ASTVผู้จัดการรายวัน –สคร.เห็นชอบแผนปรับปรุงธุรกิจการบินไทย หลังส่อแววเจ๊ง เตรียมนำข้อเสนอจากที่ประชุมเสนอกระทรวงคมนาคมและคลังในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะเดียวกันประกาศเพิ่มความถี่เที่ยวบินรองรับความต้องการผู้โดยสารเพิ่ม เส้นทางกรุงเทพ-นิวเดลลี และกรุงเทพ-มุมไบ และเส้นทางบิน ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี จาก 2 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน เริ่ม 1 ก.พ. 52 โดยก่อนหน้าอ้างปิดสุวรรณภูมิทำให้ผู้โดยสารและเที่ยวบินลดส่งผลขาดทุน
พลอากาศเอก ณรงศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักเลขานุการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะทำงานจัดทำแผนปรับปรุงธุรกิจ ได้นำร่างแผนปรับปรุงธุรกิจของ บริษัทการบินไทยฯ นำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พร้อมกับนำเสนอต่อคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาโครงข่ายระบบการขนส่งทางอากาศ ที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในภาพรวมของแผนฯ และให้คณะทำงานฯ นำความเห็นของที่ประชุมไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552
โดยแผนปรับปรุงธุรกิจของบริษัทการบินไทยฯ ประกอบด้วย 3 ระยะ ได้แก่ แผนระยะแรกซึ่งจะเน้นการเพิ่มกระแสเงินสด การบริหารจัดการทรัพย์สิน การปรับปรุง โครงสร้างหนี้ และการปรับโครงสร้างเงินทุน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่อง แผนระยะที่สอง จะเน้นที่การเพิ่มรายได้ การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการ
ส่วนแผนระยะที่สาม ซึ่งเป็นแผนระยะยาวนั้น จะพิจารณาถึงการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ การปรับโครงสร้างองค์กรให้เกิดความคล่องตัว และการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งนี้ แผนปรับปรุงธุรกิจที่จะนำเสนอต่อกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะครอบคลุมเฉพาะแผนระยะแรก และบางส่วนของแผนระยะที่สอง ส่วนแผนระยะยาวนั้น จะพิจารณาหลังจากที่แผนการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องได้รับการอนุมัติแล้ว
ขณะเดียวกันบริษัทการบินไทยได้เพิ่มความถี่ในเส้นทางบิน กรุงเทพ-นิวเดลลี และกรุงเทพ-มุมไบ หรือบอมเบย์ จากวันละ 1 เที่ยวบิน เป็นวันละ 2 เที่ยวบิน หรือจาก 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นอกจากนี้การบินไทยยังได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินเส้นทางบินภายในประเทศ กรุงเทพ-ขอนแก่น กรุงเทพ-อุดรธานี และกรุงเทพ-อุบลราชธานี จาก 2 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2552 เพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น
พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า การบินไทย ประสบปัญหาจำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างมากในหลายเส้นทางบิน ตั้งแต่มีการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปลายเดือนพ.ย.-ต้น ธ.ค. 2551 จึงต้องลดเที่ยวบินลงประมาณ 11% เมื่อ อย่างไรก็ตาม ในเดือนม.ค.2552 จำนวนผู้โดยสารในหลายเส้นทางบินได้เพิ่มกลับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะยังไม่ดีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ก็สูงกว่าที่ประมาณการไว้มาก ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีว่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยมากขึ้น
นอกจาก การบินไทยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังหลายเมืองที่มีความต้องการเดินทางเพิ่มมากขึ้น เช่น มิวนิค มิลาน โซล กวางเจา และฟูกูโอกะ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มเที่ยวบินกลับสู่ภาวะปกติได้ในเดือนมี.ค. 2552
ก่อนหน้านี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการ บริษัทฯ ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย ได้ระบุว่า บริษัทได้ทบทวนตารางการบินใหม่ระหว่าง 15 ธ.ค.2551-มี.ค. 2552 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับตารางบินเดิมที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าในระยะช่วงที่ผ่านมาผู้โดยสารกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้อาจเป็นกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากทั่วโลก ทำให้มีการชะลอการเดินทางจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจแต่การบินไทยอ้างว่าเป็นผลจากการปิดสนามบิน
ขณะที่การจองตั๋ว (Booking) เฉลี่ยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประมาณ 70% ส่วนเส้นทางที่ยังคงมีจำนวนผู้โดยสารลดลงอยู่เช่น จีน ญี่ปุ่น นั้น บริษัทใช้การปรับลดขนาดเครื่องบินให้เล็กลง เช่น เปลี่ยนจากเครื่องบิน โบอิ้ง 747 ขนาด 400 ที่นั่ง เป็นแอร์บัส 330 ขนาด 300 ที่นั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารและประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงลงด้วย โดยภาพรวมของตารางบินดังกล่าวยังไม่มีการยกเลิก
***ออมสินยันปล่อยกู้ต้องรอบคอบ
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า กรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ต้องการขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทจากออมสินนั้น แม้ขณะนี้ยังเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการติดต่อมา หากมีการติดต่อมาจากการบินไทยก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบ และมองว่าไม่ใช่การบีบบังคับจากรัฐบาล เพราะการพิจารณาสินเชื่อต้องผ่านคณะกรรมการ ซึ่งต้องดูข้อดีข้อเสียประกอบด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต.
