xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.งัดข้อมูลเด็ดตบหน้า “ไข่แม้ว” เย้ยตีปี๊บซักฟอก “มาร์ค” รกสภาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“เทพไท” งัดข้อมูลตบหน้า “ฝ่ายค้าน” หลังดี๊ด๊าชูหมัดเด็ดน็อก “มาร์ค” ซุก “รถยนต์” ก่อนซ้ำข้อมูลตอกหน้าปัด “อภิสิทธิ์” ใช้อำนาจซื้อเวลาให้มารดาจัดรายการวิทยุ ฮึ่มหาก “ไข่แม้ว” ขุดเรื่องกิ๊กอภิปรายในสภา พร้อมแฉกลับพฤติกรรมฉาวซื้อ “อพาร์ตเมนต์-รถยนต์” ให้กิ๊ก



วานนี้ (26 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ “คนในข่าว” ทางเอเอสทีวี ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นว่า รัฐบาลได้มีการประเมินความเข้มข้น หรือความรุนแรงของประเด็นที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย ซึ่งพอจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่นั้น นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมแล้ว และยินดีที่จะให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ แต่ประเด็นที่ฝ่ายค้านนำเสนอจะเปิดอภิปรายนายอิสสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมฯ นั้น จริงๆ แล้วนายอิสสระเพิ่งเข้าทำงานยังไม่ถึงเดือน เดินยังไม่ทั่วกระทรวง และยังไม่มีที่ปรึกษาเลยด้วยซ้ำก็จะอภิปรายนายอิสสระเสียแล้ว

“ตอนแรกฝ่ายค้านออกมาบอกว่าจะอภิปรายเรื่องกิ๊ก ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะพร้อมที่จะชี้แจง แต่ฝ่ายค้านคงกลัวว่าจะเข้าตัวจึงยุติเรื่องดังกล่าวไปแล้ว และถ้าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องกิ๊กจริง ผมก็มีรายชื่อกิ๊กของฝ่ายค้านเต็มไปหมด โดยมีข้อมูลว่าใครไปซื้ออพาร์ตเมนต์ให้กิ๊กที่ไหนบ้าง หรือกิ๊กของใครขับรถยี่ห้ออะไร ทะเบียนอะไร ผมมีข้อมูลหมด ที่สำคัญตนถามกลับไปว่า ในพรรคเพื่อไทยมีใครบ้างที่ไม่มีกิ๊ก” นายเทพไท ระบุ

นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมนำเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาทว่า ตอนนี้โต้กันไปโต้กันมาเหลือเพียง 23 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายค้านโจมตีว่าพรรคประชาธิปัตย์เอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และยังลามไปถึงนายชวน หลีกภัย ไม่สบายใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว จนถึงขนาดต้องเรียกข้อมูลไปดู จนถึงขั้นมีการเจรจากับฝ่ายค้านเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อแลกกับการที่ฝ่ายค้านจะไม่อภิปรายเรื่องเงิน 258 ล้านบาท ซึ่งเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเก่ามาก และในขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคด้วยซ้ำไป

“ส่วนที่ฝ่ายค้านอ้างถึงนายประจวบ สังขาว ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเงิน 258 ล้านบาท นั้น ต้องยอมรับว่านายประจวบ ไม่ใช่คนของพรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นเราจึงไม่สามารถควบคุมเขาได้ เพราะเขาเป็นเอกชนคนหนึ่งที่ทำงานบริษัทโฆษณา แต่วันนี้เขาไม่ได้เข้ามารับงานโฆษณาที่พรรคแล้ว เพราะพอเกิดเรื่องแล้วนายประจวบ ก็หายไป ที่สำคัญนายประจวบ น่าจะให้การไว้กับ ดีเอสไอ เอาไว้แล้ว” นายเทพไท กล่าว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมที่จะเอาข้อมูลเรื่องนายอภิสิทธิ์ ใช้อำนาจบีบ กทม.ให้เวลากับมารดา เพื่อจัดรายการวิทยุนั้น นายเทพไท กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นนักการเมืองอาชีพ และไม่เคยใช้อำนาจในการช่วยเหลือคนในครอบครัว หรือพรรคพวกเพื่อฝูง ซึ่งตรงข้ามกับยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นรัฐบาล ซึ่งในยุคนั้นจะเห็นว่า คนรอบข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ดีทุกคน โดยเฉพาะคนในตระกูลชินวัตร และตระกูลดามาพงษ์ ซึ่งได้ตำแหน่งสำคัญๆ โดยอ้างความเหมาะสม แล้วกระโดดข้ามหัวคนอื่นไป หรือแม้แต่หมอประจำตัวของแม่ยาย ยังได้เป็นรัฐมนตรี

