น นายอิสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมฯ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ส่วนข่าวที่จะมีการอภิปรายถึงเรื่องกิ๊กนั้นเชื่อว่า เป็นการขู่กันมากกว่า กิ๊กเขาไม่ได้มาเกี่ยวข้องกับการทำงาน เชื่อว่า ไม่มีใครเอามาพูดหรอก
เรื่องกิ๊กอาจเป็นการเรียกน้ำย่อย ขณะนี้ก็เหมือนลิเกกำลังโหมโรง ต้องมีออกแขก ประมาณนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น