สายข่าวทุกสายรายงานตรงกันว่า ในวันนี้ (24 ก.พ.) การเคลื่อนพลของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่มาตามสัญญาเพื่อทวงถามข้อเสนอทั้งสี่ข้อ ที่ยื่นให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีจุดหมายปลายทางที่ทำเนียบรัฐบาล จะไม่เข้าไปยึดทำเนียบแน่ แต่จะมีการปิดล้อมทำเนียบฯ ชุมนุมยืดเยื้อรอจนกว่านายกรัฐมนตรีจะกลับมาทำงานในวันอังคารหน้า (2 มี.ค.)
การเดินทัพของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการศึกการเมืองนอกสภาที่สำคัญ เพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาลให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเร็ววัน ตามความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ของคนเสื้อแดงที่บัญชาการรบอยู่นอกประเทศ
**ดังนั้น จึงมีข่าวว่าคนและปัจจัยเพียบพร้อมสำหรับการยุทธ์รอบนี้
กลุ่มนปช.คาดว่าจะได้คนเข้าการชุมนุมไม่น้อยกว่า 3หมื่นคน ซึ่งเป็นเสื้อแดงเลือดแท้กลุ่มสาวกรายการ “ความจริงวันนี้” โม้ด้วยว่าชุดนี้จะเป็นกลุ่มคนชุมนุมที่พร้อมจะปักหลักพักค้างอยู่ที่นำเนียบฯแบบรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ออกไม่เลิก ซึ่งจะเรียกระดมพลได้จริงตามที่คุยหรือก็คงจะได้เห็นกัน
กลุ่มเสื้อแดงที่จะเดินทางเข้ามาสมทบด้วย ก็น่าจะเป็นกลุ่มของนายขวัญชัย ไพรพนา ที่เพิ่งโดนข้อหาอาญาหนักจากเหตุการณ์ ทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องกลับลำมาสวามิภักดิ์คนเสื้อแดง เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว ซึ่งนายขวัญชัย บอกว่า จะนำคนมาร่วมชุมนุมด้วย 3พันคน แต่จะมาแค่วันเดียวไม่ปักหลักพักค้าง
ส่วน “ปัจจัย”ในการเคลื่อนพลกดดันรัฐบาลครั้งนี้เต็มที่กว่าทุกครั้งที่แล้วมา เพราะ“นายใหญ่”หวังเต็มที่ที่จะเผด็จศึกให้ได้ และอย่างน้อยก็สร้างภาพให้ระบือลือลั่นไปทั่วโลกได้ ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ไร้เสถียรภาพ ขาดการยอมรับของประชาชน โดยอาศัยจังหวะที่สื่อมวลชนจากทั่วโลกเข้ามาทำข่าวการประชุมอาเซียนซัมมิต
**เพื่อทำให้เมืองไทยเป็น “นรกของการลงทุน”ให้ได้ อย่างที่ตนเองได้ประกาศฝากผ่านส.ส.ที่เพิ่งกลับจากฮ่องกง
“นายใหญ่” จัดส่งเงินทุนก้อนแรกมาแล้วโดยผ่านการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นทุนก้อนแรกสำหรับการใช้โหมโรง แต่หากดูแล้ว สถานการณ์ยืดเยื้อและประเมินว่า เป็นผลบวกกับกลุ่มเสื้อแดง ก็พร้อมที่จะเบิกก้อนต่อไปให้
โดยภารกิจนี้ “นายใหญ่”มนุษย์เร่ร่อนไร้แผ่นดินได้มอบหมายให้แก่น้องชาย “พายัพ” เตรียมแลกเช็กเปลี่ยนเป็นเงินสดจากกลุ่มเครือข่ายธุรกิจไว้แล้ว ถ้าต้องส่งกระสุนดินดำ ก็พร้อมเบิกจ่ายเมื่อไหร่ เมื่อนั้น
**ดังนั้น การเคลื่อนพลของนปช.โดยมีนักโทษหนีคดีอาญาเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง จึงไม่อาจประมาทในศักยภาพได้ จำนวนคนและปัจจัยพร้อมเพรียงขนาดนี้ ย่อมสามารถที่จะสร้างสถานการณ์เลวร้ายให้เกิดขึ้นได้แน่
แต่อย่างไรก็ตาม แผนการรับมือม็อบนปช.ได้กำหนดไว้อย่างรัดกุม ไม่หวั่นว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
