ASTVผู้จัดการรายวัน - ฟิทช์ เรทติ้งส์ ให้เครดิตหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของปตท.มูลค่าไม่เกิน 1.5 หมื่นล้าน ที่ AAA(tha) ระบุยังมีความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันเพียงรายเดียวในประเทศไทย แต่ยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาก๊าซ ราคาน้ำมัน และค่าเงิน รวมถึงผลการดำเนินงานที่อาจลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.(PTT) ครั้งที่ 1/2552 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 โดยมีมูลค่าไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท ที่ระดับ "AAA(tha)"โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของปตท.ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในประเทศไทย ความสำคัญของปตท.ในการสนองนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านพลังงานในประเทศไทย รวมถึงการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนากิจการพลังงานของประเทศ
โดยฟิทช์ให้ความเห็นว่าปตท.ยังคงเป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ การจัดหาและการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศไทย เนื่องจากปตท.มีเครือข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ครอบคลุมพื้นที่การใช้ก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศ และมีสัญญาเช่าระยะยาวในส่วนของท่อส่งก๊าซที่โอนคืนให้กับกระทรวงการคลัง รวมถึงการมีสัญญาการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติระยะยาวกับผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ทุกรายในประเทศ
นอกจากนี้ ปตท.ยังเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยโดยผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. สผ. โดยมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมมากที่สุด และมีปริมาณการผลิตปิโตรเลียมสูงเป็นอันดับสองในประเทศไทย นอกจากนี้ปตท.ยังเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในประเทศไทยเกือบทั้งหมด และเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และธุรกิจน้ำมัน
อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัท ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเป็นธุรกิจหลักของปตท.ในการสร้างกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) และยังสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างคงที่ โดยเป็นผลมาจากสัญญาการจัดจำหน่ายระยะยาวซึ่งมีการกำหนดปริมาณการซื้อขั้นต่ำจากคู่สัญญาในลักษณะ take-or-pay รวมถึงความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนการขายให้แก่ลูกค้า และความผันผวนที่น้อยกว่าของราคาก๊าซธรรมชาติเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการสนับสนุนของรัฐบาลต่อปตท.ในทางอ้อม (Implicit Support) ซึ่งช่วยทำให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตของปตท.เอง (Stand-alone Rating) โดยการสนับสนุนของรัฐบาลต่อปตท.ในทางอ้อมดังกล่าวพิจารณาจากการที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปตท. ขนาดของบริษัท ความสำคัญของธุรกิจของปตท.ต่อประเทศ และการที่ปตท.เป็นผู้ดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติรายเดียวในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตของปตท. ถูกลดทอนลงจากปัจจัยเสี่ยงที่บริษัทต้องเผชิญกับความผันผวนที่สูงของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แผนการลงทุนในอนาคตของปตท.ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎระเบียบและทางด้านการเมือง และความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับหนึ่ง โดยปตท.มีแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2552 ถึง 2556) ในโครงการต่างๆ รวมมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งการลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องประกอบกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทที่น่าจะอ่อนตัวลงในปี 2552 ตามสภาพเศรษฐกิจน่าจะทำให้หนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินของปตท.เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสถานะทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัทน่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ และสอดคล้องกับนโยบายทางการเงินของบริษัทที่จะรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.0 เท่าของ EBITDA
อนึ่ง ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (EBITDAR) รวม 134,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของ EBITDAR จากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท. สผ.) และธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดย EBITDAR จากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจก๊าซธรรมชาติคิดเป็นสัดส่วน 94% ของ EBITDAR รวม แม้ว่าหนี้สินสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 161,104 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2551 จาก 146,211 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 เนื่องจากการลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าย้อนหลัง 12 เดือน (Last-twelve-month (LTM) adjusted net debt to EBITDAR) และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือน (LTM funds from operations adjusted net leverage) ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 1.0 เท่า และ 1.1 เท่า ตามลำดับ
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.(PTT) ครั้งที่ 1/2552 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 โดยมีมูลค่าไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท ที่ระดับ "AAA(tha)"โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของปตท.ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในประเทศไทย ความสำคัญของปตท.ในการสนองนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านพลังงานในประเทศไทย รวมถึงการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนากิจการพลังงานของประเทศ
โดยฟิทช์ให้ความเห็นว่าปตท.ยังคงเป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ การจัดหาและการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศไทย เนื่องจากปตท.มีเครือข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ครอบคลุมพื้นที่การใช้ก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศ และมีสัญญาเช่าระยะยาวในส่วนของท่อส่งก๊าซที่โอนคืนให้กับกระทรวงการคลัง รวมถึงการมีสัญญาการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติระยะยาวกับผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ทุกรายในประเทศ
นอกจากนี้ ปตท.ยังเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยโดยผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. สผ. โดยมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมมากที่สุด และมีปริมาณการผลิตปิโตรเลียมสูงเป็นอันดับสองในประเทศไทย นอกจากนี้ปตท.ยังเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในประเทศไทยเกือบทั้งหมด และเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และธุรกิจน้ำมัน
อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัท ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเป็นธุรกิจหลักของปตท.ในการสร้างกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) และยังสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ค่อนข้างคงที่ โดยเป็นผลมาจากสัญญาการจัดจำหน่ายระยะยาวซึ่งมีการกำหนดปริมาณการซื้อขั้นต่ำจากคู่สัญญาในลักษณะ take-or-pay รวมถึงความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนการขายให้แก่ลูกค้า และความผันผวนที่น้อยกว่าของราคาก๊าซธรรมชาติเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการสนับสนุนของรัฐบาลต่อปตท.ในทางอ้อม (Implicit Support) ซึ่งช่วยทำให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตของปตท.เอง (Stand-alone Rating) โดยการสนับสนุนของรัฐบาลต่อปตท.ในทางอ้อมดังกล่าวพิจารณาจากการที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปตท. ขนาดของบริษัท ความสำคัญของธุรกิจของปตท.ต่อประเทศ และการที่ปตท.เป็นผู้ดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติรายเดียวในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตของปตท. ถูกลดทอนลงจากปัจจัยเสี่ยงที่บริษัทต้องเผชิญกับความผันผวนที่สูงของราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แผนการลงทุนในอนาคตของปตท.ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎระเบียบและทางด้านการเมือง และความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับหนึ่ง โดยปตท.มีแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2552 ถึง 2556) ในโครงการต่างๆ รวมมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งการลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องประกอบกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทที่น่าจะอ่อนตัวลงในปี 2552 ตามสภาพเศรษฐกิจน่าจะทำให้หนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินของปตท.เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสถานะทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัทน่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ และสอดคล้องกับนโยบายทางการเงินของบริษัทที่จะรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.0 เท่าของ EBITDA
อนึ่ง ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (EBITDAR) รวม 134,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของ EBITDAR จากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท. สผ.) และธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดย EBITDAR จากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและธุรกิจก๊าซธรรมชาติคิดเป็นสัดส่วน 94% ของ EBITDAR รวม แม้ว่าหนี้สินสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 161,104 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2551 จาก 146,211 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 เนื่องจากการลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าย้อนหลัง 12 เดือน (Last-twelve-month (LTM) adjusted net debt to EBITDAR) และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือน (LTM funds from operations adjusted net leverage) ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 1.0 เท่า และ 1.1 เท่า ตามลำดับ