อาทิตย์ที่แล้วเดินทางฉุกละหุกคนเดียวเพื่อไปทำธุระสำคัญที่ฮ่องกง งวดนี้ไป-กลับด้วยเครื่องการบินไทย ขึ้นเครื่องแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่า เครื่องบินลำใหญ่ๆ ทั้งลำแน่นเอี้ยดไม่มีเก้าอี้ว่างให้ยืดแข้งยืดขาเลยสักตัวเดียว
บนเครื่องเจอแอร์โฮสเตสการบินไทยในนาม “นักรบมือตบ” แถเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่ม พลางซุบๆ ซิบๆ ขยิบตา พอได้ใจความสั้นๆ ติดริมติ่งหูว่า “พวกมันมาด้วย”
ย้อนถามว่า “พวกมันน่ะคือใครกันจ๊ะ แม่กำปั่นเหาะคนสวย” ก็ไม่ได้ใจความอะไรเป็นน้ำเป็นเนื้อเท่าไรนัก ด้วยเพราะงานบนเครื่องกำลังยุ่งขิง แถมยังเกรงไปว่า อาจจะถูกแอร์เสื้อแดงจับได้ไล่ทันว่า เป็นสปายไอ เลิฟ ยูของพันธมิตรฯ
ฟังแอร์เล่าแล้วร้อนใจเลยเดินเกร่ตามหา “พวกมัน” ตามลายแทงของแอร์เสื้อเหลือง
อพิโธ่เอ๋ย...แค่เดินผ่านเพียงไม่กี่แถวก็เจอ “อดิศร เพียรเกษ” แกนนำกลุ่มดี สเตชั่น นั่งเบียดเสียดยัดเยียดกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ชั้นผู้โดยสารธรรมดา ถัดไปเป็น “ขุนค้อน” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
โอ้โฮ...แม่เจ้าโว้ยคนแรกที่เห็นน่ะ ตื่นเช้าเก่งจัง ก็เพิ่งนำคนเสื้อแดงไปปิดล้อมทำเนียบฯ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง ไหงบินมาฮ่องกงเร็วจังฮึ น่าสงสัยใคร่รู้ยิ่งนัก
กลับไปนั่งประจำการยังที่นั่งเดิมไม่นาน สายตาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนผู้โดยสารแถวหน้ามี “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ส่วนแถวหลังมี “เยาวเรศ ชินวัตร” แต่ไม่เห็น “แดง –เยาวภา” ในชั้นนั้น ทว่าเพื่อนแอร์คนหนึ่งแอบเห็นเจ๊-แดงตัวเป็นๆ นั่งหน้าอิ่มอยู่ไม่ไกลจากสมชายเท่าไรนัก
คนกลุ่มนี้เดินทางมาเที่ยว 8 โมงเช้าเหมือนกัน เป็นการเดินทางแต่เช้าตรู่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์กองทัพเสื้อแดงนับหมื่นภายใต้การนำของสามเกลอหัวขวด และแกนนำพรรคเพื่อไทยผู้ใกล้ชิดกับ “ทักษิณ” ยกทัพบุก “ทำเนียบรัฐบาล”
ซึ่งคืนวันเสาร์ที่ 31 ม.ค.นั้น กองทัพเสื้อแดงทั้งปลุกใจ ทั้งเดินขบวน และทั้งอ่านแถลงการณ์กันสาละวน ล่อกันนัวจนกว่าจะแล้วเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง แล้วกว่าจะกลับถึงบ้านอีกล่ะ เนี่ยอะไรกัน 6 โมงเช้าปร๋อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบินไปฮ่องกงกันอีกแล้ว แหมมันช่างแข็งขันการงานเสียจริงหนอ!!!
แต่เอ.....เห็นแล้วก็สงสัย คนพวกนี้มาทำอะไร? คงไม่ได้มากิน เที่ยว ชอปปิ้ง ธรรมดาๆ เหมือนคนทั่วไปเป็นแน่แท้??? ยิ่งเป็นการมาระดับแกนนำสายเลือดตรง และผู้ใกล้ชิดที่แสนจะภักดีอย่างนี้ด้วยแล้ว ย่อมไม่ใช่การมาฮ่องกงอย่างปกติ!!!#@!!!