ทั้งนี้ กระแสสำนักข่าวกรองของราชการเชื่อมั่นไปในทางเดียวกันว่า เหตุการณ์จะไม่บานปลายไปไกลอย่างแน่นอน เพราะคนเสื้อแดงไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่เข้มข้นเหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่มาเพราะรับจ้าง เมื่อรู้สึกว่าลำบากและเสี่ยงชีวิตเกินไปแล้ว ไม่คุ้มราคาค่าตัว ก็จะพากันล่าถอยกลับไป
อีกประการหนึ่ง ปัญหาการเคลื่อนพลของนปช.ครั้งนี้ คือจะไม่มีแนวร่วมจาก “กลุ่มซ้ายไร้เดียงสา” เป็นกำลังเสริมเหมือนเช่นทุกครั้ง เนื่องจากเกิดแรงสะเทือนจากกรณี นายใจ อึ๊งภากรณ์ ที่เปิดแถลงการณ์ สยามสีแดง ทำให้กลุ่มพวกนี้ต้องตกอยู่ในข่ายต้องคดีอาญาสำคัญด้วย
จึงคาดกันว่า “กลุ่มซ้ายไร้เดียงสา” จะต้องทำตัวให้เบาจากปัญหานี้เสียก่อน หากขืนเข้าร่วมกับนปช.ที่การชุมนุมแต่ละครั้งพุ่งเป้าไปที่สถาบันกษัตริย์ ก็อาจจะทำให้คนเหล่านี้ต้องอยู่ในที่นั่งลำบากมากขึ้น
จึงเป็นความอ่อนล้าของพลังนปช. ที่ต้องคิดหนัก เพราะ“กลุ่มซ้ายไร้เดียงสา” เหล่านี้มีจุดขายหลอกเด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ให้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวได้ระดับหนึ่ง
การชุมนุมยืดเยื้อที่ต้องมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายเส้นชัย เป็นเรื่องที่ต้องใช้ “ปัจจัย”จำนวนมาก ก็จะเป็นปัญหาติดตามอีกด้านหนึ่ง แม้“นายใหญ่” กะทุ่มเม็ดเงินเต็มที่ในงานนี้ แต่ถ้าต้องควักจริงๆ ก็อาจจะถอดใจ โดยนิสัยแล้วนอกจากจะเป็นคนใจร้อนที่หักเอาให้ได้ในทันทีแล้ว “นายใหญ่” ยังขี้ตืดสุดๆ
**เรื่องที่จะทนรออะไรนานๆ และจ่ายไม่อั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับคนๆนี้
ทำให้หน่วยข่าวเชื่อว่า ไม่มีเหตุการณ์ยืดเยื้อรุนแรงค่อนข้างแน่ และยืนยันว่า ม็อบนปช. จะถูกแกนนำจูงจมูกมาล้อมทำเนียบฯ จะไม่เข้าไปยึดทำเนียบฯ อย่างที่หวาดกลัวกัน
ทั้งนี้ เป็นผลจากการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับแกนนำคนสำคัญของนปช. ซึ่งตัวแทนของนปช. คาดว่าน่าจะเป็น นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ให้คำยืนยันว่า จะไม่นำคนเสื้อแดงบุกทำเนียบฯแน่
นี่เป็นเรื่องที่หน่วยข่าวด้านความมั่นคง ให้ความมั่นใจว่า นปช. จะมีเส้นกั้นอยู่แค่ปิดล้อมทำเนียบฯ เท่านั้น
นอกจากคำมั่นสัญญาที่แกนนำ นปช.ให้ไว้แล้ว เหตุที่เชื่อว่าจะไม่มีการยึดทำเนียบฯ เพราะวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ขณะนี้ ไม่มีเงื่อนไขที่สุกงอมพอที่ นปช.จะเข้าไปยึดทำเนียบฯ ตามแบบที่กลุ่มพันธมิตรฯทำได้ **เพราะประเมินว่าหากยึดทำเนียบฯในหนนี้ ประชาชนจะออกมาต่อต้านกลุ่มนปช.เอง ซึ่งต่างจากห้วงเวลาที่กลุ่มพันธมิตรฯ ทำได้ก็เพราะประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศเห็นด้วย เพราะไม่ต้องการรัฐบาลที่เป็นหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ
**ถ้า นปช.ตัดสินใจผิดพลาด ก็จะเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการยกพลประชิดทำเนียบฯ แล้ว ไม่มีใครคาดการณ์ที่แม่นยำได้ โดยเฉพาะกลุ่มนปช. ที่ไร้อุดมการณ์ทางการเมือง หวังทำเพื่อเงินค่าจ้าง และรับใช้เป็นทาสคนๆ เดียวอย่างขาดสติ อาจจะทำสิ่งใดที่เหนือกว่าการคาดหมายได้เสมอ
เรื่องที่หวังจะให้กลุ่ม นปช.ชุมนุมเรียกร้องด้วยความอดทนอยู่ในกรอบกติกา หรือแม้แต่ยึดหลักปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กำหนดรองรับสิทธิในการชุมนุมไว้ว่า จะต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ ก็เป็นเรื่องที่รับประกันได้ยาก
แม้แต่กลุ่มแกนนำ “สามเกลอหัวขวด” ยังหวั่นไหวต่อเรื่องนี้ เลยออกมาตีกันไว้ก่อนในทำนองว่า รัฐบาลและกองทัพเตรียมสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้พวกนปช. ตกเป็นเหยื่อ โดยส่งคนเข้าไปแทรกซึมเป็นคนเสื้อแดง แล้วทำการปั่นป่วนให้เกิดความรุนแรง
**ที่แท้ ก็เพราะพวกกันเองคุมกันไม่ได้ แต่เตรียมโยนบาปให้คนอื่น
แผนรับมือม็อบ นปช. ที่เคาะแล้วล่าสุด ข่าวจากตำรวจนครบาลแจ้งว่า หากมีการบุกรุกเข้ายึดทำเนียบฯ ก็จะมีการจัดการขั้นเด็ดขาด คือ ตำรวจจะจับในส่วนคนที่บุกรุก และจะดำเนินการสลายม็อบที่อยู่นอกทำเนียบฯไปพร้อมกันทันที
อย่างไรก็ตาม จนมาถึงวันนี้แล้ว ถ้าหากให้แกนนำนปช. ย้อนเวลากลับไปได้ ก็เลือกที่จะไม่นัดหมายการชุมนุมครั้งนี้ เพราะมาแล้วก็ไม่ได้เจอเป้าหมาย คือนายกรัฐมนตรี ที่รู้ทันเกม ชิ่งไปประชุมครม.ที่หัวหินแทน ครั้นจะรอจนถึงสัปดาห์หน้าก็หวั่นเหลือเกินว่า จะมีพลพรรคคนเสื้อแดง ปักหลักยืดเยื้อเหลืออยู่สักกี่คน?
**สถานการณ์ที่เดินหน้าก็ตาย ถอยก็ไม่ได้ของนปช. จึงน่าติดตามอย่างยิ่ง
การเดินทัพของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการศึกการเมืองนอกสภาที่สำคัญ เพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาลให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเร็ววัน ตามความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ของคนเสื้อแดงที่บัญชาการรบอยู่นอกประเทศ
**ดังนั้น จึงมีข่าวว่าคนและปัจจัยเพียบพร้อมสำหรับการยุทธ์รอบนี้
กลุ่มนปช.คาดว่าจะได้คนเข้าการชุมนุมไม่น้อยกว่า 3หมื่นคน ซึ่งเป็นเสื้อแดงเลือดแท้กลุ่มสาวกรายการ “ความจริงวันนี้” โม้ด้วยว่าชุดนี้จะเป็นกลุ่มคนชุมนุมที่พร้อมจะปักหลักพักค้างอยู่ที่นำเนียบฯแบบรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่ออกไม่เลิก ซึ่งจะเรียกระดมพลได้จริงตามที่คุยหรือก็คงจะได้เห็นกัน
กลุ่มเสื้อแดงที่จะเดินทางเข้ามาสมทบด้วย ก็น่าจะเป็นกลุ่มของนายขวัญชัย ไพรพนา ที่เพิ่งโดนข้อหาอาญาหนักจากเหตุการณ์ ทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องกลับลำมาสวามิภักดิ์คนเสื้อแดง เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว ซึ่งนายขวัญชัย บอกว่า จะนำคนมาร่วมชุมนุมด้วย 3พันคน แต่จะมาแค่วันเดียวไม่ปักหลักพักค้าง
