ASTVผู้จัดการรายวัน – วีระศักดิ์ เรียกภาคเอกชนพบ ขอข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเก็บใส่กระเป๋าร่วมเดินทางไปญี่ปุ่นกับนายกฯมาร์คยันเที่ยวประเทศไทยคุ้มค่าเงินและปลอดภัย ระบุเตรียมเสนอตั้งคณะกรรมการร่วมสองประเทศ บูมท่องเที่ยวระหว่างกัน พร้อมเตรียมจัดแพกเจทัวร์เสนอขายให้ทันฤดูท่องเที่ยวของชาวญี่ปุ่นเริ่มเมษายนศกนี้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ดททท.) เปิดเผยว่า ได้เชิญภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว อาทิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) ,สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) เป็นต้น มาร่วมหารือรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของภาคเอกชน เพื่อใช้เป็นข้อมูล ในการร่วมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วันที่ 5 ก.พ.52
ทั้งนี้การเยือนญี่ปุ่นของคณะรัฐบาลไทยในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลญี่ปุ่นและ ต่อนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่จะตัดสินใจเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่ได้รับฟังจากภาคเอกชนท่องเที่ยว จะใช้เป็นข้อมูลสำหรับการหารือกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยจะจัดทำเป็นหัวข้อตามลำดับความสำคัญ
โดยประเด็นด้านการท่องเที่ยว ของการไปญี่ปุ่นครั้งนี้ ได้เตรียมเสนอจัดตั้งคณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างสองประเทศ เพราะจากความสัมพันธ์กว่า 120 ปี ที่ผ่านมา แต่ทั้งสองประเทศก็ยังไม่มีคณะกรรมการร่วมกันมาก่อน ซึ่งการตั้งคณะกรรมการร่วมฯครั้งนี้น่าจะส่งผลดีกับทั้งสองประเทศในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน มีข้อมูลการตลาดซึ่งกันและกัน ทำให้สามารถเข้าถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและจัดแพกเกจทัวร์ได้ตรงความต้องการได้ตรงจุดขึ้น โดยจะเร่งดำเนินการให้ทันกับฤดูเดินทางท่องเที่ยวของชาวญี่ปุ่น ที่จะอยู่ประมาณเดือน เม.ย.-มิ.ย. นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็น 1 ใน 5 ของเดสติเนชั่นที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวมากที่สุด นับจาก ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน และ ญี่ปุ่น ตามลำดับ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็เดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวนมากเฉลี่ยปีละประมาณ 1 ล้านคน ดังนั้นหากทั้งสองประเทศ ร่วมกันบริหารจัดการ เพิ่มเส้นทางท่องเที่ยว หรืออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทาง จะทำให้การเดินทางของคนทั้งสองประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กลยุทธ์ที่จะนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวตลาดญี่ปุ่นขณะนี้ คือเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่น และความคุ้มค่าเงินเมื่อมาประเทศไทย เพราะแม้หลายประเทศทั่วโลก ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นยังแข็ง สะท้อนว่าเศรษฐกิจของประเทศยังดี
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปครั้งนี้ จะนำข้อมูลไปแจ้งต่อชาวญี่ปุ่นให้ทราบว่า ขณะนี้สามารถเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้ในราคาถูกกว่าปีก่อน เพราะ ภาคเอกชนท่องเที่ยวตลอดจนสายการบิน ต่างจัดแคมเปญโปรโมชั่นมากมาย ประกอบกับการลดค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือ ฟิวเซอร์ชารจ์ ทำให้อัตราค่าโดยสารของสายการบินมีราคาถูกลง นอกจากนั้นจะขอยืนยันเรื่องความปลอดภัยของประเทศไทยด้วย เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นมีความมั่นใจยิ่งขึ้น
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ดททท.) เปิดเผยว่า ได้เชิญภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว อาทิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) ,สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) เป็นต้น มาร่วมหารือรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของภาคเอกชน เพื่อใช้เป็นข้อมูล ในการร่วมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วันที่ 5 ก.พ.52
ทั้งนี้การเยือนญี่ปุ่นของคณะรัฐบาลไทยในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลญี่ปุ่นและ ต่อนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่จะตัดสินใจเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่ได้รับฟังจากภาคเอกชนท่องเที่ยว จะใช้เป็นข้อมูลสำหรับการหารือกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยจะจัดทำเป็นหัวข้อตามลำดับความสำคัญ
โดยประเด็นด้านการท่องเที่ยว ของการไปญี่ปุ่นครั้งนี้ ได้เตรียมเสนอจัดตั้งคณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างสองประเทศ เพราะจากความสัมพันธ์กว่า 120 ปี ที่ผ่านมา แต่ทั้งสองประเทศก็ยังไม่มีคณะกรรมการร่วมกันมาก่อน ซึ่งการตั้งคณะกรรมการร่วมฯครั้งนี้น่าจะส่งผลดีกับทั้งสองประเทศในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน มีข้อมูลการตลาดซึ่งกันและกัน ทำให้สามารถเข้าถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและจัดแพกเกจทัวร์ได้ตรงความต้องการได้ตรงจุดขึ้น โดยจะเร่งดำเนินการให้ทันกับฤดูเดินทางท่องเที่ยวของชาวญี่ปุ่น ที่จะอยู่ประมาณเดือน เม.ย.-มิ.ย. นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็น 1 ใน 5 ของเดสติเนชั่นที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวมากที่สุด นับจาก ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน และ ญี่ปุ่น ตามลำดับ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็เดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวนมากเฉลี่ยปีละประมาณ 1 ล้านคน ดังนั้นหากทั้งสองประเทศ ร่วมกันบริหารจัดการ เพิ่มเส้นทางท่องเที่ยว หรืออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทาง จะทำให้การเดินทางของคนทั้งสองประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กลยุทธ์ที่จะนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวตลาดญี่ปุ่นขณะนี้ คือเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่น และความคุ้มค่าเงินเมื่อมาประเทศไทย เพราะแม้หลายประเทศทั่วโลก ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นยังแข็ง สะท้อนว่าเศรษฐกิจของประเทศยังดี
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปครั้งนี้ จะนำข้อมูลไปแจ้งต่อชาวญี่ปุ่นให้ทราบว่า ขณะนี้สามารถเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้ในราคาถูกกว่าปีก่อน เพราะ ภาคเอกชนท่องเที่ยวตลอดจนสายการบิน ต่างจัดแคมเปญโปรโมชั่นมากมาย ประกอบกับการลดค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือ ฟิวเซอร์ชารจ์ ทำให้อัตราค่าโดยสารของสายการบินมีราคาถูกลง นอกจากนั้นจะขอยืนยันเรื่องความปลอดภัยของประเทศไทยด้วย เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นมีความมั่นใจยิ่งขึ้น