นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้นำ ภาพวงจรปิดในช่วงที่มีการยึดอำนาจ 19 ก.ย.ที่อ้างว่าเป็นภาพทหารเข้าตรวจค้น บ้านพักที่จ.เชียงรายว่า ตนเข้าใจนายยงยุทธ เป็นคนฉลาด โยงเอาเหตุการณ์ หลายยุคหลายสมัยมารวมกัน ตอนแรกก็ตกใจ ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ พยายามนึกในใจว่า เดี๋ยวต้องตรวจสอบ ตำรวจทหาร ของเราคนไหน ที่ไปรังแก นายยงยุทธ อย่างที่เขา กล่าวหา พอดูๆไป อ๋อมันเกิดขึ้น ก่อนที่ตนจะมาเป็นรัฐบาล เปิดขึ้นมาเป็นปีๆ แล้ว ตั้งแต่สมัย คมช.
ทำไมความรู้สึกช้ามาโวยเอาตอนนี้ แค่ทำให้คนเข้าใจนึกว่าผมไปข่มเหงรังแก ยืนยันให้สบายใจ ไม่มีการข่มเหงรังแกใคร ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก แต่ที่ต้อง มีการสอบสวนคดีสำคัญๆ ทั้งหลาย เพราะว่ายุคที่ผ่านมา ตำรวจไม่ค่อยได้ดำเนินคดี เพราะฉะนั้นเราต้องบังคับให้ทำคดี
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่านายยงยุทธ อ้างว่าตอนนี้ถูกรังแกเยอะมาก พึ่งใครไม่ได้แล้ว นอกจากไปไหว้เจ้า นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า น่าตลก ตนก็ตกใจ เอารูปคนใส่ชุดพลางถือปืนคุมหน้า แล้วมาบอกว่าถูกสั่งให้ไปข่มเหงรังแก ตนก็ตกใจ เพราะดูความมั่นคงอยู่ ฉะนั้นสิ่งที่นายยงยุทธ พูดอย่าไปใส่ใจมาก
ส่วนที่นายยงยุทธระบุว่าเรื่องทั้งหมดเป็นขบวนการเดียวกัน ตั้งแต่ 19 ก.ย. มาจนถึงคดีชิปปิ้งหมู นายสุเทพ ถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า ไม่รู้จะบอกยังไง ถ้าพยายาม พูดอย่างนั้นแล้ว ถ้าพวกเราคิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริง ก็พูดอยาก แต่ต้องถามว่า ชิปปิ้งหมูเป็นใคร ชิปปิ้งหมูก็คือคนที่มาเปิดโปงว่าบริษัทในเครือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โกงภาษีศุลกากร แล้วนายศิริโชค โสภา เลขาส่วนตัวนายกฯ ก็เอาข้อมูลชิปปิ้งหมู ไปอภิปรายในสภา แล้วชิปปิ้งหมูก็บอกว่ามีคนปองร้าย หนีไปอยู่เชียงรายแล้วถูกค่าตายแล้วตำรวจก็จับคนร้ายไม่ได้ ฆ่าตายกลางวัน ลูกของชิปปิ้งหมูมาร้องเรียนกับนายชวน หลีกภัย ที่เป็นหัวหน้าพรรคในตอนนั้น
เราพยายามติดตามเรื่องนี้มาตลอด ตำรวจก็ไม่ทำคดีสักที มาถึงวันนี้ก็สั่งให้รื้อคดี และมีนายตำรวจอย่าง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. ก็ยืนยันจะมาทำคดีให้ ก็เป็นเรื่องดี ทำไมต้องโกรธว่าให้ตามจับคนที่ฆ่าชิปปิ้งหมูแล้วมีคนออกมา โกรธเคืองด้วย ทำไมไม่คิดถึงลูก ภรรยาของชิปปิ้งหมู ที่เขาต้องการความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการรายงานความคืบหน้าคดีนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีการรายงาน เพราะเพิ่งสั่งให้ทำเมื่อไม่กี่วันนี้ เมื่อถามว่ามีอะไรเกี่ยวพันกับ นายยงยุทธ หรือไม่ ถึงออกมาแถลงข่าวออกตัวขนาดนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนถึงสงสัยมีอะไรเกี่ยวพันกับนายยงยุทธ ถึงได้ร้อนตัวมากมายขนาดนี้ ซึ่งต้องดูกันต่อไป
ส่วนที่ออกมาต่อรองว่าจะออกมาเปิดเผยในสิ่งที่ลึกมากกว่านี้นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ความผิด ความถูกมันต่อรองกันไม่ได้ เมื่อถามว่านายยงยุทธ ขู่ด้วยว่า เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและอาจมีการฟ้องร้ององค์กรระหว่างประเทศ นายสุเทพ กล่าวว่าได้ อะไรก็แล้วแต่ อย่าว่าแต่ นายยงยุทธเลย ใครก็ตามที่คิดว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมีสิทธิร้องเรียน มาร้องเรียนกับรัฐบาลก็ได้ ไม่ร้องเรียนกับใคร ก็มาร้องกับตน จะไปตรวจสอบให้
ส่วนที่นายยงยุทธระบุว่านายตำรวจที่รัฐบาลส่งไปพื้นที่ภูธรภาค 5 บางคน เกี่ยวข้องกับการสังหารอุปทูตโคจา และคดีเพชรซาอุฯ ด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่า สิ่งที่เรากำลังดำเนินการ เราพยายามทำให้ตำรวจทำหน้าที่เป็นตำรวจ ส่วนทำแล้วใครพอใจไม่พอใจก็ดูกันไป ฝ่ายที่สูญเสียอำนาจไป อาจจะเคยไปข่มเหง เขาไว้ วันนี้ชักกลัว ก็กลัวกันไปเอง ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ข่มเหงรังแกใคร ทำตามหน้าที่ เมื่อถามอีกว่าแต่บุคคลที่นายยงยุทธ ตั้งข้อสังเกตมีชื่ออยู่ในสำนวนที่ ดีเอสไอกำลังรื้อมาสอบ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ให้เขาสอบมา เป็นผู้ต้องหาเมื่อไหร่ ตนก็ปลดออก จะไปยากเย็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามกรณีการโยกย้ายนายตำรวจ ที่อ้างว่าเป็นการคืนความชอบธรรม ในการโยกย้ายนอกฤดูกาล นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูด คำว่า คืนความชอบธรรม คนอื่นพูด ถ้าอย่างนั้นต้องไปถามนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าถ้าจะคืนความชอบธรรมสงสัยว่าต้องคืนค่อน สตช.นายสุเทพ กล่าวว่า อาจจะเกิน เพราะที่ทำไว้มันเกินครึ่ง แต่ตนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น แต่ตนใส่ใจว่า ให้ตำรวจไปทำหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเดี๋ยวคงจะแจ้งขึ้นมา
ส่วนการแต่งตั้งสามีแม่เลี้ยงติ๊ก พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู จากจเรตำรวจ ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลายคนตั้งข้อสังเกต นายสุเทพ กล่าวว่า ธรรมดา บังเอิญคนที่อยู่กับอำนาจเก่าจะถูกโยกย้ายไป แล้วถูกคนใหม่เข้ามาแทน ก็อาจไม่ค่อยชอบใจ
ด้านพล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สูงสุด กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ ระบุว่า มีกำลังทหารบุกเข้าค้นบ้านพักพร้อมอาวุธครบมือ เมื่อครั้งปฏิรูปการครองว่า เรื่องการเมืองฝ่ายการเมืองเล่นกันตนไม่ทราบ กรณีดังกล่าวยืนยันได้ว่า กองทัพเราไม่ได้ทำ
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่าการที่นายยงยุทธ นำคลิปวิดีโอทหารนำกำลังบุกรุกค้นบ้านพักย่านประชาชื่นนั้น เป็นภาพสมัย คมช. ซึ่งจบไปแล้ว แต่หากนายยงยุทธ มีสิ่งติดค้างว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกกระทำในลักษณะที่เกิดปัญหาด้านสิทธิพื้นฐานทางกฎหมาย ท่านมีสิทธิ์ร้องทุกข์กล่าวโทษ และนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเหมาะสมที่สุด ซึ่งกองทัพยินดีที่จะชี้แจงในเรื่องต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นภาพการกระทำที่รุนแรง ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงของ การปฏิรูปการปกครอง ซึ่งต้องเป็นลักษณะของการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่ แต่ถ้าตรงไหนที่ท่านคิดว่าเกินขอบเขตที่ท่านจะรับได้ และผิดกฎหมายท่านสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้
ส่วนที่นายยงยุทธ ประกาศจะเปิดเผยรายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังที่เป็นถึงระดับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง กองทัพจำเป็นจะต้องตรวจสอบหรือไม่ เพราะอาจจะส่งผลกระทบเสียหาย พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ตรวจสอบ แต่หากข้อมูลที่ท่านมีอยู่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในสังคมขอให้เปิดเผยเพื่อจะได้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากท่านพลาดพิง ถึงใครท่านเหล่านั้นจะได้ชี้แจงข้อมูล เมื่อถามว่า นายยงยุทธ จะนำคลิปวีดีโอ ไปฟ้องร้องกับองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ความรู้สึกของตนเรื่องของในบ้านควรจะฟ้องพ่อฟ้องแม่ในบ้านของเรา ตนไม่เคยไปฟ้องเพื่อนบ้านข้างนอก
