xs
xsm
sm
md
lg

ใช้ซานติก้าขุดต้นตอยาเสพติด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ถึงการนำคดีเพลิงไหม้ซานติก้าผับ เช้าไปเป็น คดีพิเศษในการดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่า คดีนี้จะไม่มีการลูบหน้าปะจมูก แต่จะให้ดำเนินการจนถึงต้นตอจริงๆ ส่วนที่ต้องให้เข้าไปเป็นคดีพิเศษก็เพราะมันเกียวกับและมีแง่มุมที่มันฟ้องเราหลายๆ อย่างว่ามีขบวนการเรื่องยาเสพติด เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงธุรกิจผิดกฎหมายอื่นๆ ที่เราต้องดำเนินการอย่างเต็มที่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าความจริงการปราบปรามยาเสพติดทำไปได้เยอะ ซึ่งล่าสุดมีการพบ เครือข่ายใหญ่และจับได้แสนกว่าเม็ดและกำลังขยายผล ซึ่งผมกำลังดูว่า ทั้งป.ป.ส., ป.ป.ช. ดีเอสไอ กรทรวงยุติธรรม และผู้เกี่ยวข้องจะทำอะไรได้บ้าง ทั้งในแง่ปราบปราม และการสร้างภูมิคุ้นกันกับประชาชนไม่ให้เข้าไปเสพ อย่างในเรื่องกีฬา เรื่องศิลปะ เรื่องอะไรต่าง ๆ ที่จะต้องส่งเสริม จะเห็นว่างานจะสอดคล้องกัน ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม ต้องเข้ามาทำเรื่องนี้ ถ้าจำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ แรงจูงใจ อะไรต่าง ๆ เราก็จะมาพิจารณาเพื่อผลักดันเรื่องนี้
บางทีคนไปติดยึดว่าการปราบยาเสพติดได้ผลนี้ก็คือพูดให้รุนแรงเข้าไว้ และช่วงหนึ่งก็มีปัญหาเรื่องการฆ่าตัดตอน ผมว่ามันพิสูจน์แล้ว การฆ่าตัดตอนนี้คนตายไป อาจจะ 2,000 กว่าคน เราก็ยังไม่ทราบถึงวันนี้นะครับ แจกแจงกันไม่ครบว่า เกี่ยวข้องไม่เกี่ยวข้องอย่างไร อาจจะหยุดชะงักในช่วงหนึ่ง แต่มันกลับมาเพราะตัวใหญ่ยังอยู่ คำว่าฆ่าตัดตอนคือตัวใหญ่ยังอยู่นะครับ วันนี้เราต้องทำงาน และอย่างที่ผมคิดว่าตัวอย่างในช่วงเดือนที่ผ่านมา ที่เราทลายเครือข่าย ที่เข้าไปเกี่ยวกับคุกและได้ยาบ้าจำนวนมาก พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ต้องใช้ความรุนแรง แต่จัดการได้ เราก็จะใช้แนวทางนี้และขยายผลต่อไป
นายอภิสิทธิ์ ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการ ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในท้องที่ที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ว่า มันมีหลายเรื่อง ที่ประชาชนร้องเรียนมา ทั้งเรื่องยาเสพติด ตู้ม้า สถานบริการ และทางส่วนกลางกำลังเข้าไปตรวจตรา ว่าเป็นไปตามที่ร้องเรียนหรือไม่ โดยมากการร้องเรียนจะพูดถึงว่าได้เคยร้องเรียนไปยังพื้นที่นั้นๆ แล้ว ดังนั้นจึงอยากจะกวดขันให้ท้องที่เข้าไปดำเนินการไม่เช่นนั้นหากให้ส่วนกลางเข้าไปดำเนินการจะฟ้องว่ามันมีการละเลย ละเว้นเรื่องเหล่านี้ ขณะนี้ทางส่วนกลาง โดยกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะดำเนินการเรื่องนี้ เพราะมีการร้องเรียนกันมาก
ส่วนจะมีการสั่งย้ายทันทีที่พบว่ามีการละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดถึงมาตรการ แต่บอกว่าตอนนี้ต้องเร่งปฏิบัติหน้าที่ เพราะมีการร้องเรียนมามาก ทั้งนี้การบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ หากปล่อยปะละเลยมันก็คือที่มาของปัญหาความขัดแย้ง ความไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ตรงนี้ต้องทำทุกเรื่อง ไม่ใช่จะทำแค่เรื่องที่ได้รับความสนใจทางการเมือง แต่เรื่องที่เรื้อรังมานาน ทั้งคดีซานติกาผับซึ่งยิ่งเราสอบเข้าไปก็จะเห็นว่ามันมีข้อเท็จจริง ข้อมูลอีกหลายๆเรื่องมันก็เป็นตัวสะท้อนที่ดีของการปล่อยปะละเลยในอดีตที่ผ่านมา เราต้องเข้าไปชำระล้างตรงนี้ให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีที่อยู่ในมือนายกฯตอนนี้มีจำนวนมากแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอไม่ลงรายละเอียด แต่รมว.ยุติธรรมได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และกำลังดำเนินการอยู่ ไม่ขอพูดเพิ่มเติมเพราะมันชัดเจนแล้วและในพื้นที่ก็ทราบกันดี
ส่วนจะเป็นการปรับพฤติกรรมตำรวจให้ดีขึ้นหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่าจะให้เกิดความชัดเจนว่าระบบต้องเป็นอย่างไร แล้วต้องทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อข้อถามว่าที่ประชาชนมาร้องเรียนมีทั้งตำรวจ และข้าราชการด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใครที่เกี่ยวข้องทั้งหมดล่ะ ไม่ขอเจาะจงในส่วนไหน ใครมีหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่
ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงการประมวลผลหลังพรรคออกแคมเปญ เพี่อไทยพบประชาชน เฟสแรก ระหว่างวันที่ 1-28 ก.พ. และเปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของพรรคว่า จากการลงพื้นที่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าปัญหาเรื่องยาเสพติดและเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินยังคงเป็นปัญหาหลัก โดยได้พบกับตำรวจเพื่อขอข้อมูลซึ่งพบว่า ขณะนี้ยาเสพติดหาได้ง่ายและราคาถูกกว่าในอดีต เช่น ยาบ้าในอดีต 1 เม็ด 300 บาท แต่ในปัจจุบัน 1 เม็ด 150-200 บาท ส่วนปัฐหาอาชญากรรมนั้นเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เช่น รถจักรยานยนตร์ จากที่เคยหาย 3 วันต่อ 1 คัน เป็น 1 วันหาย 2-3 คัน ขณะที่ปัญหาปล้น จี้ วิ่งราว ชิงทรัพย์ก็เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเป็น 10 เท่า
อย่างไรก็ตาม ตนทราบดีว่ารัฐบาลมีปัญหาเยอะ แต่อยากให้มองปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ไม่ควรละเลยด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น