อย่างไรก็ตาม ในวันที่เจอ “เครือญาติทักษิณ” บนเครื่องการบินไทยเที่ยวไปฮ่องกงนั้น เป็นที่รู้กันว่าทักษิณกำลังเริงร่าอยู่กับคลื่นความร้อนในสนามกอล์ฟที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
นี่ก็ยังสงสัยว่าเข้าออสเตรเลียได้อย่างไรในเมื่อถูกยกเลิกวีซ่าจากอังกฤษ!!!???
ช่างมันเถอะเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้ต้องตามไปดู “เครือญาติทักษิณ อิน ฮ่องกง” กันดีกว่า มาทำอะไรกันหรือ???
ทันทีที่เครื่องจอดสนามบินเช็ก แลป ก๊อก ซึ่งเป็นสนามบินที่สอง และแสนสวยของฮ่องกง เห็นแล้วแรงอิจฉา และโทโสเดือดขึ้นมาเป็นริ้วๆ
ก็สนามบินฮ่องกงนี้แหละที่สร้างทีหลังเรา แต่ดันเสร็จก่อนเรา แถมสะสวย มั่นคงแข็งแรงกว่าเราอีก
ครั้งหนึ่งสนามบินแห่งนี้เคยเอ่ยปากขาย “รถเข็น” มือสองที่สนามบินเก่าของเขา ให้กับเราในราคายุติธรรมด้วย ตอนนั้นพี่ไทยหน้าใหญ่ แอนด์ หน้ามืด ดันไม่เอาของเขาเสียนี่
การประมูลรถเข็นกระเป๋าในสนามบินที่แสนโหดเหี้ยม และเต็มไปด้วยการทุจริตมากมายคราวนั้น ทำให้เราได้รถเข็นห่วยๆ แพงจับใจ แถมจ่ายตังค์ครบ แต่ได้ของไม่ครบเสียนี่….นึกแล้วเจ็บใจ
พอนึกถึงเจ๊....ก็เห็นเจ๊เดินอ้วนๆ ปากแดงๆ เข็นรถเข็นกระเป๋าคุณภาพดีแล่นปรื้ดๆ ออกไปหน้าสนามบิน เพื่อรอรถมารับ โดยมี “ผัวแก” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักชอปตู้เย็นมือทอง แอบหลบไปยืนคุยโทรศัพท์ข้างเสา ได้ยินแว่วๆ ไม่รู้ จ๊ะจ๋ามหาละลวยอยู่กับใคร
สายตรงทักษิณยกโขยงขึ้นรถตู้ออกจากสนามบินไปโดยพร้อมเพรียงกัน จากนั้นส่วนหนึ่งแยกไปที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง และอีกกลุ่มหนึ่งเข้าพักที่โรงแรมมาร์โคโปโล ฮ่องกง กลุ่มหลังนี้มีเยาวเรศ-อดิศร-ขุนค้อนและนักธุรกิจชาย-หญิงกลุ่มใหญ่
ในจำนวนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งสวยคมเข้มคลับคล้ายคลับคลาว่า ครั้งหนึ่งเคยสวมบทบาทเป็น “เจ้าหญิงแสนหวี” ใช่หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะตั้งแต่เจ้าหญิงแสนหวีไปเปิดร้านอาหารไทยที่อังกฤษ ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่ไม่เป็นไร เอาไว้เจอ “พี่วีระ” แล้วจะถามว่า “เมียพี่ ” ไปฮ่องกงกะเขาด้วยป่ะ
หลังจากกลุ่มสายตรงทักษิณเช็กอินเสร็จเรียบร้อย เยาวเรศกับผองเพื่อนสองสามคนก็ออกเดินเล่นชอปปิ้งโต้ลมหนาว ส่วนอดิศรไม่เห็นอีกเลย เห็นแต่ขุนค้อนเรียกแท็กซี่ออกไปคนเดียว ไปไหนก็ไม่รู้
อีกฝากหนึ่งของท้องถนน ณ โรงแรมห้าดาวแห่งนั้น สมชายและสายตรงทักษิณก็ขึ้นรถตู้ของโรงแรมออกไปที่ไหนก็ไม่รู้ได้แห่งหนึ่ง
เดินไปเดินมาแทนที่จะทำธุระ กลับต้องเดินหาข่าวเสียนี่ สักพักใหญ่ก็จับพลัดจับผลูไปเจอ “เจ้าหน้าที่ไทย” คนหนึ่งจากสถานกงสุลฮ่องกงที่มาต้อนรับขับสู้กลุ่มอดีตนายกรัฐมนตรีสายทักษิณ ฟังเขาเล่าได้ความแล้วก็ใจเต้น เมื่อข้าราชการคนนั้นกระซิบว่า “ทักษิณมาถึงฮ่องกงแล้ว”
ส่วนพ่อค้า-แม่ค้าจากวงการตู้เย็น บนถนนนาธานตะโกนเล่ากันสนั่นเกาลูนว่า “ท่าน ส.ส.ไม่ได้มาแค่ที่อาหมวยเห็นหรอก แต่มากันเยอะแยะ พวกนี้แห่มาซื้อของกิน ของใช้ตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน แต่ละคนเนี่ยถือเงินเป็นฟ่อนๆ เลย”
ถ้าลองเป็นอีหรอบนี้ก็ใช่เลย ...โป๊ะเชะ...บิงโก...
ไม่แปลกใจเลยเมื่อกลับมาจากฮ่องกงคืนวันจันทร์ จะได้อ่านข่าวบนเว็บว่า พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมใหญ่ที่เขาใหญ่ ในการนี้มีทักษิณโฟนอินมาด้วย ซึ่งเป็นที่รู้กันแน่ชัดแล้วว่า เขาโฟนอินมาจากฮ่องกงไม่ใช่บนเครื่องบิน หรือบนน่านฟ้าไหนๆ
ในการประชุมใหญ่คราวนี้ พรรคเพื่อไทยจัดทัพใหม่ดึงสายเลือดทักษิณทั้งพายัพ –เยาวภา-เยาวเรศ และยิ่งลักษณ์ ที่บินด่วนจี๋กลับจากการประชุมกับพี่ชายที่ฮ่องกงให้ขึ้นมากุมบังเหียน และคุยขรมว่า แจกจริงๆ แจกเห็นๆ ไม่อั้น
คนยืนยันคือ “ตัวอย่างจากฮ่องกง” ที่กลับมาหน้าบาน กระเป๋าอุ่น ยิ้มทั้งวัน นั่นล่ะคือที่มาสำหรับแผนการเดินทางไปหาผู้กุมโชคชะตาที่ฮ่องกงอีกครั้งหนึ่งในอาทิตย์หน้า
คราวนี้แว่วมาว่าจะยกโขยงกันเกือบ 40 ชีวิต เรียกว่าแทบเหมาลำ ไปเยี่ยมทักษิณ และกระเป๋าตังค์ของเขาที่ฮ่องกงกันเลยทีเดียว
ต่อไปคงได้ยินโฟนอินดีๆ ออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากคอการเมืองประเภทฮาร์ดคอร์กันถี่ขึ้นและแรงขึ้น
การโฟนอินล่าสุด ทักษิณประกาศหลังพิงฝา เลือดขึ้นหน้า และเข้าตาจน เขาพูดจาขึงขังท้ารบกับ “คนอายุมาก” ทุกรูปแบบอย่างไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวตาย แม้วันนี้เขาจะไม่มี “เนวิน” เป็นขุนพลข้างกายแล้วก็เถอะ
ทักษิณเปิดหน้าท้ารบ “เทหมดหน้าตัก” เพื่อรบขั้นแตกหักชิงอำนาจการบริหารประเทศคืนจาก “บุคคล” ที่ทักษิณตั้งสรรพนามต่างๆ นานา เพราะเชื่อว่า คนคนนี้ชิงชังทักษิณ อิจฉาทักษิณ และบงการทหารทำรัฐประหารทักษิณ
ดังนั้นทักษิณจึงทำทุกวิถีทางเพื่อขจัด “คนอายุมาก” ออกไปให้จงได้ สนุกกันละสิทีนี้
คำถามตามมาคือ ใครกันที่ทักษิณเรียกว่าคนอายุมาก เขาคนนี้คือ ขันทีตามคำอธิบายของอภิวันท์ หรือสามัญชนตามคำขยายของตุ๊ดตู่-จตุพร จริงหรือ ไม่มีใครรู้นอกจากทักษิณ!!!
แต่ที่แน่ๆ คือ คนอายุมากเป็นศัตรูของทักษิณ และน่าจะเป็นคนคนเดียวกันกับผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ-มือที่มองไม่เห็น-คนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ และไดโนซอรัสเป็นแน่
คำถามตามมา คือ แล้วคนอายุมากกับผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ กับมือที่มองไม่เห็น กับคนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ ใช่คนคนเดียวกันกับที่ “อยู่ในยูทูบ” หรือป่ะ
ถ้าใช่ก็แปลว่า ทักษิณรนหาที่แท้ๆ
แต่ถ้าไม่ใช่ก็แปลว่า ปากทักษิณพาจนจริงๆ
เกมนี้ดุเดือด น่าติดตาม และผลลัพธ์ขึ้นอยู่ที่ว่า ทักษิณและพวกจะโค่น “คนอายุมาก” ได้ไหม เห็นพยายามหลายครั้งแล้วนี่
แต่เอาเถิดทักษิณ อยากทำอะไรก็ทำ อยากพูดอะไรก็พูด อยากจะโฟนอินเมื่อไร ที่ไหน เรื่องอะไร
รีบๆ ทำเสีย ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ “ทำ”
ประเทศชาติ และประชาชน รอดูก้าวย่างต่อไปคุณอยู่
บนเครื่องเจอแอร์โฮสเตสการบินไทยในนาม “นักรบมือตบ” แถเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่ม พลางซุบๆ ซิบๆ ขยิบตา พอได้ใจความสั้นๆ ติดริมติ่งหูว่า “พวกมันมาด้วย”
ย้อนถามว่า “พวกมันน่ะคือใครกันจ๊ะ แม่กำปั่นเหาะคนสวย” ก็ไม่ได้ใจความอะไรเป็นน้ำเป็นเนื้อเท่าไรนัก ด้วยเพราะงานบนเครื่องกำลังยุ่งขิง แถมยังเกรงไปว่า อาจจะถูกแอร์เสื้อแดงจับได้ไล่ทันว่า เป็นสปายไอ เลิฟ ยูของพันธมิตรฯ
ฟังแอร์เล่าแล้วร้อนใจเลยเดินเกร่ตามหา “พวกมัน” ตามลายแทงของแอร์เสื้อเหลือง
อพิโธ่เอ๋ย...แค่เดินผ่านเพียงไม่กี่แถวก็เจอ “อดิศร เพียรเกษ” แกนนำกลุ่มดี สเตชั่น นั่งเบียดเสียดยัดเยียดกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ชั้นผู้โดยสารธรรมดา ถัดไปเป็น “ขุนค้อน” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
โอ้โฮ...แม่เจ้าโว้ยคนแรกที่เห็นน่ะ ตื่นเช้าเก่งจัง ก็เพิ่งนำคนเสื้อแดงไปปิดล้อมทำเนียบฯ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง ไหงบินมาฮ่องกงเร็วจังฮึ น่าสงสัยใคร่รู้ยิ่งนัก
กลับไปนั่งประจำการยังที่นั่งเดิมไม่นาน สายตาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนผู้โดยสารแถวหน้ามี “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ส่วนแถวหลังมี “เยาวเรศ ชินวัตร” แต่ไม่เห็น “แดง –เยาวภา” ในชั้นนั้น ทว่าเพื่อนแอร์คนหนึ่งแอบเห็นเจ๊-แดงตัวเป็นๆ นั่งหน้าอิ่มอยู่ไม่ไกลจากสมชายเท่าไรนัก
คนกลุ่มนี้เดินทางมาเที่ยว 8 โมงเช้าเหมือนกัน เป็นการเดินทางแต่เช้าตรู่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์กองทัพเสื้อแดงนับหมื่นภายใต้การนำของสามเกลอหัวขวด และแกนนำพรรคเพื่อไทยผู้ใกล้ชิดกับ “ทักษิณ” ยกทัพบุก “ทำเนียบรัฐบาล”
ซึ่งคืนวันเสาร์ที่ 31 ม.ค.นั้น กองทัพเสื้อแดงทั้งปลุกใจ ทั้งเดินขบวน และทั้งอ่านแถลงการณ์กันสาละวน ล่อกันนัวจนกว่าจะแล้วเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง แล้วกว่าจะกลับถึงบ้านอีกล่ะ เนี่ยอะไรกัน 6 โมงเช้าปร๋อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบินไปฮ่องกงกันอีกแล้ว แหมมันช่างแข็งขันการงานเสียจริงหนอ!!!
แต่เอ.....เห็นแล้วก็สงสัย คนพวกนี้มาทำอะไร? คงไม่ได้มากิน เที่ยว ชอปปิ้ง ธรรมดาๆ เหมือนคนทั่วไปเป็นแน่แท้??? ยิ่งเป็นการมาระดับแกนนำสายเลือดตรง และผู้ใกล้ชิดที่แสนจะภักดีอย่างนี้ด้วยแล้ว ย่อมไม่ใช่การมาฮ่องกงอย่างปกติ!!!#@!!!
อย่างไรก็ตาม ในวันที่เจอ “เครือญาติทักษิณ” บนเครื่องการบินไทยเที่ยวไปฮ่องกงนั้น เป็นที่รู้กันว่าทักษิณกำลังเริงร่าอยู่กับคลื่นความร้อนในสนามกอล์ฟที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
นี่ก็ยังสงสัยว่าเข้าออสเตรเลียได้อย่างไรในเมื่อถูกยกเลิกวีซ่าจากอังกฤษ!!!???
ช่างมันเถอะเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้ต้องตามไปดู “เครือญาติทักษิณ อิน ฮ่องกง” กันดีกว่า มาทำอะไรกันหรือ???
ทันทีที่เครื่องจอดสนามบินเช็ก แลป ก๊อก ซึ่งเป็นสนามบินที่สอง และแสนสวยของฮ่องกง เห็นแล้วแรงอิจฉา และโทโสเดือดขึ้นมาเป็นริ้วๆ
ก็สนามบินฮ่องกงนี้แหละที่สร้างทีหลังเรา แต่ดันเสร็จก่อนเรา แถมสะสวย มั่นคงแข็งแรงกว่าเราอีก
ครั้งหนึ่งสนามบินแห่งนี้เคยเอ่ยปากขาย “รถเข็น” มือสองที่สนามบินเก่าของเขา ให้กับเราในราคายุติธรรมด้วย ตอนนั้นพี่ไทยหน้าใหญ่ แอนด์ หน้ามืด ดันไม่เอาของเขาเสียนี่
การประมูลรถเข็นกระเป๋าในสนามบินที่แสนโหดเหี้ยม และเต็มไปด้วยการทุจริตมากมายคราวนั้น ทำให้เราได้รถเข็นห่วยๆ แพงจับใจ แถมจ่ายตังค์ครบ แต่ได้ของไม่ครบเสียนี่….นึกแล้วเจ็บใจ
พอนึกถึงเจ๊....ก็เห็นเจ๊เดินอ้วนๆ ปากแดงๆ เข็นรถเข็นกระเป๋าคุณภาพดีแล่นปรื้ดๆ ออกไปหน้าสนามบิน เพื่อรอรถมารับ โดยมี “ผัวแก” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักชอปตู้เย็นมือทอง แอบหลบไปยืนคุยโทรศัพท์ข้างเสา ได้ยินแว่วๆ ไม่รู้ จ๊ะจ๋ามหาละลวยอยู่กับใคร
สายตรงทักษิณยกโขยงขึ้นรถตู้ออกจากสนามบินไปโดยพร้อมเพรียงกัน จากนั้นส่วนหนึ่งแยกไปที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง และอีกกลุ่มหนึ่งเข้าพักที่โรงแรมมาร์โคโปโล ฮ่องกง กลุ่มหลังนี้มีเยาวเรศ-อดิศร-ขุนค้อนและนักธุรกิจชาย-หญิงกลุ่มใหญ่
ในจำนวนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งสวยคมเข้มคลับคล้ายคลับคลาว่า ครั้งหนึ่งเคยสวมบทบาทเป็น “เจ้าหญิงแสนหวี” ใช่หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะตั้งแต่เจ้าหญิงแสนหวีไปเปิดร้านอาหารไทยที่อังกฤษ ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่ไม่เป็นไร เอาไว้เจอ “พี่วีระ” แล้วจะถามว่า “เมียพี่ ” ไปฮ่องกงกะเขาด้วยป่ะ
หลังจากกลุ่มสายตรงทักษิณเช็กอินเสร็จเรียบร้อย เยาวเรศกับผองเพื่อนสองสามคนก็ออกเดินเล่นชอปปิ้งโต้ลมหนาว ส่วนอดิศรไม่เห็นอีกเลย เห็นแต่ขุนค้อนเรียกแท็กซี่ออกไปคนเดียว ไปไหนก็ไม่รู้
อีกฝากหนึ่งของท้องถนน ณ โรงแรมห้าดาวแห่งนั้น สมชายและสายตรงทักษิณก็ขึ้นรถตู้ของโรงแรมออกไปที่ไหนก็ไม่รู้ได้แห่งหนึ่ง
เดินไปเดินมาแทนที่จะทำธุระ กลับต้องเดินหาข่าวเสียนี่ สักพักใหญ่ก็จับพลัดจับผลูไปเจอ “เจ้าหน้าที่ไทย” คนหนึ่งจากสถานกงสุลฮ่องกงที่มาต้อนรับขับสู้กลุ่มอดีตนายกรัฐมนตรีสายทักษิณ ฟังเขาเล่าได้ความแล้วก็ใจเต้น เมื่อข้าราชการคนนั้นกระซิบว่า “ทักษิณมาถึงฮ่องกงแล้ว”
ส่วนพ่อค้า-แม่ค้าจากวงการตู้เย็น บนถนนนาธานตะโกนเล่ากันสนั่นเกาลูนว่า “ท่าน ส.ส.ไม่ได้มาแค่ที่อาหมวยเห็นหรอก แต่มากันเยอะแยะ พวกนี้แห่มาซื้อของกิน ของใช้ตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน แต่ละคนเนี่ยถือเงินเป็นฟ่อนๆ เลย”
ถ้าลองเป็นอีหรอบนี้ก็ใช่เลย ...โป๊ะเชะ...บิงโก...
