เดลิเมล์ – น้อยคนนักที่จะมองว่าหนูน่ารัก แต่สำหรับ ‘บั๊ก’ กลับกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ในไซเบอร์สเปซเพียงชั่วพริบตา
มีคนเข้าไปดูภาพเจ้าหนูบั๊กที่เจสสิกา ฟลอเรนซ์ สาวน้อยวัย 18 ปี ถ่ายและโพสต์ลงเน็ต มากพอๆ กับซูเปอร์สตาร์บางคน แม้แต่พวกที่ไม่เคยชอบหนูมาก่อน ขณะที่เจสสิกาได้เมลจากบรรดาคนรักหนูท่วมท้น
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะกระตือรือร้นกับไอเดียการรับหนูมาเป็นสัตว์เลี้ยง กรณีนี้ไม่เว้นแม้แต่สตีฟและคาเรน พ่อแม่ของเจสสิกา
“ตอนแรกที่บอกว่าจะเลี้ยงหนู ฉันต้องโน้มน้าวพ่อกับแม่พอสมควรเลย ตัวฉันเองก็ได้ไอเดียจากในทีวี ตอนนั้นฉันอายุ 13 และคิดว่าสักวันจะต้องเลี้ยงหนูให้ได้ ทันทีที่ได้บั๊กมา พ่อแม่ก็หลงรักมันงอมแงมพอๆ กับฉัน”
เจสสิกายืนยันว่าหนูน่ารักและน่าเลี้ยงไว้ในบ้าน
“บั๊กไม่เหม็นเหมือนหนูตัวอื่นๆ เหม็นน้อยกว่าหมา หนูเป็นมิตร ฉลาด ฉันสอนให้บั๊กถ่ายเป็นที่เป็นทาง รู้ชื่อตัวเอง ทุกครั้งที่เรียกก็จะวิ่งมาหา จำเสียงของเล่นได้
“บั๊กยังจำเสียงแม่ได้เพราะแม่เป็นคนหาข้าวให้กิน มันจะทำท่ากระดี๊กระด๊ามากเวลาได้ยินเสียงแม่ ตอนได้ยินเสียงฉันก็เหมือนกัน มันจะลุกขึ้นมาเกาะกรงและยกเท้าหน้าโบกให้”
ดูจากรูป ท่าทางบั๊กไม่ตื่นกล้องเลย แถมชอบโปรยเสน่ห์ไม่ผิดเพี้ยนจากซูเปอร์โมเดล
“จริงๆ แล้ว การทำให้บั๊กไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการง่ายกว่าที่ใครๆ คิด แค่รอดึกหน่อย ทีนี้บั๊กก็จะง่วงเลิกวิ่งซน ฉันก็แค่เดินถือกล้องตามจนได้ช็อตเด็ตที่ต้องการเท่านั้น”
เจสสิกาบอกว่า ตอนนี้บั๊กอายุ 3 ขวบแล้ว และชอบนอนมากกว่าตอนเด็กๆ แต่ก็ยังวิ่งเล่นไปทั่วห้องนอนเธอ
สาวน้อยยังเล่าว่า เธอเริ่มสนใจถ่ายรูปตอนอายุ 16 ที่ได้กล้องนิคอน ดี40 เป็นของขวัญคริสต์มาส และตั้งแต่นั้นเธอเริ่มเรียนรู้วิธีการใช้งานด้วยตัวเอง
เจสสิกาใช้เลนส์สามตัว และไม่นานนี้เริ่มใช้แฟลชสปีดไลท์ทำให้ไม่ต้องอาศัยแสงธรรมชาติเวลาอยากถ่ายรูปบั๊ก ทุกอย่างจึงยิ่งง่ายขึ้น
ไม่นานเธอพบว่า ไม่ใช่เฉพาะเธอเท่านั้นที่ชอบใจภาพเจ้าหนูที่น่ารัก คนอื่นๆ ก็ชอบภาพเหล่านั้นเหมือนกัน
“คนชอบกันมาก ยิ่งทำให้ฉันมีแรงบันดาลใจที่จะถ่ายรูปบั๊กเก็บไว้อีก รูปที่คนชอบที่สุดคือรูปที่บั๊กนอนซุกเท็ดดี้แบร์ มีคนเข้าไปดูเกินแสนตั้งแต่ฉันโพสต์ลงเน็ต”
เจสสิกา ที่เพิ่งเรียนจบอนุปริญญาสาขาศิลปะและการออกแบบเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว และตอนนี้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่พอร์ตสมัท อังกฤษ ระหว่างหางานทำ บอกว่าอยากยึดอาชีพช่างภาพ
“ฉันหวังว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ และลงเรียนวิชาถ่ายภาพ ฉันรักการได้อยู่หลังกล้อง แค่หยิบกล้องขึ้นมาก็มีความสุขแล้ว”