พลอากาศเอก ณรงศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักเลขานุการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะทำงานจัดทำแผนปรับปรุงธุรกิจ ได้นำร่างแผนปรับปรุงธุรกิจของ บริษัทการบินไทยฯ นำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พร้อมกับนำเสนอต่อคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาโครงข่ายระบบการขนส่งทางอากาศ ที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในภาพรวมของแผนฯ และให้คณะทำงานฯ นำความเห็นของที่ประชุมไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552
โดยแผนปรับปรุงธุรกิจของบริษัทการบินไทยฯ ประกอบด้วย 3 ระยะ ได้แก่ แผนระยะแรกซึ่งจะเน้นการเพิ่มกระแสเงินสด การบริหารจัดการทรัพย์สิน การปรับปรุง โครงสร้างหนี้ และการปรับโครงสร้างเงินทุน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่อง แผนระยะที่สอง จะเน้นที่การเพิ่มรายได้ การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการ
ส่วนแผนระยะที่สาม ซึ่งเป็นแผนระยะยาวนั้น จะพิจารณาถึงการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ การปรับโครงสร้างองค์กรให้เกิดความคล่องตัว และการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งนี้ แผนปรับปรุงธุรกิจที่จะนำเสนอต่อกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะครอบคลุมเฉพาะแผนระยะแรก และบางส่วนของแผนระยะที่สอง ส่วนแผนระยะยาวนั้น จะพิจารณาหลังจากที่แผนการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องได้รับการอนุมัติแล้ว
ขณะเดียวกันบริษัทการบินไทยได้เพิ่มความถี่ในเส้นทางบิน กรุงเทพ-นิวเดลลี และกรุงเทพ-มุมไบ หรือบอมเบย์ จากวันละ 1 เที่ยวบิน เป็นวันละ 2 เที่ยวบิน หรือจาก 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นอกจากนี้การบินไทยยังได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินเส้นทางบินภายในประเทศ กรุงเทพ-ขอนแก่น กรุงเทพ-อุดรธานี และกรุงเทพ-อุบลราชธานี จาก 2 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2552 เพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น
พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า การบินไทย ประสบปัญหาจำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างมากในหลายเส้นทางบิน ตั้งแต่มีการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปลายเดือนพ.ย.-ต้น ธ.ค. 2551 จึงต้องลดเที่ยวบินลงประมาณ 11% เมื่อ อย่างไรก็ตาม ในเดือนม.ค.2552 จำนวนผู้โดยสารในหลายเส้นทางบินได้เพิ่มกลับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะยังไม่ดีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ก็สูงกว่าที่ประมาณการไว้มาก ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีว่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยมากขึ้น
นอกจาก การบินไทยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังหลายเมืองที่มีความต้องการเดินทางเพิ่มมากขึ้น เช่น มิวนิค มิลาน โซล กวางเจา และฟูกูโอกะ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มเที่ยวบินกลับสู่ภาวะปกติได้ในเดือนมี.ค. 2552
ก่อนหน้านี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการ บริษัทฯ ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย ได้ระบุว่า บริษัทได้ทบทวนตารางการบินใหม่ระหว่าง 15 ธ.ค.2551-มี.ค. 2552 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับตารางบินเดิมที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าในระยะช่วงที่ผ่านมาผู้โดยสารกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้อาจเป็นกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากทั่วโลก ทำให้มีการชะลอการเดินทางจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจแต่การบินไทยอ้างว่าเป็นผลจากการปิดสนามบิน
ขณะที่การจองตั๋ว (Booking) เฉลี่ยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประมาณ 70% ส่วนเส้นทางที่ยังคงมีจำนวนผู้โดยสารลดลงอยู่เช่น จีน ญี่ปุ่น นั้น บริษัทใช้การปรับลดขนาดเครื่องบินให้เล็กลง เช่น เปลี่ยนจากเครื่องบิน โบอิ้ง 747 ขนาด 400 ที่นั่ง เป็นแอร์บัส 330 ขนาด 300 ที่นั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารและประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงลงด้วย โดยภาพรวมของตารางบินดังกล่าวยังไม่มีการยกเลิก
***ออมสินยันปล่อยกู้ต้องรอบคอบ
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า กรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ต้องการขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทจากออมสินนั้น แม้ขณะนี้ยังเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับการติดต่อมา หากมีการติดต่อมาจากการบินไทยก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบ และมองว่าไม่ใช่การบีบบังคับจากรัฐบาล เพราะการพิจารณาสินเชื่อต้องผ่านคณะกรรมการ ซึ่งต้องดูข้อดีข้อเสียประกอบด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต.
