ที่รัฐสภา วานนี้ (3 ก.พ.) พล.อ.อ.ณพฤษฎ์ มัณฑะจิตร ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา แถลงภายหลังการประชุมว่า ทุกวันนี้ มีการหมิ่นแคลนน้ำใจและมีการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น โดยจากการ เปิดเผยของนาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ระบุว่า ขณะนี้มีเวบไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กว่าหมื่นเว็บ ซึ่งขณะนี้ปิดไปแล้ว 2 กว่าพันเว็บ
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งเป้าศึกษาไว้จำนวน 5 แนวทาง คือ 1.ติดตาม ผลคดีที่มีผู้ละเมิดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ 2. ลักษณะกฎหมายและการละเมิดทำอย่างไร 3.แนวทางการเทิดทูนสถาบัน 4. การสร้างองค์ความรู้เพื่อการเทิดทูน และ5. ระมัดระวังในการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เท่าที่จำเป็น
ด้านนาย สมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหาร โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯมีมติตั้งอนุกรรมาธิการฯ จำนวน3 คณะ ประกอบด้วย1. อนุกรรมาธิการ ติดตามบังคับใช้กฎหมาย 2. อนุกรรมาธิการติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3. อนุกรรมาธิการพิจารณามาตรการทางสังคม โดยทั้ง 3 อนุกรรมาธิการฯ ใช้เวลาในการ ทำงาน 10 สัปดาห์ ก่อนเสนอเข้าสู่ชุดใหญ่ เพื่อสรุป ให้เป็นรูปธรรม ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา ต่อไป
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เลขานุการคณะกรรมาธิการฯกล่าวยืนยันว่า คณะกรรมาธิการฯไม่มีธงในการศึกษาไว้ล่วงหน้า เราจะสร้างสมดุลย์ให้ความ เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา จะพบว่าการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยกระดับเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง ซึ่งล่าสุดในการชุมนุมเมื่อวันที่ 31 ม.ค. กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลก็ได้รณรงค์เรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผนวกให้เป็นเรื่องเดียวกันการต่อต้านการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการศึกษาเรื่องคดีหมิ่นประมาท จะนำเรื่องของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.อ.อ.ณพฤษฎ์ กล่าวว่าจะนำทุกคดีที่เกี่ยวข้องมาเข้าสู่การพิจารณา โดยไม่มีการแบ่งแยกว่าต้องเป็นของ กลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือเสื้อแดง เราต้องศึกษาภาพรวมเพื่อเป็นองค์ความรู้ ทั้งนี้เวลาที่คณะกรรมาธิการฯได้มาศึกษา คือ 180 วัน คงไม่สามารถสังคายนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้หมด
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งเป้าศึกษาไว้จำนวน 5 แนวทาง คือ 1.ติดตาม ผลคดีที่มีผู้ละเมิดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ 2. ลักษณะกฎหมายและการละเมิดทำอย่างไร 3.แนวทางการเทิดทูนสถาบัน 4. การสร้างองค์ความรู้เพื่อการเทิดทูน และ5. ระมัดระวังในการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เท่าที่จำเป็น
ด้านนาย สมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหาร โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯมีมติตั้งอนุกรรมาธิการฯ จำนวน3 คณะ ประกอบด้วย1. อนุกรรมาธิการ ติดตามบังคับใช้กฎหมาย 2. อนุกรรมาธิการติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3. อนุกรรมาธิการพิจารณามาตรการทางสังคม โดยทั้ง 3 อนุกรรมาธิการฯ ใช้เวลาในการ ทำงาน 10 สัปดาห์ ก่อนเสนอเข้าสู่ชุดใหญ่ เพื่อสรุป ให้เป็นรูปธรรม ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา ต่อไป
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เลขานุการคณะกรรมาธิการฯกล่าวยืนยันว่า คณะกรรมาธิการฯไม่มีธงในการศึกษาไว้ล่วงหน้า เราจะสร้างสมดุลย์ให้ความ เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา จะพบว่าการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยกระดับเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง ซึ่งล่าสุดในการชุมนุมเมื่อวันที่ 31 ม.ค. กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลก็ได้รณรงค์เรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผนวกให้เป็นเรื่องเดียวกันการต่อต้านการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการศึกษาเรื่องคดีหมิ่นประมาท จะนำเรื่องของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.อ.อ.ณพฤษฎ์ กล่าวว่าจะนำทุกคดีที่เกี่ยวข้องมาเข้าสู่การพิจารณา โดยไม่มีการแบ่งแยกว่าต้องเป็นของ กลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือเสื้อแดง เราต้องศึกษาภาพรวมเพื่อเป็นองค์ความรู้ ทั้งนี้เวลาที่คณะกรรมาธิการฯได้มาศึกษา คือ 180 วัน คงไม่สามารถสังคายนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้หมด