มีคนเข้าไปดูภาพเจ้าหนูบั๊กที่เจสสิกา ฟลอเรนซ์ สาวน้อยวัย 18 ปี ถ่ายและโพสต์ลงเน็ต มากพอๆ กับซูเปอร์สตาร์บางคน แม้แต่พวกที่ไม่เคยชอบหนูมาก่อน ขณะที่เจสสิกาได้เมลจากบรรดาคนรักหนูท่วมท้น
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะกระตือรือร้นกับไอเดียการรับหนูมาเป็นสัตว์เลี้ยง กรณีนี้ไม่เว้นแม้แต่สตีฟและคาเรน พ่อแม่ของเจสสิกา
“ตอนแรกที่บอกว่าจะเลี้ยงหนู ฉันต้องโน้มน้าวพ่อกับแม่พอสมควรเลย ตัวฉันเองก็ได้ไอเดียจากในทีวี ตอนนั้นฉันอายุ 13 และคิดว่าสักวันจะต้องเลี้ยงหนูให้ได้ ทันทีที่ได้บั๊กมา พ่อแม่ก็หลงรักมันงอมแงมพอๆ กับฉัน”
เจสสิกายืนยันว่าหนูน่ารักและน่าเลี้ยงไว้ในบ้าน
“บั๊กไม่เหม็นเหมือนหนูตัวอื่นๆ เหม็นน้อยกว่าหมา หนูเป็นมิตร ฉลาด ฉันสอนให้บั๊กถ่ายเป็นที่เป็นทาง รู้ชื่อตัวเอง ทุกครั้งที่เรียกก็จะวิ่งมาหา จำเสียงของเล่นได้
“บั๊กยังจำเสียงแม่ได้เพราะแม่เป็นคนหาข้าวให้กิน มันจะทำท่ากระดี๊กระด๊ามากเวลาได้ยินเสียงแม่ ตอนได้ยินเสียงฉันก็เหมือนกัน มันจะลุกขึ้นมาเกาะกรงและยกเท้าหน้าโบกให้”
ดูจากรูป ท่าทางบั๊กไม่ตื่นกล้องเลย แถมชอบโปรยเสน่ห์ไม่ผิดเพี้ยนจากซูเปอร์โมเดล
“จริงๆ แล้ว การทำให้บั๊กไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการง่ายกว่าที่ใครๆ คิด แค่รอดึกหน่อย ทีนี้บั๊กก็จะง่วงเลิกวิ่งซน ฉันก็แค่เดินถือกล้องตามจนได้ช็อตเด็ตที่ต้องการเท่านั้น”
เจสสิกาบอกว่า ตอนนี้บั๊กอายุ 3 ขวบแล้ว และชอบนอนมากกว่าตอนเด็กๆ แต่ก็ยังวิ่งเล่นไปทั่วห้องนอนเธอ
สาวน้อยยังเล่าว่า เธอเริ่มสนใจถ่ายรูปตอนอายุ 16 ที่ได้กล้องนิคอน ดี40 เป็นของขวัญคริสต์มาส และตั้งแต่นั้นเธอเริ่มเรียนรู้วิธีการใช้งานด้วยตัวเอง
เจสสิกาใช้เลนส์สามตัว และไม่นานนี้เริ่มใช้แฟลชสปีดไลท์ทำให้ไม่ต้องอาศัยแสงธรรมชาติเวลาอยากถ่ายรูปบั๊ก ทุกอย่างจึงยิ่งง่ายขึ้น
ไม่นานเธอพบว่า ไม่ใช่เฉพาะเธอเท่านั้นที่ชอบใจภาพเจ้าหนูที่น่ารัก คนอื่นๆ ก็ชอบภาพเหล่านั้นเหมือนกัน
“คนชอบกันมาก ยิ่งทำให้ฉันมีแรงบันดาลใจที่จะถ่ายรูปบั๊กเก็บไว้อีก รูปที่คนชอบที่สุดคือรูปที่บั๊กนอนซุกเท็ดดี้แบร์ มีคนเข้าไปดูเกินแสนตั้งแต่ฉันโพสต์ลงเน็ต”
เจสสิกา ที่เพิ่งเรียนจบอนุปริญญาสาขาศิลปะและการออกแบบเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว และตอนนี้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่พอร์ตสมัท อังกฤษ ระหว่างหางานทำ บอกว่าอยากยึดอาชีพช่างภาพ
“ฉันหวังว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ และลงเรียนวิชาถ่ายภาพ ฉันรักการได้อยู่หลังกล้อง แค่หยิบกล้องขึ้นมาก็มีความสุขแล้ว”
