ม็อบองค์การค้าคุรุสภานับพันคนเคลื่อนทัพบุกกระทรวงศึกษาธิการ เผยหยุดงานประท้วงมา 5 วันแล้วแต่ไม่มีผู้ใหญ่สนใจ ลากไส้วงจรอุบาทว์เหลือบดูดเงินการจัดพิมพ์ตำรา แฉให้ศึกษาภัณฑ์ขายของลดแค่ 5% แต่นำสินค้าไปขายให้พวกพ้องลด40-60% สุดท้ายบอร์ดสกสค.มีมติเอกฉันท์ปลด "บำเรอ" พ้นผอ.องค์การค้า พร้อมให้"ชินภัทร"ปลัดศธ.รักษาการณ์แทน 6 เดือน ด้านพนักงานเฮลั่น บอร์ดให้ สกสค.นำเงิน 20 ล้านจ่ายเงินเดือนที่เหลือทันที
วานนี้(6 ก.พ.) สหภาพแรงงานองค์การค้า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (บอร์ด สกสค.) กว่า 1,500 คน เดินทางมาถึงกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) โดยมีรถกระบะบรรทุกเครื่องขยายเสียงและมีนายอนันต์ นุชเทศ ประธานสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา กล่าวปราศรัยโจมตีผู้บริหาร แฉขบวนการโกงจัดพิมพ์ตำราเรียน
ทั้งนี้ เนื้อหาการปราศรัยได้ระบุว่าผู้บริหารได้มีการวางแผนส่งให้สำนักพิมพ์เอกชนพิมพ์ ซึ่งอ้างว่าถ้าองค์การค้าพิมพ์ทั้งหมดส่งให้โรงเรียนไม่ทันก่อนเปิดเทอม แต่ข้อเท็จจริงมีการประมูลเป็นฉากบังหน้า ลึกๆ ได้มีการจัดสรรส่งให้สำนักพิมพ์เอกชนแล้วว่าสำนักพิมพ์ไหนได้พิมพ์อะไร สำหรับองค์การค้าฯก ว่าจะได้พิมพ์ตำราใกล้เวลาเปิดเทอม ส่งผลให้ต้องเร่งทำงานกันทั้งกลางวัน กลางคืน เพื่อให้พิมพ์ตำราเรียนเสร็จทันและส่งให้ถึงโรงเรียน นอกจากนี้ยังโจมตีการให้เปอร์เซ็นต์ร้านค้าสูงถึงร้อยละ 40 แล้วใครจะสั่งซื้อจากร้านองค์การค้าที่ลดราคาให้เพียงร้อยละ 5 ร้อยละ 10 สูงสุดไม่เกินร้อยละ 20
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความคึกคัก พร้อมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ “ปลัด สู้ สู้” เป็นระยะ เพราะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบอำนาจให้ปลัด ศธ. ตัดสินใจและเข้ามาแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่ทำกันเป็นขบวนการมาช้านาน จึงทำให้องค์การค้าเป็นหนี้เป็นสิน ไม่มีเงินจ่ายให้แก่พนักงาน โดยภายในรถกระบะบางคันบรรทุกข้าว กับข้าว น้ำดื่ม เพื่อให้บริหารเพื่อนสมาชิกสหภาพแรงงานฯ รับประทาน
ด้านแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์รายหนึ่งที่เดินทางมาร่วมชุมนุม กล่าวว่า พนักงานขององค์การค้าหยุดงานต่อเนื่องจนถึงวานนี้(6 ก.พ.) เป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่ไม่ได้การใส่ใจที่จะแก้ปัญหาจากผู้บริหารทั้งของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และองค์การค้า สกสค.เอง ซึ่งขณะนี้พนักงานและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจากการที่เงินเดือนออกเพียงครึ่งเดียว
สำหรับสาเหตุที่ทำให้องค์การค้ามีปัญหานั้น มีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการทุจริตภายในองค์การค้าฯ รวมถึงปัญหาการขาดสภาพคล่องภายในองค์กร ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ปกติสินค้าที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์อยู่จะมีส่วนลดราคาหน้าร้านขายให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ที่ 5% ขณะที่สั่งให้ขายสินค้าตัวเดียวกันให้พวกพ้องของตัวเองในราคาลด 40-60% ส่งผลทำให้สินค้าที่วางจำหน่ายในร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ไม่สามารถขายได้ เป็นต้น
