กมธ.ต่างประเทศ ยืนยันทางการไทยช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงยาตามหลักสากล ข้องใจภาพเรือลากจูง จี้รัฐบาลแก้ไขภาพลักษณ์ แนะดึงอาเซียนร่วมแก้ปัญหาแรงงานอพยพทั้งระบบ สังคายนาด้านการสื่อสาร
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่รัฐสภา น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงยาเข้าประเทศไทย โดยพบว่าไม่มีการแสดงออกด้วยความรุนแรงกับชาวโรฮิงยาที่เข้ามาสู่ประเทศไทย ทุกอย่างเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากลไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้นอาวุธ หรือการดูแลส่งผู้อพยพออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าภาพข่าวที่เป็นเรือลำใหญ่ลากเรือลำเล็กออกไปส่งนอกประเทศนั้นเป็นเรือของทางการไทย หรือทหารเรือของไทยหรือไม่
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าปัญหาเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการค้าแรงงาน ดังนั้น การแก้ปัญหาต้องแก้ตั้งแต่ต้นตอ โดยทางกรรมาธิการมีข้อสรุป 7 ข้อ ได้แก่ 1.รัฐบาลไทยต้องแสดงออกถึงกระบวนการดูแลผู้อพยพ เพราะประเทศไทยดูแลผู้อพยพอย่างดีมาตลอด แต่กลับกลายเป็นการทำคุณบูชาโทษ ดังนั้นจะต้องแก้ไขปัญหาการสื่อสารที่ออกไป 2.ต้องจัดการกับกลุ่มผู้ค้ามนุษย์ เพราะมีส่วนกับแรงงานต่างด้าวที่อพยพเข้ามาในประเทศ 3.ต้องพูดคุยกับสภาแรงงาน และสภาอุตสาหกรรมให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา 4.ปัญหานี้ไม่ใช่เฉพาะไทยกับพม่า ดังนั้นจะต้องให้สหประชาชาติเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาโดยเริ่มต้นตั้งแต่เวทีประชุมอาเซียน เพื่อแก้ปัญหาการอพยพในประเทศพม่า บังกลาเทศ ไทย และมาเลเซีย
5.ควรเปิดให้องค์กรที่เป็นกลางเข้ามาตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ เข้ามาตรวจสอบ 6.เปิดให้กลไกรัฐสภานานาชาติเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานอกจากปล่อยให้การเมืองแก้ปัญหาฝ่ายเดียว และ 7.กรรมาธิการได้ตั้งอนุกรรมาธิการศึกษาการละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เข้ามาขับเคลื่อนการแก้ปัญหา
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่รัฐสภา น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงยาเข้าประเทศไทย โดยพบว่าไม่มีการแสดงออกด้วยความรุนแรงกับชาวโรฮิงยาที่เข้ามาสู่ประเทศไทย ทุกอย่างเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากลไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้นอาวุธ หรือการดูแลส่งผู้อพยพออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าภาพข่าวที่เป็นเรือลำใหญ่ลากเรือลำเล็กออกไปส่งนอกประเทศนั้นเป็นเรือของทางการไทย หรือทหารเรือของไทยหรือไม่
น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าปัญหาเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการค้าแรงงาน ดังนั้น การแก้ปัญหาต้องแก้ตั้งแต่ต้นตอ โดยทางกรรมาธิการมีข้อสรุป 7 ข้อ ได้แก่ 1.รัฐบาลไทยต้องแสดงออกถึงกระบวนการดูแลผู้อพยพ เพราะประเทศไทยดูแลผู้อพยพอย่างดีมาตลอด แต่กลับกลายเป็นการทำคุณบูชาโทษ ดังนั้นจะต้องแก้ไขปัญหาการสื่อสารที่ออกไป 2.ต้องจัดการกับกลุ่มผู้ค้ามนุษย์ เพราะมีส่วนกับแรงงานต่างด้าวที่อพยพเข้ามาในประเทศ 3.ต้องพูดคุยกับสภาแรงงาน และสภาอุตสาหกรรมให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหา 4.ปัญหานี้ไม่ใช่เฉพาะไทยกับพม่า ดังนั้นจะต้องให้สหประชาชาติเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาโดยเริ่มต้นตั้งแต่เวทีประชุมอาเซียน เพื่อแก้ปัญหาการอพยพในประเทศพม่า บังกลาเทศ ไทย และมาเลเซีย
5.ควรเปิดให้องค์กรที่เป็นกลางเข้ามาตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ เข้ามาตรวจสอบ 6.เปิดให้กลไกรัฐสภานานาชาติเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานอกจากปล่อยให้การเมืองแก้ปัญหาฝ่ายเดียว และ 7.กรรมาธิการได้ตั้งอนุกรรมาธิการศึกษาการละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เข้ามาขับเคลื่อนการแก้ปัญหา