ทำไมความรู้สึกช้ามาโวยเอาตอนนี้ แค่ทำให้คนเข้าใจนึกว่าผมไปข่มเหงรังแก ยืนยันให้สบายใจ ไม่มีการข่มเหงรังแกใคร ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก แต่ที่ต้อง มีการสอบสวนคดีสำคัญๆ ทั้งหลาย เพราะว่ายุคที่ผ่านมา ตำรวจไม่ค่อยได้ดำเนินคดี เพราะฉะนั้นเราต้องบังคับให้ทำคดี
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่านายยงยุทธ อ้างว่าตอนนี้ถูกรังแกเยอะมาก พึ่งใครไม่ได้แล้ว นอกจากไปไหว้เจ้า นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า น่าตลก ตนก็ตกใจ เอารูปคนใส่ชุดพลางถือปืนคุมหน้า แล้วมาบอกว่าถูกสั่งให้ไปข่มเหงรังแก ตนก็ตกใจ เพราะดูความมั่นคงอยู่ ฉะนั้นสิ่งที่นายยงยุทธ พูดอย่าไปใส่ใจมาก
ส่วนที่นายยงยุทธระบุว่าเรื่องทั้งหมดเป็นขบวนการเดียวกัน ตั้งแต่ 19 ก.ย. มาจนถึงคดีชิปปิ้งหมู นายสุเทพ ถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า ไม่รู้จะบอกยังไง ถ้าพยายาม พูดอย่างนั้นแล้ว ถ้าพวกเราคิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริง ก็พูดอยาก แต่ต้องถามว่า ชิปปิ้งหมูเป็นใคร ชิปปิ้งหมูก็คือคนที่มาเปิดโปงว่าบริษัทในเครือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โกงภาษีศุลกากร แล้วนายศิริโชค โสภา เลขาส่วนตัวนายกฯ ก็เอาข้อมูลชิปปิ้งหมู ไปอภิปรายในสภา แล้วชิปปิ้งหมูก็บอกว่ามีคนปองร้าย หนีไปอยู่เชียงรายแล้วถูกค่าตายแล้วตำรวจก็จับคนร้ายไม่ได้ ฆ่าตายกลางวัน ลูกของชิปปิ้งหมูมาร้องเรียนกับนายชวน หลีกภัย ที่เป็นหัวหน้าพรรคในตอนนั้น
เราพยายามติดตามเรื่องนี้มาตลอด ตำรวจก็ไม่ทำคดีสักที มาถึงวันนี้ก็สั่งให้รื้อคดี และมีนายตำรวจอย่าง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. ก็ยืนยันจะมาทำคดีให้ ก็เป็นเรื่องดี ทำไมต้องโกรธว่าให้ตามจับคนที่ฆ่าชิปปิ้งหมูแล้วมีคนออกมา โกรธเคืองด้วย ทำไมไม่คิดถึงลูก ภรรยาของชิปปิ้งหมู ที่เขาต้องการความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการรายงานความคืบหน้าคดีนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีการรายงาน เพราะเพิ่งสั่งให้ทำเมื่อไม่กี่วันนี้ เมื่อถามว่ามีอะไรเกี่ยวพันกับ นายยงยุทธ หรือไม่ ถึงออกมาแถลงข่าวออกตัวขนาดนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนถึงสงสัยมีอะไรเกี่ยวพันกับนายยงยุทธ ถึงได้ร้อนตัวมากมายขนาดนี้ ซึ่งต้องดูกันต่อไป
ส่วนที่ออกมาต่อรองว่าจะออกมาเปิดเผยในสิ่งที่ลึกมากกว่านี้นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ความผิด ความถูกมันต่อรองกันไม่ได้ เมื่อถามว่านายยงยุทธ ขู่ด้วยว่า เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและอาจมีการฟ้องร้ององค์กรระหว่างประเทศ นายสุเทพ กล่าวว่าได้ อะไรก็แล้วแต่ อย่าว่าแต่ นายยงยุทธเลย ใครก็ตามที่คิดว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมีสิทธิร้องเรียน มาร้องเรียนกับรัฐบาลก็ได้ ไม่ร้องเรียนกับใคร ก็มาร้องกับตน จะไปตรวจสอบให้
ส่วนที่นายยงยุทธระบุว่านายตำรวจที่รัฐบาลส่งไปพื้นที่ภูธรภาค 5 บางคน เกี่ยวข้องกับการสังหารอุปทูตโคจา และคดีเพชรซาอุฯ ด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่า สิ่งที่เรากำลังดำเนินการ เราพยายามทำให้ตำรวจทำหน้าที่เป็นตำรวจ ส่วนทำแล้วใครพอใจไม่พอใจก็ดูกันไป ฝ่ายที่สูญเสียอำนาจไป อาจจะเคยไปข่มเหง เขาไว้ วันนี้ชักกลัว ก็กลัวกันไปเอง ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ข่มเหงรังแกใคร ทำตามหน้าที่ เมื่อถามอีกว่าแต่บุคคลที่นายยงยุทธ ตั้งข้อสังเกตมีชื่ออยู่ในสำนวนที่ ดีเอสไอกำลังรื้อมาสอบ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ให้เขาสอบมา เป็นผู้ต้องหาเมื่อไหร่ ตนก็ปลดออก จะไปยากเย็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามกรณีการโยกย้ายนายตำรวจ ที่อ้างว่าเป็นการคืนความชอบธรรม ในการโยกย้ายนอกฤดูกาล นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูด คำว่า คืนความชอบธรรม คนอื่นพูด ถ้าอย่างนั้นต้องไปถามนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าถ้าจะคืนความชอบธรรมสงสัยว่าต้องคืนค่อน สตช.นายสุเทพ กล่าวว่า อาจจะเกิน เพราะที่ทำไว้มันเกินครึ่ง แต่ตนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น แต่ตนใส่ใจว่า ให้ตำรวจไปทำหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเดี๋ยวคงจะแจ้งขึ้นมา
ส่วนการแต่งตั้งสามีแม่เลี้ยงติ๊ก พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู จากจเรตำรวจ ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลายคนตั้งข้อสังเกต นายสุเทพ กล่าวว่า ธรรมดา บังเอิญคนที่อยู่กับอำนาจเก่าจะถูกโยกย้ายไป แล้วถูกคนใหม่เข้ามาแทน ก็อาจไม่ค่อยชอบใจ
ด้านพล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สูงสุด กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ ระบุว่า มีกำลังทหารบุกเข้าค้นบ้านพักพร้อมอาวุธครบมือ เมื่อครั้งปฏิรูปการครองว่า เรื่องการเมืองฝ่ายการเมืองเล่นกันตนไม่ทราบ กรณีดังกล่าวยืนยันได้ว่า กองทัพเราไม่ได้ทำ
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่าการที่นายยงยุทธ นำคลิปวิดีโอทหารนำกำลังบุกรุกค้นบ้านพักย่านประชาชื่นนั้น เป็นภาพสมัย คมช. ซึ่งจบไปแล้ว แต่หากนายยงยุทธ มีสิ่งติดค้างว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกกระทำในลักษณะที่เกิดปัญหาด้านสิทธิพื้นฐานทางกฎหมาย ท่านมีสิทธิ์ร้องทุกข์กล่าวโทษ และนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเหมาะสมที่สุด ซึ่งกองทัพยินดีที่จะชี้แจงในเรื่องต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นภาพการกระทำที่รุนแรง ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงของ การปฏิรูปการปกครอง ซึ่งต้องเป็นลักษณะของการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่ แต่ถ้าตรงไหนที่ท่านคิดว่าเกินขอบเขตที่ท่านจะรับได้ และผิดกฎหมายท่านสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้
ส่วนที่นายยงยุทธ ประกาศจะเปิดเผยรายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังที่เป็นถึงระดับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง กองทัพจำเป็นจะต้องตรวจสอบหรือไม่ เพราะอาจจะส่งผลกระทบเสียหาย พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ตรวจสอบ แต่หากข้อมูลที่ท่านมีอยู่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในสังคมขอให้เปิดเผยเพื่อจะได้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากท่านพลาดพิง ถึงใครท่านเหล่านั้นจะได้ชี้แจงข้อมูล เมื่อถามว่า นายยงยุทธ จะนำคลิปวีดีโอ ไปฟ้องร้องกับองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ความรู้สึกของตนเรื่องของในบ้านควรจะฟ้องพ่อฟ้องแม่ในบ้านของเรา ตนไม่เคยไปฟ้องเพื่อนบ้านข้างนอก