ASTVผู้จัดการรายวัน – ด้วยศักยภาพ การท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี เป็นโอกาสสำคัญให้หนุ่มลูกหม้อเมืองกาญจน์ พัฒนาที่ดินบ้านเกิด สร้างธุรกิจ “ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต” นำเสนอบ้านพักสไตล์บาหลีประยุกต์ บรรยากาศสวยงาม พ่วงโปรแกรรมท่องเที่ยวครบทุกรูปแบบภายในจังหวัดแห่งนี้
สหัสนัย ยืนยงค์ เจ้าของธุรกิจ “ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต” เล่าว่า เส้นทางอาชีพหลังจบการศึกษาปริญญาตรี ด้านวิศวกรรม เข้าทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทนานกว่า 7 ปี จนวิกฤตเศรษฐกิจพ.ศ.2540 รู้สึกไม่มั่นใจในชีวิตมนุษย์เงินเดือน ตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่บ้านเกิด เพื่อพัฒนาพื้นที่ใน ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นสมบัติตกทอดของครอบครัว ลงทุนกว่า 2 ล้านบาท เปิดร้านอาหาร ควบคู่กับขายของสินค้าที่ระลึกประจำจังหวัด
เขาสู้ทนทำธุรกิจดังกล่าว กว่า 2 ปี ยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างหวัง ทว่า พื้นที่ในบริเวณส่วนหนึ่ง ซึ่งแบ่งให้ชาวต่างชาติเช่าทำเพท่องเที่ยว กลับมีแขกเข้าพักตลอดทั้งปี เมื่อหมดสัญญาเช่า ชาวต่างชาติเดินทางกลับ เหลือทิ้งเพไว้ให้ 1 หลัง จึงนำมาปรับปรับใหม่ เพื่อทำธุรกิจเพพักผ่อนของตัวเอง
สหัสนัย เล่าว่า ธุรกิจที่เริ่มใหม่ดังกล่าว ได้การตอบรับอย่างสูง ภายในเวลา แค่ 3 ปี สามารถขยายกิจการ สร้างเพเพิ่มใหม่เป็น 4 หลัง พร้อมบ้านพักรีสอร์ต อีก 2 หลัง
เมื่อวิเคราะห์แล้วว่า ธุรกิจท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี โดยเฉพาะที่ อ.ศรีสวัสดิ์ แนวโน้มจะเติบโตได้อีกมาก ในปี 2549 ขยายธุรกิจเพิ่ม โดยขอกู้เงินจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จำนวน 3.3 ล้านบาท สร้างบ้านพักเพิ่มเป็น 15 ห้อง รองรับแขกได้เต็มที่ 80 คน โดยมีคาดการณ์คืนทุนใน 6 ปี
“ก่อนจะลงทุน ผมได้เข้าสัมมนาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัด รู้ข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางมาที่กาญจนบุรี กว่า 5-6 ล้านคนต่อปี ซึ่งจำนวนนี้ กว่า 1.5 ล้านคนจะมาที่ อ.ศรีสวัสดิ์ ขณะที่ห้องพักทั้งหมดในศรีสวัสดิ์ รองรับได้เต็มที่แค่ 3-4 แสนคน ดังนั้น มีนักท่องเที่ยวอีกหลายแสนที่ยังต้องการห้องพัก ข้อมูลนี้ทำให้ผมมั่นใจว่า ศักยภาพการท่องเที่ยวใน จ.กาญจนบุรี ยังมีโอกาสอีกมาก”
ทั้งนี้ ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต มีเนื้อที่รวม 6 ไร่ อยู่ติดกับริมแม่น้ำแควใหญ่ สิ่งปลูกสร้างทั้งหมด สหัสนัย รับผิดชอบออกแบบเองทั้งหมด ลักษณะสไตล์บาหลีประยุกต์ ภายในห้องพัก เน้นใช้ไม้ไผ่เป็นส่วนสำคัญในการตกแต่ง นอกจากนั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน
ข้อเด่นของการท่องเที่ยวรีสอร์ตแห่งนี้ เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า ตำแหน่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 200 กิโลเมตร เดินทางสะดวกแค่ 3 ชั่วโมง ทำเลที่ตั้งล้อมรอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ภายใน จ.กาญจนบุรี สามารถ ตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยวได้ครบทุกรูปแบบ ทั้งแนวธรรมชาติ ผจญภัย และประวัติศาสตร์ เช่น ทะเลน้ำจืด ที่เขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกไทรโยคใหญ่-เล็ก ถ้ำธารลอด ล่องเพแม่น้ำแคว สะพานข้ามแม่น้ำแคว เขาชนไก่ กองถ่ายหนังพระนเรศวร และซาฟารี ปาร์ค ฯลฯ
สำหรับค่าห้องพักของทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต อยู่ที่ 1,200 1,500 1,800 และ 2,000 บาท อีกทั้ง มีบริการพักกางเต็นท์ อัตรา 650 บาทต่อคน นอกจากนั้น จัดแพคเกจท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ล่องเพ เที่ยวน้ำตก ล่องเรือตกปลา ตีกอล์ฟ เวลา 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหาร 5 มื้อ คิดอัตรา 1,600 และ 2,200 บาทต่อคน เป็นต้น
กลุ่มลูกค้าหลัก มีทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทย ส่วนใหญ่วัย 22-45 ปี ที่ผ่านมา อัตราแขกเข้าพักแน่นตลอดทั้งปี รายได้เฉลี่ยประมาณ 2 แสนบาทต่อเดือน หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เหลือกำไรสุทธิประมาณ 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากเหตุการณ์ปิดสนามบิน ทำให้ปีนี้ (2552) กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติยกเลิกทั้งหมด จำเป็นต้องหันมาทำตลาดภายในมากยิ่งขึ้น
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา จ.กาญจนบุรี ต่อปีมีสูงมาก ขณะที่ห้องพักรวมทั้งหมดแล้ว ไม่เพียงพอจะรองรับลูกค้าได้หมด ในหมู่ผู้ประกอบการรีสอร์ตด้วยกันเองแล้ว ไม่มีปัญหาแย่งลูกค้ากัน ตรงกันข้าม กลับรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ช่วยเหลือเสริมศักยภาพ ซึ่งกันและกัน ทั้งด้านเฉลี่ยแขกกรณีห้องพักไม่พอ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวร่วมกันเพิ่มความน่าสนใจ และลดต้นทุน รวมถึง ทำตลาดร่วมกัน เป็นต้น
สหัสนัย อธิบายว่า ภายในกลุ่มของเขา จับมือกันตั้งเป็นกลุ่ม “ศรีสวัสดิ์ กรุ๊ป” มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใน อ.ศรีสวัสดิ์ ประมาณ 70 ราย มีการจัดประชุมระดมความคิดทุกเดือน อีกทั้ง ออกกฎประจำกลุ่มว่า สมาชิกห้ามทำเพดิสโก้เธค เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสธรรมชาติจริงๆ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการเที่ยวเมืองกาญจน์
จากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวเวลานี้ หลายฝ่ายชี้ตรงกันว่า ธุรกิจท่องเที่ยวอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทว่า มุมมองเจ้าของรีสอร์ตรายนี้ กลับเห็นว่า วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสของคนไทยที่จะสร้างธุรกิจใหม่หรือขยายธุรกิจเดิม เนื่องจากต้นทุนค่าวัตถุดิบก่อสร้างลดลง ดังนั้น ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต เตรียมขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน กว่า 40 ล้านบาท เพื่อรื้อส่วนร้านขายสินค้าที่ระลึกซึ่งไม่สร้างกำไรทิ้ง แล้วสร้างเป็นโรงแรมขนาด 56 ห้องแทน รองรับลูกค้าชาวเกาหลี ซึ่งได้ไปทำสัญญาบริษัททัวร์ เกาหลีไว้แล้ว รวมถึง โรงแรมแห่งนี้จะเน้นขยายตลาดภายในประเทศ รับการจัดอบรมสัมมนาขององค์กรต่างๆ ทั้งเอกชนและรัฐบาลด้วย
