ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ตโชว์จับ 2 คดี ก่อเหตุชกทหารเรือชิงวิทยุสื่อสาร อ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบรีดไถเงินแรงงานต่างด้าวหนีไม่รอด ขณะที่อีกรายก่อเหตุลัก จยย.ผู้ต้องหาล้วนเป็นเด็กและวัยรุ่น “อภิรักษ์” ย้ำต้องเพิ่มสายตรวจอีก 3 สาย เพื่อป้องปรามเหตุร้ายรายวัน พร้อมจับมือร่วมผู้ว่าฯ จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์เจ้าหน้าที่ตำรวจกับเยาวชน
วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงส์ทอง ผบก.จว.ภูเก็ตพร้อมทั้ง พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันชิงทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน ขจม-729 ภูเก็ต และคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ พร้อมของกลางมีของกลางคือรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม หมายเลขเครื่อง ซี 100 เอ็มเอสอี-0011589 หมายเลขทะเบียนตัวรถซี 100 เอ็มเอสอี-0011589 และแผ่นป้ายทะเบียน กกษ-664 ภูเก็ต จำนวน 1 อัน
โดยผู้ต้องหาในคดีแรกนั้นมีด้วยกัน 2 ราย คือ นายเฉลิมพล นาวีกร อยู่บ้านเลขที่ 431/3 ถ.ภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายชานน ศิรินรรัตน์ อายุ 22 ปี อยู่ ถ.แม่หลวน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.00 น.ของวันที่ 8 ธันวาคม 2551 จ่าโทพงศธร เนติมงคล ผู้เสียหายกับพวกรวม 5 คน กลับจากทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งพร้อมกับเพื่อนๆ เมื่อมาถึงบริเวณเชิงสะพานริมคลองบางใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้เสียหายได้จอดรถและบอกกล่าวลากับเพื่อน มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจากทางปลายแหลมสะพานหินมาจอดแล้วลงจากรถเข้าชกต่อยผู้เสียหายที่บริเวณศีรษะและลำตัว ทำให้รถของผู้เสียหายล้มลง แล้วคนร้ายใช้อาวุธมีดชี้ที่คอผู้เสียหาย และหยิบเอาหมวกนิรภัยและวิทยุสื่อสารของทางราชการแล้วหลบหนีไป
โดยก่อนที่จะถูกจับกุม คนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารที่ชิงทรัพย์มานำไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบพม่าที่อยู่ภายในแคมป์ โดยอ้างว่ามีนายสั่งมาให้ตรวจสอบแรงงานต่างด้าว ขณะนั้นคนร้ายได้แสดงตัวกับนางอรอุมา เดชภักดี เจ้าของร้านขายของชำภายในแคมป์คนงานดังกล่าว นางอรอุมาฯ จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงคนร้ายได้วิ่งหนีเข้าป่าข้างแคมป์ และสามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา โดยสารภาพว่าทำไปเพราะดื่มสุราและเกิดความคึกคะนอง
สำหรับผู้ต้องหาในคดีที่ 2 นั้น มีคนร้ายทั้งสิ้น 4 ราย คือ ดช.เอ อายุ 12 ปี (นามสมติ) ดช.บี อายุ 12 ปี (นามสมติ) ดช.ซี อายุ 13 ปี (นามสมติ) และดช.ดี อายุ 15 ปี (นามสมติ)
โดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากนายไพศาล สิมกิ่ง อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.2 ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่ามีคนร้านไม่ทราบชื่อและไม่ทราบจำนวนทำการลักทรัพย์และรถจักรยานยนตร์ ซึ่งผู้เสียหายได้ติดตามรถจักรยานคันดังกล่าวมาโดยตลอด และพบว่ามีคนร้ายกำลังขี่รถจักรยานยนตร์ของตนเองอยู่ในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
จากนั้นผู้เสียหายจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและดำเนินการจับกุมจับกุม และพบว่ามีคนร้ายจำนวน 2 คนกำลังขี่รถจักยานยนตร์คันดังกล่าว ผู้เสียหายจึงได้ชี้ตัวให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเป็นรถของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ผู้ต้องหาได้สารภาพว่ามีเพื่อนอีก 2 คน นำรถจักรยานตร์คันของกลางมาให้ใช้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาที่จับกุมได้แล้ว ไปติดตามและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 คน ที่บ้านเลขที่ 55/179 ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และร้านเกมส์ภายในหมู่บ้านอิรวดี 1 ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.จว.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า เหตุร้ายในจังหวัดภูเก็ตเกิดขึ้นรายวันเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในปัจจุบัน และเนื่องจากผู้ต้องหาได้รับอภัยโทษเป็นจำนวนมากเมื่อวันที่ 5 ธันวาที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มจำนวนในการดูแล กวดขันเพิ่มมากขึ้น โดยตนเองจะเพิ่มสายตรวจอีก 2-3 สาย เพื่อที่จะดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ และตนเองจะลงพื้นที่ อบต.ทุกๆ 3 วัน เพื่อป้องกันอาชญากรรมรายในจังหวัดภูเก็ตให้ทั่วถึง
พล.ต.ต.อภิรักษ์ กล่าวต่ออีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ตนและผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้จักทำโครงการร่วมกันเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจกรรมของวัยรุ่น เปิดเวทีให้วัยรุ่นได้ทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
