ASTVผู้จัดการรายวัน- “กฟผ.”เร่งสำรวจธรณีวิทยาพื้นที่เหมาะสมตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หวังคัดเลือกให้เหลือ 5 แห่งภายในปีนี้ ก่อนชงรัฐบาลเคาะเดินหน้า
นายกมล ตรรกบุตร ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า จากการศึกษาสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของบริษัทที่ปรึกษาได้สรุปพื้นที่เหมาะสมในการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เบื้องต้น 14 แห่งโดยคณะทำงานได้เริ่มทำการสำรวจทางธรณีวิทยาแล้วในบางพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ที่มีศักยภาพในการนำข้อมูลไปประกอบกับทางด้านเทคนิค และสิ่งแวดล้อมตัดสินใจคัดพื้นที่ให้เหลือ 5 แห่งภายในปีนี้และขั้นสุดท้ายให้เหลือ 3 แห่งภายในพ.ค. 2553 เพื่อนำเสนอรัฐบาลในการพิจารณาอนุมัติดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ล่าสุดคณะทำงานได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเจาะสำรวจชั้นดินในบางแห่งแล้ว เช่น พื้นที่แถบ จ.สุราษฎ์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และล่าสุดเตรียมจะไปสำรวจที่จ.ชัยนาท อย่างไรก็ตามพื้นที่อื่นๆ ก็มีเช่น จ.ชลบุรี แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคใต้เนื่องจากติดทะเลซึ่งยอมรับว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตจำนวนมากแต่ท้ายสุดแล้วก็จะต้องรอความเหมาะสมหลายๆ ด้านประกอบรวมไปถึงการยอมรับจากชุมชน
“จ.ชัยนาทมีปริมาณน้ำเพียงพอหากจะมีการตั้งโรงไฟฟานิวเคลียร์แต่ด้านภูมิศาสตร์อื่นๆ เช่นชั้นใต้ดิน ก็จะต้องมาสำรวจขุดเจาะซึ่งได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทแล้วที่จะขอไปเจาะดูชั้นใต้ดินว่าเป็นอย่างไรโดยเฉพาะในเรื่องของความแน่นของดิน เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดก็ต้องมาให้น้ำหนักทุกด้านก่อนสรุปเหลือเพียง 3 แห่งเท่านั้น”นายกมลกล่าว
นายกมล ตรรกบุตร ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า จากการศึกษาสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของบริษัทที่ปรึกษาได้สรุปพื้นที่เหมาะสมในการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เบื้องต้น 14 แห่งโดยคณะทำงานได้เริ่มทำการสำรวจทางธรณีวิทยาแล้วในบางพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ที่มีศักยภาพในการนำข้อมูลไปประกอบกับทางด้านเทคนิค และสิ่งแวดล้อมตัดสินใจคัดพื้นที่ให้เหลือ 5 แห่งภายในปีนี้และขั้นสุดท้ายให้เหลือ 3 แห่งภายในพ.ค. 2553 เพื่อนำเสนอรัฐบาลในการพิจารณาอนุมัติดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ล่าสุดคณะทำงานได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเจาะสำรวจชั้นดินในบางแห่งแล้ว เช่น พื้นที่แถบ จ.สุราษฎ์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และล่าสุดเตรียมจะไปสำรวจที่จ.ชัยนาท อย่างไรก็ตามพื้นที่อื่นๆ ก็มีเช่น จ.ชลบุรี แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคใต้เนื่องจากติดทะเลซึ่งยอมรับว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตจำนวนมากแต่ท้ายสุดแล้วก็จะต้องรอความเหมาะสมหลายๆ ด้านประกอบรวมไปถึงการยอมรับจากชุมชน
“จ.ชัยนาทมีปริมาณน้ำเพียงพอหากจะมีการตั้งโรงไฟฟานิวเคลียร์แต่ด้านภูมิศาสตร์อื่นๆ เช่นชั้นใต้ดิน ก็จะต้องมาสำรวจขุดเจาะซึ่งได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทแล้วที่จะขอไปเจาะดูชั้นใต้ดินว่าเป็นอย่างไรโดยเฉพาะในเรื่องของความแน่นของดิน เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดก็ต้องมาให้น้ำหนักทุกด้านก่อนสรุปเหลือเพียง 3 แห่งเท่านั้น”นายกมลกล่าว