โทร.0818474912 , 0819273266 และ www.tiparatresort.com
สหัสนัย ยืนยงค์ เจ้าของธุรกิจ “ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต” เล่าว่า เส้นทางอาชีพหลังจบการศึกษาปริญญาตรี ด้านวิศวกรรม เข้าทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทนานกว่า 7 ปี จนวิกฤตเศรษฐกิจพ.ศ.2540 รู้สึกไม่มั่นใจในชีวิตมนุษย์เงินเดือน ตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่บ้านเกิด เพื่อพัฒนาพื้นที่ใน ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นสมบัติตกทอดของครอบครัว ลงทุนกว่า 2 ล้านบาท เปิดร้านอาหาร ควบคู่กับขายของสินค้าที่ระลึกประจำจังหวัด
เขาสู้ทนทำธุรกิจดังกล่าว กว่า 2 ปี ยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างหวัง ทว่า พื้นที่ในบริเวณส่วนหนึ่ง ซึ่งแบ่งให้ชาวต่างชาติเช่าทำเพท่องเที่ยว กลับมีแขกเข้าพักตลอดทั้งปี เมื่อหมดสัญญาเช่า ชาวต่างชาติเดินทางกลับ เหลือทิ้งเพไว้ให้ 1 หลัง จึงนำมาปรับปรับใหม่ เพื่อทำธุรกิจเพพักผ่อนของตัวเอง
สหัสนัย เล่าว่า ธุรกิจที่เริ่มใหม่ดังกล่าว ได้การตอบรับอย่างสูง ภายในเวลา แค่ 3 ปี สามารถขยายกิจการ สร้างเพเพิ่มใหม่เป็น 4 หลัง พร้อมบ้านพักรีสอร์ต อีก 2 หลัง
เมื่อวิเคราะห์แล้วว่า ธุรกิจท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี โดยเฉพาะที่ อ.ศรีสวัสดิ์ แนวโน้มจะเติบโตได้อีกมาก ในปี 2549 ขยายธุรกิจเพิ่ม โดยขอกู้เงินจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จำนวน 3.3 ล้านบาท สร้างบ้านพักเพิ่มเป็น 15 ห้อง รองรับแขกได้เต็มที่ 80 คน โดยมีคาดการณ์คืนทุนใน 6 ปี
“ก่อนจะลงทุน ผมได้เข้าสัมมนาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัด รู้ข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางมาที่กาญจนบุรี กว่า 5-6 ล้านคนต่อปี ซึ่งจำนวนนี้ กว่า 1.5 ล้านคนจะมาที่ อ.ศรีสวัสดิ์ ขณะที่ห้องพักทั้งหมดในศรีสวัสดิ์ รองรับได้เต็มที่แค่ 3-4 แสนคน ดังนั้น มีนักท่องเที่ยวอีกหลายแสนที่ยังต้องการห้องพัก ข้อมูลนี้ทำให้ผมมั่นใจว่า ศักยภาพการท่องเที่ยวใน จ.กาญจนบุรี ยังมีโอกาสอีกมาก”
ทั้งนี้ ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต มีเนื้อที่รวม 6 ไร่ อยู่ติดกับริมแม่น้ำแควใหญ่ สิ่งปลูกสร้างทั้งหมด สหัสนัย รับผิดชอบออกแบบเองทั้งหมด ลักษณะสไตล์บาหลีประยุกต์ ภายในห้องพัก เน้นใช้ไม้ไผ่เป็นส่วนสำคัญในการตกแต่ง นอกจากนั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน
ข้อเด่นของการท่องเที่ยวรีสอร์ตแห่งนี้ เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า ตำแหน่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 200 กิโลเมตร เดินทางสะดวกแค่ 3 ชั่วโมง ทำเลที่ตั้งล้อมรอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ภายใน จ.กาญจนบุรี สามารถ ตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยวได้ครบทุกรูปแบบ ทั้งแนวธรรมชาติ ผจญภัย และประวัติศาสตร์ เช่น ทะเลน้ำจืด ที่เขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกไทรโยคใหญ่-เล็ก ถ้ำธารลอด ล่องเพแม่น้ำแคว สะพานข้ามแม่น้ำแคว เขาชนไก่ กองถ่ายหนังพระนเรศวร และซาฟารี ปาร์ค ฯลฯ
สำหรับค่าห้องพักของทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต อยู่ที่ 1,200 1,500 1,800 และ 2,000 บาท อีกทั้ง มีบริการพักกางเต็นท์ อัตรา 650 บาทต่อคน นอกจากนั้น จัดแพคเกจท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ล่องเพ เที่ยวน้ำตก ล่องเรือตกปลา ตีกอล์ฟ เวลา 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหาร 5 มื้อ คิดอัตรา 1,600 และ 2,200 บาทต่อคน เป็นต้น
กลุ่มลูกค้าหลัก มีทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทย ส่วนใหญ่วัย 22-45 ปี ที่ผ่านมา อัตราแขกเข้าพักแน่นตลอดทั้งปี รายได้เฉลี่ยประมาณ 2 แสนบาทต่อเดือน หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เหลือกำไรสุทธิประมาณ 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากเหตุการณ์ปิดสนามบิน ทำให้ปีนี้ (2552) กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติยกเลิกทั้งหมด จำเป็นต้องหันมาทำตลาดภายในมากยิ่งขึ้น
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา จ.กาญจนบุรี ต่อปีมีสูงมาก ขณะที่ห้องพักรวมทั้งหมดแล้ว ไม่เพียงพอจะรองรับลูกค้าได้หมด ในหมู่ผู้ประกอบการรีสอร์ตด้วยกันเองแล้ว ไม่มีปัญหาแย่งลูกค้ากัน ตรงกันข้าม กลับรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ช่วยเหลือเสริมศักยภาพ ซึ่งกันและกัน ทั้งด้านเฉลี่ยแขกกรณีห้องพักไม่พอ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวร่วมกันเพิ่มความน่าสนใจ และลดต้นทุน รวมถึง ทำตลาดร่วมกัน เป็นต้น
สหัสนัย อธิบายว่า ภายในกลุ่มของเขา จับมือกันตั้งเป็นกลุ่ม “ศรีสวัสดิ์ กรุ๊ป” มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใน อ.ศรีสวัสดิ์ ประมาณ 70 ราย มีการจัดประชุมระดมความคิดทุกเดือน อีกทั้ง ออกกฎประจำกลุ่มว่า สมาชิกห้ามทำเพดิสโก้เธค เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสธรรมชาติจริงๆ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการเที่ยวเมืองกาญจน์
จากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวเวลานี้ หลายฝ่ายชี้ตรงกันว่า ธุรกิจท่องเที่ยวอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทว่า มุมมองเจ้าของรีสอร์ตรายนี้ กลับเห็นว่า วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสของคนไทยที่จะสร้างธุรกิจใหม่หรือขยายธุรกิจเดิม เนื่องจากต้นทุนค่าวัตถุดิบก่อสร้างลดลง ดังนั้น ทิพรัตน์ แควใหญ่ รีสอร์ต เตรียมขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน กว่า 40 ล้านบาท เพื่อรื้อส่วนร้านขายสินค้าที่ระลึกซึ่งไม่สร้างกำไรทิ้ง แล้วสร้างเป็นโรงแรมขนาด 56 ห้องแทน รองรับลูกค้าชาวเกาหลี ซึ่งได้ไปทำสัญญาบริษัททัวร์ เกาหลีไว้แล้ว รวมถึง โรงแรมแห่งนี้จะเน้นขยายตลาดภายในประเทศ รับการจัดอบรมสัมมนาขององค์กรต่างๆ ทั้งเอกชนและรัฐบาลด้วย
โทร.0818474912 , 0819273266 และ www.tiparatresort.com