“ผมไปหาหลักฐานกรณีแม่นายกฯ มาแล้ว พบว่า รายการวิทยุ กทม.ดังกล่าวนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นรายการวิทยุของมารดานายอภิสิทธิ์ แต่เป็นของนายสุขพัฒน์ ทองเพ็ง อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ในสมัยนั้น ได้ทำหนังสือไปถึงประธานกรรมการวิทยุ กทม.เพื่อขอจัดรายการ “บ้านธรรมะ” โดยมารดาของนายอภิสิทธิ์ เป็นคนสนใจเรื่องธรรมะ จึงถูกเชิญให้เป็นวิทยากรเป็นครั้งคราว ทำให้เกิดการเข้าใจว่าเป็นรายการของมารดานายอภิสิทธิ์ ที่สำคัญคลื่นวิทยุดังกล่าวเป็นคลื่นเอเอ็ม ซึ่งไม่ได้เป็นที่นิยมอะไรมากมาย อีกทั้งมารดาของนายอภิสิทธิ์ ยังถูกร้องขอให้ไปช่วยเป็นวิทยากรอีกหลายรายการ” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมที่จะอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เรื่องซุกทรัพย์สินว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นคนรอบคอบ และยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ตรวจสอบมาโดยตลอด แต่ที่ฝ่ายค้านเปิดประเด็นออกมานั้น อาจจะหมายถึงรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโอดีซี่ ซึ่งนายกฯ ได้เช่าซื้อจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ซีมิกส์ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2539 ซึ่งโอนมาเป็นของนายกฯ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2542 รวมระยะเวลา 13 ปี แต่เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2551 นายอภิสิทธิ์ได้ขายรถยนต์คันดังกล่าวให้กับ พ.ต.ท.นีรนาท ฉิมประสิทธิชัย ซึ่งเป็นนายตำรวจติดตาม ที่สำคัญคือ นายกฯ เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือน ธ.ค.2551 โดยแจ้งบัญชีทรัพย์สินประมาณ ม.ค.2552 หรือภายใน 30 วัน จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งเรื่องรถยนต์คันดังกล่าวในบัญชีทรัพย์สิน เพราะกรรมสิทธิ์ไม่ได้เป็นของนายกฯ แล้ว

“ฝ่ายค้านคงไปตรวจค้นดูว่าทรัพย์สินของนายกฯ มีอะไรหายไปบ้าง ซึ่งตรงกับที่นายกฯ ได้แจ้งบัญชีรถยนต์หมายเลขทะเบียน 9 ฬ 2733 เอาไว้ ทำให้ฝ่ายค้านหาไม่เจอ แล้วจึงไปตีโพยตีพายว่านายกฯ ซุกทรัพย์สิน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว รถยนต์คันดังกล่าวได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ และมีการเปลี่ยนหมายเลขทะเบียนไปเป็น ฐฬ 2733 ซึ่งตรงนี้เอง ผมเข้าใจว่าเกิดความสะเพร่าจากฝ่ายค้านเอง และไม่รอบคอบจึงตรวจไม่พบ จึงออกมาประโคมข่าวว่ามีหลักฐานเด็ดเรื่องนายกฯ ซุกทรัพย์สิน เพื่อที่จะเล่นงานตามกฎหมาย ป.ป.ช. ฉะนั้นผมจึงออกมาชี้แจง เพราะไม่ต้องการให้เรื่องดังกล่าวเข้าไปรกอยู่ในสภา” นายเทพไท ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น