ส่วน “ปัจจัย”ในการเคลื่อนพลกดดันรัฐบาลครั้งนี้เต็มที่กว่าทุกครั้งที่แล้วมา เพราะ“นายใหญ่”หวังเต็มที่ที่จะเผด็จศึกให้ได้ และอย่างน้อยก็สร้างภาพให้ระบือลือลั่นไปทั่วโลกได้ ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ไร้เสถียรภาพ ขาดการยอมรับของประชาชน โดยอาศัยจังหวะที่สื่อมวลชนจากทั่วโลกเข้ามาทำข่าวการประชุมอาเซียนซัมมิต
**เพื่อทำให้เมืองไทยเป็น “นรกของการลงทุน”ให้ได้ อย่างที่ตนเองได้ประกาศฝากผ่านส.ส.ที่เพิ่งกลับจากฮ่องกง
“นายใหญ่” จัดส่งเงินทุนก้อนแรกมาแล้วโดยผ่านการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นทุนก้อนแรกสำหรับการใช้โหมโรง แต่หากดูแล้ว สถานการณ์ยืดเยื้อและประเมินว่า เป็นผลบวกกับกลุ่มเสื้อแดง ก็พร้อมที่จะเบิกก้อนต่อไปให้
โดยภารกิจนี้ “นายใหญ่”มนุษย์เร่ร่อนไร้แผ่นดินได้มอบหมายให้แก่น้องชาย “พายัพ” เตรียมแลกเช็กเปลี่ยนเป็นเงินสดจากกลุ่มเครือข่ายธุรกิจไว้แล้ว ถ้าต้องส่งกระสุนดินดำ ก็พร้อมเบิกจ่ายเมื่อไหร่ เมื่อนั้น
**ดังนั้น การเคลื่อนพลของนปช.โดยมีนักโทษหนีคดีอาญาเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง จึงไม่อาจประมาทในศักยภาพได้ จำนวนคนและปัจจัยพร้อมเพรียงขนาดนี้ ย่อมสามารถที่จะสร้างสถานการณ์เลวร้ายให้เกิดขึ้นได้แน่
แต่อย่างไรก็ตาม แผนการรับมือม็อบนปช.ได้กำหนดไว้อย่างรัดกุม ไม่หวั่นว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
ทั้งนี้ กระแสสำนักข่าวกรองของราชการเชื่อมั่นไปในทางเดียวกันว่า เหตุการณ์จะไม่บานปลายไปไกลอย่างแน่นอน เพราะคนเสื้อแดงไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่เข้มข้นเหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่มาเพราะรับจ้าง เมื่อรู้สึกว่าลำบากและเสี่ยงชีวิตเกินไปแล้ว ไม่คุ้มราคาค่าตัว ก็จะพากันล่าถอยกลับไป
อีกประการหนึ่ง ปัญหาการเคลื่อนพลของนปช.ครั้งนี้ คือจะไม่มีแนวร่วมจาก “กลุ่มซ้ายไร้เดียงสา” เป็นกำลังเสริมเหมือนเช่นทุกครั้ง เนื่องจากเกิดแรงสะเทือนจากกรณี นายใจ อึ๊งภากรณ์ ที่เปิดแถลงการณ์ สยามสีแดง ทำให้กลุ่มพวกนี้ต้องตกอยู่ในข่ายต้องคดีอาญาสำคัญด้วย
จึงคาดกันว่า “กลุ่มซ้ายไร้เดียงสา” จะต้องทำตัวให้เบาจากปัญหานี้เสียก่อน หากขืนเข้าร่วมกับนปช.ที่การชุมนุมแต่ละครั้งพุ่งเป้าไปที่สถาบันกษัตริย์ ก็อาจจะทำให้คนเหล่านี้ต้องอยู่ในที่นั่งลำบากมากขึ้น
จึงเป็นความอ่อนล้าของพลังนปช. ที่ต้องคิดหนัก เพราะ“กลุ่มซ้ายไร้เดียงสา” เหล่านี้มีจุดขายหลอกเด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ให้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวได้ระดับหนึ่ง
การชุมนุมยืดเยื้อที่ต้องมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายเส้นชัย เป็นเรื่องที่ต้องใช้ “ปัจจัย”จำนวนมาก ก็จะเป็นปัญหาติดตามอีกด้านหนึ่ง แม้“นายใหญ่” กะทุ่มเม็ดเงินเต็มที่ในงานนี้ แต่ถ้าต้องควักจริงๆ ก็อาจจะถอดใจ โดยนิสัยแล้วนอกจากจะเป็นคนใจร้อนที่หักเอาให้ได้ในทันทีแล้ว “นายใหญ่” ยังขี้ตืดสุดๆ
**เรื่องที่จะทนรออะไรนานๆ และจ่ายไม่อั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับคนๆนี้
ทำให้หน่วยข่าวเชื่อว่า ไม่มีเหตุการณ์ยืดเยื้อรุนแรงค่อนข้างแน่ และยืนยันว่า ม็อบนปช. จะถูกแกนนำจูงจมูกมาล้อมทำเนียบฯ จะไม่เข้าไปยึดทำเนียบฯ อย่างที่หวาดกลัวกัน
ทั้งนี้ เป็นผลจากการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับแกนนำคนสำคัญของนปช. ซึ่งตัวแทนของนปช. คาดว่าน่าจะเป็น นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ให้คำยืนยันว่า จะไม่นำคนเสื้อแดงบุกทำเนียบฯแน่
นี่เป็นเรื่องที่หน่วยข่าวด้านความมั่นคง ให้ความมั่นใจว่า นปช. จะมีเส้นกั้นอยู่แค่ปิดล้อมทำเนียบฯ เท่านั้น
นอกจากคำมั่นสัญญาที่แกนนำ นปช.ให้ไว้แล้ว เหตุที่เชื่อว่าจะไม่มีการยึดทำเนียบฯ เพราะวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ขณะนี้ ไม่มีเงื่อนไขที่สุกงอมพอที่ นปช.จะเข้าไปยึดทำเนียบฯ ตามแบบที่กลุ่มพันธมิตรฯทำได้ **เพราะประเมินว่าหากยึดทำเนียบฯในหนนี้ ประชาชนจะออกมาต่อต้านกลุ่มนปช.เอง ซึ่งต่างจากห้วงเวลาที่กลุ่มพันธมิตรฯ ทำได้ก็เพราะประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศเห็นด้วย เพราะไม่ต้องการรัฐบาลที่เป็นหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ
**ถ้า นปช.ตัดสินใจผิดพลาด ก็จะเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการยกพลประชิดทำเนียบฯ แล้ว ไม่มีใครคาดการณ์ที่แม่นยำได้ โดยเฉพาะกลุ่มนปช. ที่ไร้อุดมการณ์ทางการเมือง หวังทำเพื่อเงินค่าจ้าง และรับใช้เป็นทาสคนๆ เดียวอย่างขาดสติ อาจจะทำสิ่งใดที่เหนือกว่าการคาดหมายได้เสมอ
เรื่องที่หวังจะให้กลุ่ม นปช.ชุมนุมเรียกร้องด้วยความอดทนอยู่ในกรอบกติกา หรือแม้แต่ยึดหลักปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กำหนดรองรับสิทธิในการชุมนุมไว้ว่า จะต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ ก็เป็นเรื่องที่รับประกันได้ยาก
แม้แต่กลุ่มแกนนำ “สามเกลอหัวขวด” ยังหวั่นไหวต่อเรื่องนี้ เลยออกมาตีกันไว้ก่อนในทำนองว่า รัฐบาลและกองทัพเตรียมสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้พวกนปช. ตกเป็นเหยื่อ โดยส่งคนเข้าไปแทรกซึมเป็นคนเสื้อแดง แล้วทำการปั่นป่วนให้เกิดความรุนแรง
**ที่แท้ ก็เพราะพวกกันเองคุมกันไม่ได้ แต่เตรียมโยนบาปให้คนอื่น
แผนรับมือม็อบ นปช. ที่เคาะแล้วล่าสุด ข่าวจากตำรวจนครบาลแจ้งว่า หากมีการบุกรุกเข้ายึดทำเนียบฯ ก็จะมีการจัดการขั้นเด็ดขาด คือ ตำรวจจะจับในส่วนคนที่บุกรุก และจะดำเนินการสลายม็อบที่อยู่นอกทำเนียบฯไปพร้อมกันทันที
อย่างไรก็ตาม จนมาถึงวันนี้แล้ว ถ้าหากให้แกนนำนปช. ย้อนเวลากลับไปได้ ก็เลือกที่จะไม่นัดหมายการชุมนุมครั้งนี้ เพราะมาแล้วก็ไม่ได้เจอเป้าหมาย คือนายกรัฐมนตรี ที่รู้ทันเกม ชิ่งไปประชุมครม.ที่หัวหินแทน ครั้นจะรอจนถึงสัปดาห์หน้าก็หวั่นเหลือเกินว่า จะมีพลพรรคคนเสื้อแดง ปักหลักยืดเยื้อเหลืออยู่สักกี่คน?
**สถานการณ์ที่เดินหน้าก็ตาย ถอยก็ไม่ได้ของนปช. จึงน่าติดตามอย่างยิ่ง