นอกจากนี้สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา ยังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 สรุปความได้ว่า สหภาพแรงงานฯ ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใช้อำนาจย้ายกลุ่มผู้บริหารที่เกี่ยวข้องไปสำรองตำแหน่งที่ สกสค.ก่อน แล้วจึงให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการตรวจสอบทั้งทางวินัยและทางแพ่ง เนื่องจากหากให้ผู้บริหารฯที่เกี่ยวข้องกลุ่มนี้บริหารจัดการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแด่องค์การค้าฯ และประเทศชาติ โดยส่วนรวมได้
ทั้งนี้ ได้มีความพยายามกล่าวโทษสหภาพแรงงานฯ และมวลสมาชิกฯ ว่าการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งนี้ จะเป็นเหตุทำให้องค์การค้าฯ จัดพิมพ์ตำราแบบเรียนไม่ทันเวลา ทั้งที่ในความเป็นจริง มีหลักฐานเพียงพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่า ได้มีการเตรียมการนำหนังสือออกไปพิมพ์ข้างนอกอยู่ก่อนแล้ว ดังจะเห็นได้จากการ จัดให้มีการขายแบบประมูลการจ้างพิมพ์ภายนอกไปก่อนหน้านี้แล้ว
บอร์ดมีมติปลด “บำเรอ”
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาตามที่สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาได้ร้องเรียนต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการ โดยมีมติว่า ในส่วนของเงินเดือนพนักงานที่ยังค้างจ่ายครึ่งเดือนในเดือนมกราคม ให้ใช้เงินหมุนเวียนของสำนักงาน สกสค. จำนวน 20 ล้านบาทจ่ายให้กับพนักงานองค์การค้าฯ โดยสามารถเบิกจ่ายได้ทันที ส่วนเดือนถัดไปก็ยังคงใช้เงินหมุนเวียนของ สกสค.จนกว่าองค์การค้าฯ จะพยุงตัวเองได้
แต่มีเงื่อนไขว่าพนักงานองค์การค้าฯ จะต้องหยุดเคลื่อนไหว เพื่อให้จัดระเบียบการทำงานได้ ส่วนข้อร้องเรียนการทุจริตความไม่โปร่งใสขององค์การค้าฯนั้น ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ดำเนินการหาข้อสรุปภายใน 120 วัน ส่วนที่สหภาพแรงงานฯ เรียกร้องให้ย้ายผู้บริหารองค์การค้าฯ 4 คนนั้น ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลจากทั้งสองส่วน ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ต้องพิจารณาเรื่องทั้งหมดใน 120 วันอยู่แล้ว หากพบว่ามีพนักงานและบุคลากรขององค์การค้าฯ เข้าไปเกี่ยวข้องก็ให้พิจารณาดำเนินการลงโทษตามความผิด
ปลัด ศธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการประเมินผลการทำงานของนายบำเรอ ภาณุวงศ์ ผอ.องค์การค้าฯ ในรอบ 6 เดือนซึ่งครบวาระพอดี โดยมติบอร์ด สกสค.ประเมินการทำงานของ ผอ.องค์การค้าฯ แล้ว มีคะแนนรวมไม่ถึง 75 คะแนน จึงมีมติให้พ้นจากตำแหน่งทันที และได้มีมติให้นายชินภัทร ประธานบอร์ด สกสค.รักษาการแทน เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อประคับประคองให้องค์การค้าฯพ้นจากภาวะวิกฤต ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการสรรหา ผอ.องค์การค้าฯคนใหม่ต่อไป
ด้านนายบำเรอ กล่าวว่า ที่ผ่านมามั่นใจว่าทำดีที่สุดแล้ว และสามารถตอบปัญหาการประเมินของบอร์ด สกสค.ได้ทุกเรื่อง และเชื่อว่าถ้าไม่มีการกลั่นแกล้งกันก็น่าจะผ่านการประเมิน อย่างไรก็ตามในเมื่อบอร์ด สกสค.มีมติออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ ส่วนข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานองค์การค้าฯ ที่ต้องการให้ปลดผู้บริหารองค์การค้าทั้ง 4 คนนั้น ยืนยันว่าได้รับคำสั่งการจาก ปลัด ศธ. จริงว่าให้ปลดออก ซึ่งตนก็ทำตามคำสั่งแต่ว่าคณะอนุกรรมการพัฒนางานบุคคลองค์การค้าฯ มีมติไม่ให้ปลด ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ทั้งนี้ หลังจากประธานสหภาพฯ แจ้งผลการประชุมบอร์ดสกสค.ให้พนักงานรับทราบ พนักงานที่เฝ้ารอต่างดีใจ จากนั้นได้ทยอยแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน
วานนี้(6 ก.พ.) สหภาพแรงงานองค์การค้า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (บอร์ด สกสค.) กว่า 1,500 คน เดินทางมาถึงกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) โดยมีรถกระบะบรรทุกเครื่องขยายเสียงและมีนายอนันต์ นุชเทศ ประธานสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา กล่าวปราศรัยโจมตีผู้บริหาร แฉขบวนการโกงจัดพิมพ์ตำราเรียน
ทั้งนี้ เนื้อหาการปราศรัยได้ระบุว่าผู้บริหารได้มีการวางแผนส่งให้สำนักพิมพ์เอกชนพิมพ์ ซึ่งอ้างว่าถ้าองค์การค้าพิมพ์ทั้งหมดส่งให้โรงเรียนไม่ทันก่อนเปิดเทอม แต่ข้อเท็จจริงมีการประมูลเป็นฉากบังหน้า ลึกๆ ได้มีการจัดสรรส่งให้สำนักพิมพ์เอกชนแล้วว่าสำนักพิมพ์ไหนได้พิมพ์อะไร สำหรับองค์การค้าฯก ว่าจะได้พิมพ์ตำราใกล้เวลาเปิดเทอม ส่งผลให้ต้องเร่งทำงานกันทั้งกลางวัน กลางคืน เพื่อให้พิมพ์ตำราเรียนเสร็จทันและส่งให้ถึงโรงเรียน นอกจากนี้ยังโจมตีการให้เปอร์เซ็นต์ร้านค้าสูงถึงร้อยละ 40 แล้วใครจะสั่งซื้อจากร้านองค์การค้าที่ลดราคาให้เพียงร้อยละ 5 ร้อยละ 10 สูงสุดไม่เกินร้อยละ 20
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความคึกคัก พร้อมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ “ปลัด สู้ สู้” เป็นระยะ เพราะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบอำนาจให้ปลัด ศธ. ตัดสินใจและเข้ามาแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่ทำกันเป็นขบวนการมาช้านาน จึงทำให้องค์การค้าเป็นหนี้เป็นสิน ไม่มีเงินจ่ายให้แก่พนักงาน โดยภายในรถกระบะบางคันบรรทุกข้าว กับข้าว น้ำดื่ม เพื่อให้บริหารเพื่อนสมาชิกสหภาพแรงงานฯ รับประทาน
ด้านแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์รายหนึ่งที่เดินทางมาร่วมชุมนุม กล่าวว่า พนักงานขององค์การค้าหยุดงานต่อเนื่องจนถึงวานนี้(6 ก.พ.) เป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่ไม่ได้การใส่ใจที่จะแก้ปัญหาจากผู้บริหารทั้งของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และองค์การค้า สกสค.เอง ซึ่งขณะนี้พนักงานและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจากการที่เงินเดือนออกเพียงครึ่งเดียว
สำหรับสาเหตุที่ทำให้องค์การค้ามีปัญหานั้น มีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการทุจริตภายในองค์การค้าฯ รวมถึงปัญหาการขาดสภาพคล่องภายในองค์กร ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ปกติสินค้าที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์อยู่จะมีส่วนลดราคาหน้าร้านขายให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ที่ 5% ขณะที่สั่งให้ขายสินค้าตัวเดียวกันให้พวกพ้องของตัวเองในราคาลด 40-60% ส่งผลทำให้สินค้าที่วางจำหน่ายในร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ไม่สามารถขายได้ เป็นต้น
นอกจากนี้สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา ยังได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 สรุปความได้ว่า สหภาพแรงงานฯ ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใช้อำนาจย้ายกลุ่มผู้บริหารที่เกี่ยวข้องไปสำรองตำแหน่งที่ สกสค.ก่อน แล้วจึงให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการตรวจสอบทั้งทางวินัยและทางแพ่ง เนื่องจากหากให้ผู้บริหารฯที่เกี่ยวข้องกลุ่มนี้บริหารจัดการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแด่องค์การค้าฯ และประเทศชาติ โดยส่วนรวมได้
