ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้จัดการกองทุนชำแหละมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ "เอสซีบี ควอนท์" ชี้มาถูกทาง พร้อมหนุนเร่งเมกกะโปรเจกต์ สร้างงานให้ภาคประชาชน ส่วนการลดภาษีบริษัทเอกชน แลกการเลิกจ้างงาน เป็นอีกมาตรการที่น่าสนใจหากรัฐฯทำได้จริง แนะรัฐดึงเงินออมจากประชาชนมา ร่วมลงทุนแทนการกู้ยืม ฟื้นเศรษฐกิจ ด้าน "บลจ.ฟิลลิป" วอนรัฐเครียร์ปัญหาคอรัปชั่นให้จบก่อน ขณะที่ "บลจ.นครหลวงไทย" มองเป็นการจุดพุขึ้นไปบนฟ้า หวั่นสว่างเพียงวูบเดียวแล้วกลับมามืดสนิท
นายอรุณศักดิ์ จรูญวงศ์นิรมล ผู้อำนวยการสายงานจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอสซีบี ควอนท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมา ณ ขณะนี้ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทำกันทั่วโลก ซึ่งจะมุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยจากจุดนี้ ทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือกในการลงทุนมากนัก เพราะมาตราการต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และเอกชนให้มีมากขึ้น
ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นเติบโตมาจาก ธุรกิจการนำเข้า-ส่งออก เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อทั่วโลกประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจจึงส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย โดยทำให้การใช้จ่ายของภาคเอกชน ภาคประชาชนรวมไปถึงภาคการลงทุนหยุดชะงักลง เนื่องจากไม่มีความมั่นใจในการลงทุน จึงเกิดการถือครองเงินสดมากกว่าการใช้จ่ายเม็ดเงินเข้ามาในระบบ ซึ่งทำให้รัฐบาลจะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินของรัฐบาลเอง หรือให้รัฐบาลเป็นตัวหลักในการลงทุน และเพราะประชาชนหยุดการลงทุนจึงทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินเพื่อมาใช้ในการลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"มาตรการที่รัฐบาลทำอยู่ในขณะนี้ ถือได้ว่ารัฐบาลแก้ไขมาถูกทางแล้ว โดยเป็นการแก้ไขที่ตรงจุด ที่เหลืออยู่ก็เพียงแต่รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมเข้ามา ขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลใช้มาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายขณะนี้เหมือนเป็นการนำเงินไปยัดใส่มือประชาชน และถือเป็นการกระตุ้นที่ง่ายและได้ผลดีด้วย อีกทั้งโครงการเมกกะโปรกเจกต์ที่จะจัดสร้างขึ้นมาเป็นข้อดีในเรื่องของการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นด้วย "นายอรุณศักดิ์
สำหรับมาตรการลดภาษีบริษัทเอกชนที่รัฐบาลได้เสนอนั้นเป็นอีกมาตรการที่ดี โดยรัฐบาลจะต้องแยกรายละเอียดไปเป็นเรื่องๆไม่ควรมองรวมกัน ซึ่งการลดภาษีเอกชนจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทมากขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐจะต้องเสียรายได้จากส่วนนี้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องพิจารณาส่วนได้ส่วนเสียให้ดี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนหรือข้อตกลงกับบริษัทเหล่านั้น หากมีการลดภาษีบริษัทเอกชนคือบริษัทจะต้องรับประกันถึงการเลิกจ้างงาน เพิ่อลดปัญหาการว่างงาน อย่างไรก็ตาม ภาครัฐต้องกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ประชาชนผ่านโครงการต่างๆ เช่นโครงการรถไฟฟ้า และการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากเป็นสินค้าหลักของประเทศ
นาย อรุณศักดิ์ กล่าวอีกว่า ด้านการลงทุนของรัฐบาลถือว่าอยู่ในขั้นที่ดี แต่จะต้องรอดูว่าการลงทุนหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ใช้เม็ดเงินมากน้อยแค่ไหน และยังเพียงพอต่อการใช้จ่ายหรือไม่ ซึ่งจากจุดนี้จะทำให้ภาคประชาชนทั่วไปได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายของภายรัฐฯ โดยจะต้องกระจายการลงทุนให้ทั่วถึงทุกลุ่มคน ไม่ให้กระจุกอยู่ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
"การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ผลดี รัฐบาลจะต้องดึงภาคประชาชนเข้าร่วมลงทุน โดยนำเงินออมของที่ประชาชนมีอยู่มาใช้จ่ายแทนการกู้ยืม แต่ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องออกแบบการลงทุนให้นักลงทุนไม่รู้สึกถึงความเสี่ยง ทำให้ประชาชนมีหุ้นส่วนในการลงทุนโครงการของรัฐฯ ทั้งนี้จะต้องทำให้นักลงทุนที่ร่วมลงทุนมั่นใจว่าการลงทุนจะไม่ทำให้สูญเสียเงินต้น และยังได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมาด้วย"นายอรุณศักดิ์กล่าว
นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ฟิลลิป กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการต่างๆที่รัฐบาลได้ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ได้แสดงความเห็นด้วยในบางมาตรการและไม่เห็นด้วยในบางมาตรการ โดยที่เห็นด้วยได้แก่ การจัดให้มีการเรียนฟรี หรือการเข้ารับการรักษาฟรีตามโรงพยาบาลต่างๆเป็นมาตรการที่ดีส่งผลถึงภาคประชาชนโดยตรง ไม่เอื้อผลประโยชน์ต่อกลุ่มคนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ในส่วนของมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆที่ออกมานั้น จะไม่ได้ผลต่อภาคประชาชนมากนัก หากยังมีการคอรัปชั่นเกิดขึ้นอยู่ โดยทุกมาตรการที่ออกมานั้นจะต้องมีบุคคลต่างมีส่วนได้ส่วนเสียกับการใช้จ่าย ซึ่งทำให้คนมีอำนาจบางคนใช้อำนาจที่ตนมีอยู่ไปในทางที่ผิดจึงอยากให้รัฐบาลแก้ตรงจุดนี้ก่อน
นายวรรธนะ กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลมามาตรการขึ้นภาษีน้ำมัน อยากขอเหตุผลในการปรับขึ้น เพราะมองว่าเป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังคนแค่บางกลุ่มเท่านั้น โดยเฉพาะคนที่มีรถขับ อีกทั้งราคาน้ำมันในประเทศกับตลาดต่างประเทศใกล้เคียงกันมา อีกทั้งที่ผ่านมานั้นราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือนเท่าตัว จึงไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะมาเรียกเก็บเงินจากส่วนนี้
ด้านโครงการเมกกะโปรเจกต์หรือโครงการอื่นๆที่รัฐบาลได้วางแผนเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จะเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด หากว่ายังมีการคอรัปชั่นโกงกินกันอยู่อย่างนี้ ซึ่งถ้าหากว่าโครงการได้มีการก่อตั้งขึ้นมานั้น จะต้องรอดูผลประโยชน์ของโครงการนี้จะตกอยู่ที่ใครมากกว่ากัน
"อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาในประเทศให้จบเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคอรัปชั่นที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศ โดยที่รัฐบาลจะต้องหามาตรการมาป้องกันตรงจุดนี้ อีกทั้งรัฐบาลควรจะต้องมีการเรียกเก็บภาษีให้สูงขึ้น จากโรงเรียนกวดวิชาที่มีอยู่มากมาย และผับ บาร์ ต่างๆ นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยจะต้องเป็นการปรับลดทั้งดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นการปรับลดขาเดียวคือดอกเบี้ยเงินฝาก
ด้านนายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย กล่าวว่า สำหรับนโยบายภาครัฐที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ขณะนี้ เปรียบเสมือนการจุดพุขึ้นไปบนฟ้า ที่สว่างเพียงวูบเดียวแล้วกลับมามืดสนิท ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษกิจที่ปลายเหตุ โดยรัฐบาลจะต้องมีการจัดสรรงบประมาณให้ดี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่จนจริงๆ รวมถึงการจัดให้มีเมกะโปรเจกต์ออกมาเพื่อกระตุ้นเม็ดเงินในระบบใหม่มากขึ้น และจะส่งผลให้เจ้าของกิจการต่างๆเข้ามาร่วมลงทุนโดยไม่ต้องเลิกจ้างแรงงาน
ทั้งนี้ รัฐบาลควรที่จะเร่งให้มีเมกกะโปรเจกต์ออกมาเพื่อช่วยในเรื่องของการกระจายเม็ดเงินไปสู่ภาคประชาชนให้มากขึ้น โดยโครงการใหญ่ๆนี้ จะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องที่มีให้สูงขึ้น และจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในการลงทุน นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องใช้มาตรการอัดงบประมาณระยะยาว ซึ่งจะต้องจัดแบ่งในสัดส่วนเท่าๆกัน
ขณะเดียวกัน มาตรการที่รัฐใช้กระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะทั่วโลกที่ประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ ได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบเดียวกัน โดยใช้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเกือบทุกประเทศ อีกทั้งการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบ เป็นต้น
นายอรุณศักดิ์ จรูญวงศ์นิรมล ผู้อำนวยการสายงานจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอสซีบี ควอนท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมา ณ ขณะนี้ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทำกันทั่วโลก ซึ่งจะมุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยจากจุดนี้ ทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือกในการลงทุนมากนัก เพราะมาตราการต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และเอกชนให้มีมากขึ้น
ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นเติบโตมาจาก ธุรกิจการนำเข้า-ส่งออก เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อทั่วโลกประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจจึงส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย โดยทำให้การใช้จ่ายของภาคเอกชน ภาคประชาชนรวมไปถึงภาคการลงทุนหยุดชะงักลง เนื่องจากไม่มีความมั่นใจในการลงทุน จึงเกิดการถือครองเงินสดมากกว่าการใช้จ่ายเม็ดเงินเข้ามาในระบบ ซึ่งทำให้รัฐบาลจะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินของรัฐบาลเอง หรือให้รัฐบาลเป็นตัวหลักในการลงทุน และเพราะประชาชนหยุดการลงทุนจึงทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินเพื่อมาใช้ในการลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"มาตรการที่รัฐบาลทำอยู่ในขณะนี้ ถือได้ว่ารัฐบาลแก้ไขมาถูกทางแล้ว โดยเป็นการแก้ไขที่ตรงจุด ที่เหลืออยู่ก็เพียงแต่รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมเข้ามา ขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลใช้มาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายขณะนี้เหมือนเป็นการนำเงินไปยัดใส่มือประชาชน และถือเป็นการกระตุ้นที่ง่ายและได้ผลดีด้วย อีกทั้งโครงการเมกกะโปรกเจกต์ที่จะจัดสร้างขึ้นมาเป็นข้อดีในเรื่องของการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นด้วย "นายอรุณศักดิ์
สำหรับมาตรการลดภาษีบริษัทเอกชนที่รัฐบาลได้เสนอนั้นเป็นอีกมาตรการที่ดี โดยรัฐบาลจะต้องแยกรายละเอียดไปเป็นเรื่องๆไม่ควรมองรวมกัน ซึ่งการลดภาษีเอกชนจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทมากขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐจะต้องเสียรายได้จากส่วนนี้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องพิจารณาส่วนได้ส่วนเสียให้ดี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนหรือข้อตกลงกับบริษัทเหล่านั้น หากมีการลดภาษีบริษัทเอกชนคือบริษัทจะต้องรับประกันถึงการเลิกจ้างงาน เพิ่อลดปัญหาการว่างงาน อย่างไรก็ตาม ภาครัฐต้องกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ประชาชนผ่านโครงการต่างๆ เช่นโครงการรถไฟฟ้า และการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากเป็นสินค้าหลักของประเทศ
นาย อรุณศักดิ์ กล่าวอีกว่า ด้านการลงทุนของรัฐบาลถือว่าอยู่ในขั้นที่ดี แต่จะต้องรอดูว่าการลงทุนหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ใช้เม็ดเงินมากน้อยแค่ไหน และยังเพียงพอต่อการใช้จ่ายหรือไม่ ซึ่งจากจุดนี้จะทำให้ภาคประชาชนทั่วไปได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายของภายรัฐฯ โดยจะต้องกระจายการลงทุนให้ทั่วถึงทุกลุ่มคน ไม่ให้กระจุกอยู่ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
"การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ผลดี รัฐบาลจะต้องดึงภาคประชาชนเข้าร่วมลงทุน โดยนำเงินออมของที่ประชาชนมีอยู่มาใช้จ่ายแทนการกู้ยืม แต่ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องออกแบบการลงทุนให้นักลงทุนไม่รู้สึกถึงความเสี่ยง ทำให้ประชาชนมีหุ้นส่วนในการลงทุนโครงการของรัฐฯ ทั้งนี้จะต้องทำให้นักลงทุนที่ร่วมลงทุนมั่นใจว่าการลงทุนจะไม่ทำให้สูญเสียเงินต้น และยังได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมาด้วย"นายอรุณศักดิ์กล่าว
นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ฟิลลิป กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการต่างๆที่รัฐบาลได้ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ได้แสดงความเห็นด้วยในบางมาตรการและไม่เห็นด้วยในบางมาตรการ โดยที่เห็นด้วยได้แก่ การจัดให้มีการเรียนฟรี หรือการเข้ารับการรักษาฟรีตามโรงพยาบาลต่างๆเป็นมาตรการที่ดีส่งผลถึงภาคประชาชนโดยตรง ไม่เอื้อผลประโยชน์ต่อกลุ่มคนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ในส่วนของมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆที่ออกมานั้น จะไม่ได้ผลต่อภาคประชาชนมากนัก หากยังมีการคอรัปชั่นเกิดขึ้นอยู่ โดยทุกมาตรการที่ออกมานั้นจะต้องมีบุคคลต่างมีส่วนได้ส่วนเสียกับการใช้จ่าย ซึ่งทำให้คนมีอำนาจบางคนใช้อำนาจที่ตนมีอยู่ไปในทางที่ผิดจึงอยากให้รัฐบาลแก้ตรงจุดนี้ก่อน
นายวรรธนะ กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลมามาตรการขึ้นภาษีน้ำมัน อยากขอเหตุผลในการปรับขึ้น เพราะมองว่าเป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังคนแค่บางกลุ่มเท่านั้น โดยเฉพาะคนที่มีรถขับ อีกทั้งราคาน้ำมันในประเทศกับตลาดต่างประเทศใกล้เคียงกันมา อีกทั้งที่ผ่านมานั้นราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือนเท่าตัว จึงไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะมาเรียกเก็บเงินจากส่วนนี้
ด้านโครงการเมกกะโปรเจกต์หรือโครงการอื่นๆที่รัฐบาลได้วางแผนเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จะเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด หากว่ายังมีการคอรัปชั่นโกงกินกันอยู่อย่างนี้ ซึ่งถ้าหากว่าโครงการได้มีการก่อตั้งขึ้นมานั้น จะต้องรอดูผลประโยชน์ของโครงการนี้จะตกอยู่ที่ใครมากกว่ากัน
"อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาในประเทศให้จบเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคอรัปชั่นที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศ โดยที่รัฐบาลจะต้องหามาตรการมาป้องกันตรงจุดนี้ อีกทั้งรัฐบาลควรจะต้องมีการเรียกเก็บภาษีให้สูงขึ้น จากโรงเรียนกวดวิชาที่มีอยู่มากมาย และผับ บาร์ ต่างๆ นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยจะต้องเป็นการปรับลดทั้งดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นการปรับลดขาเดียวคือดอกเบี้ยเงินฝาก
ด้านนายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย กล่าวว่า สำหรับนโยบายภาครัฐที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ขณะนี้ เปรียบเสมือนการจุดพุขึ้นไปบนฟ้า ที่สว่างเพียงวูบเดียวแล้วกลับมามืดสนิท ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษกิจที่ปลายเหตุ โดยรัฐบาลจะต้องมีการจัดสรรงบประมาณให้ดี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่จนจริงๆ รวมถึงการจัดให้มีเมกะโปรเจกต์ออกมาเพื่อกระตุ้นเม็ดเงินในระบบใหม่มากขึ้น และจะส่งผลให้เจ้าของกิจการต่างๆเข้ามาร่วมลงทุนโดยไม่ต้องเลิกจ้างแรงงาน
ทั้งนี้ รัฐบาลควรที่จะเร่งให้มีเมกกะโปรเจกต์ออกมาเพื่อช่วยในเรื่องของการกระจายเม็ดเงินไปสู่ภาคประชาชนให้มากขึ้น โดยโครงการใหญ่ๆนี้ จะเป็นการเพิ่มสภาพคล่องที่มีให้สูงขึ้น และจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในการลงทุน นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องใช้มาตรการอัดงบประมาณระยะยาว ซึ่งจะต้องจัดแบ่งในสัดส่วนเท่าๆกัน
ขณะเดียวกัน มาตรการที่รัฐใช้กระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะทั่วโลกที่ประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ ได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบเดียวกัน โดยใช้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเกือบทุกประเทศ อีกทั้งการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบ เป็นต้น