ไม่แปลกใจเลยเมื่อกลับมาจากฮ่องกงคืนวันจันทร์ จะได้อ่านข่าวบนเว็บว่า พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมใหญ่ที่เขาใหญ่ ในการนี้มีทักษิณโฟนอินมาด้วย ซึ่งเป็นที่รู้กันแน่ชัดแล้วว่า เขาโฟนอินมาจากฮ่องกงไม่ใช่บนเครื่องบิน หรือบนน่านฟ้าไหนๆ
ในการประชุมใหญ่คราวนี้ พรรคเพื่อไทยจัดทัพใหม่ดึงสายเลือดทักษิณทั้งพายัพ –เยาวภา-เยาวเรศ และยิ่งลักษณ์ ที่บินด่วนจี๋กลับจากการประชุมกับพี่ชายที่ฮ่องกงให้ขึ้นมากุมบังเหียน และคุยขรมว่า แจกจริงๆ แจกเห็นๆ ไม่อั้น
คนยืนยันคือ “ตัวอย่างจากฮ่องกง” ที่กลับมาหน้าบาน กระเป๋าอุ่น ยิ้มทั้งวัน นั่นล่ะคือที่มาสำหรับแผนการเดินทางไปหาผู้กุมโชคชะตาที่ฮ่องกงอีกครั้งหนึ่งในอาทิตย์หน้า
คราวนี้แว่วมาว่าจะยกโขยงกันเกือบ 40 ชีวิต เรียกว่าแทบเหมาลำ ไปเยี่ยมทักษิณ และกระเป๋าตังค์ของเขาที่ฮ่องกงกันเลยทีเดียว
ต่อไปคงได้ยินโฟนอินดีๆ ออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากคอการเมืองประเภทฮาร์ดคอร์กันถี่ขึ้นและแรงขึ้น
การโฟนอินล่าสุด ทักษิณประกาศหลังพิงฝา เลือดขึ้นหน้า และเข้าตาจน เขาพูดจาขึงขังท้ารบกับ “คนอายุมาก” ทุกรูปแบบอย่างไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวตาย แม้วันนี้เขาจะไม่มี “เนวิน” เป็นขุนพลข้างกายแล้วก็เถอะ
ทักษิณเปิดหน้าท้ารบ “เทหมดหน้าตัก” เพื่อรบขั้นแตกหักชิงอำนาจการบริหารประเทศคืนจาก “บุคคล” ที่ทักษิณตั้งสรรพนามต่างๆ นานา เพราะเชื่อว่า คนคนนี้ชิงชังทักษิณ อิจฉาทักษิณ และบงการทหารทำรัฐประหารทักษิณ
ดังนั้นทักษิณจึงทำทุกวิถีทางเพื่อขจัด “คนอายุมาก” ออกไปให้จงได้ สนุกกันละสิทีนี้
คำถามตามมาคือ ใครกันที่ทักษิณเรียกว่าคนอายุมาก เขาคนนี้คือ ขันทีตามคำอธิบายของอภิวันท์ หรือสามัญชนตามคำขยายของตุ๊ดตู่-จตุพร จริงหรือ ไม่มีใครรู้นอกจากทักษิณ!!!
แต่ที่แน่ๆ คือ คนอายุมากเป็นศัตรูของทักษิณ และน่าจะเป็นคนคนเดียวกันกับผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ-มือที่มองไม่เห็น-คนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ และไดโนซอรัสเป็นแน่
คำถามตามมา คือ แล้วคนอายุมากกับผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ กับมือที่มองไม่เห็น กับคนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ ใช่คนคนเดียวกันกับที่ “อยู่ในยูทูบ” หรือป่ะ
ถ้าใช่ก็แปลว่า ทักษิณรนหาที่แท้ๆ
แต่ถ้าไม่ใช่ก็แปลว่า ปากทักษิณพาจนจริงๆ
เกมนี้ดุเดือด น่าติดตาม และผลลัพธ์ขึ้นอยู่ที่ว่า ทักษิณและพวกจะโค่น “คนอายุมาก” ได้ไหม เห็นพยายามหลายครั้งแล้วนี่
แต่เอาเถิดทักษิณ อยากทำอะไรก็ทำ อยากพูดอะไรก็พูด อยากจะโฟนอินเมื่อไร ที่ไหน เรื่องอะไร
รีบๆ ทำเสีย ก่อนที่จะไม่มีเวลาให้ “ทำ”
ประเทศชาติ และประชาชน รอดูก้าวย่างต่อไปคุณอยู่