ทั้งนี้ ได้มีความพยายามกล่าวโทษสหภาพแรงงานฯ และมวลสมาชิกฯ ว่าการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งนี้ จะเป็นเหตุทำให้องค์การค้าฯ จัดพิมพ์ตำราแบบเรียนไม่ทันเวลา ทั้งที่ในความเป็นจริง มีหลักฐานเพียงพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่า ได้มีการเตรียมการนำหนังสือออกไปพิมพ์ข้างนอกอยู่ก่อนแล้ว ดังจะเห็นได้จากการ จัดให้มีการขายแบบประมูลการจ้างพิมพ์ภายนอกไปก่อนหน้านี้แล้ว
บอร์ดมีมติปลด “บำเรอ”
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาตามที่สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาได้ร้องเรียนต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการ โดยมีมติว่า ในส่วนของเงินเดือนพนักงานที่ยังค้างจ่ายครึ่งเดือนในเดือนมกราคม ให้ใช้เงินหมุนเวียนของสำนักงาน สกสค. จำนวน 20 ล้านบาทจ่ายให้กับพนักงานองค์การค้าฯ โดยสามารถเบิกจ่ายได้ทันที ส่วนเดือนถัดไปก็ยังคงใช้เงินหมุนเวียนของ สกสค.จนกว่าองค์การค้าฯ จะพยุงตัวเองได้
แต่มีเงื่อนไขว่าพนักงานองค์การค้าฯ จะต้องหยุดเคลื่อนไหว เพื่อให้จัดระเบียบการทำงานได้ ส่วนข้อร้องเรียนการทุจริตความไม่โปร่งใสขององค์การค้าฯนั้น ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ดำเนินการหาข้อสรุปภายใน 120 วัน ส่วนที่สหภาพแรงงานฯ เรียกร้องให้ย้ายผู้บริหารองค์การค้าฯ 4 คนนั้น ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลจากทั้งสองส่วน ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ต้องพิจารณาเรื่องทั้งหมดใน 120 วันอยู่แล้ว หากพบว่ามีพนักงานและบุคลากรขององค์การค้าฯ เข้าไปเกี่ยวข้องก็ให้พิจารณาดำเนินการลงโทษตามความผิด
ปลัด ศธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการประเมินผลการทำงานของนายบำเรอ ภาณุวงศ์ ผอ.องค์การค้าฯ ในรอบ 6 เดือนซึ่งครบวาระพอดี โดยมติบอร์ด สกสค.ประเมินการทำงานของ ผอ.องค์การค้าฯ แล้ว มีคะแนนรวมไม่ถึง 75 คะแนน จึงมีมติให้พ้นจากตำแหน่งทันที และได้มีมติให้นายชินภัทร ประธานบอร์ด สกสค.รักษาการแทน เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อประคับประคองให้องค์การค้าฯพ้นจากภาวะวิกฤต ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการสรรหา ผอ.องค์การค้าฯคนใหม่ต่อไป
ด้านนายบำเรอ กล่าวว่า ที่ผ่านมามั่นใจว่าทำดีที่สุดแล้ว และสามารถตอบปัญหาการประเมินของบอร์ด สกสค.ได้ทุกเรื่อง และเชื่อว่าถ้าไม่มีการกลั่นแกล้งกันก็น่าจะผ่านการประเมิน อย่างไรก็ตามในเมื่อบอร์ด สกสค.มีมติออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ ส่วนข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานองค์การค้าฯ ที่ต้องการให้ปลดผู้บริหารองค์การค้าทั้ง 4 คนนั้น ยืนยันว่าได้รับคำสั่งการจาก ปลัด ศธ. จริงว่าให้ปลดออก ซึ่งตนก็ทำตามคำสั่งแต่ว่าคณะอนุกรรมการพัฒนางานบุคคลองค์การค้าฯ มีมติไม่ให้ปลด ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ทั้งนี้ หลังจากประธานสหภาพฯ แจ้งผลการประชุมบอร์ดสกสค.ให้พนักงานรับทราบ พนักงานที่เฝ้ารอต่างดีใจ จากนั้นได้ทยอยแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน
