เจเอสแอลสะดุดขาตัวเอง วางหมากออกตัว “ไมดาส” เร็วเกินไป บวกสถานการณ์การเมืองไม่เอื้อ ปลุกทีวีออนดีมานด์บนอินเตอร์เน็ตไม่ขึ้น ฮึดสู้รับศึกนิว มีเดียอีกครั้ง ชูเว็บคอมมูนิตี้ดูดลูกค้า ตั้งเป้าเมมเบอร์ 1,000 ราย ส่วนรายการทีวียึดคงที่ 30 ชาแนล มั่นใจรายได้ปีนี้ไม่น่าพลาด 10 ล้านบาท อย่างปีก่อน
นายสุวิทย์ สาสนพิจิตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมดาส ครีเอทีฟ จำกัด บริษัทในเครือ เจ เอส แอล ดำเนินธุรกิจด้านนิว มีเดีย บนสื่ออินเตอร์เน็ต เปิดเผย “ASTVผู้จัดการรายวัน”ว่า จากกระแสของนิว มีเดียที่ทางเจ เอส แอล เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะมาแรง และเป็นสื่อใหม่ที่จะได้รับความนิยมสูง จนทำให้บริษัทฯหันมาเปิดเว็บไซด์ www.manyTV.com ซึ่งเป็นเว็บไซด์ทางด้านทีวีออนดีมานด์ในช่วงเดือนพ.ค.ปีก่อน พบว่าไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
โดยในปีก่อนยอมรับว่า เหตุการณ์ทางการเมือง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เว็บไซด์ประเภทข่าว และบล็อก หรือเว็บคอมมูนิตี้ต่างๆได้รับความนิยมสูง ผู้บริโภคนิยมเข้าไปแสดงความคิดเห็น ติ ชม และรับรู้ข่าวสารจากเว็บไซด์ประเภทนี้สูง ส่งผลให้กลุ่มเว็บไซด์ประเภททีวีออนดีมานด์บนเว็บ จึงไม่ได้รับความนิยมตามที่คาดหวังไว้ ทำให้ปีที่ผ่านมา ในแง่ของรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จาก10ล้านบาท
ส่งผลให้ปีนี้ทางไมดาส จึงมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับโพซิชันนิ่งเว็บไซด์จากเดิมเป็นทีวีออนดีมานด์ ให้เป็นเว็บไซด์ทางด้าน วีดีโอ บล็อก ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้การลงทุนด้านเทคโนโลยีและเน็ตเวิร์คเพิ่มอีก 1 ล้านบาท จากปีก่อนที่ลงทุนไปแล้วประมาณ 2 ล้านบาท โดยจากเดิมที่มีแต่จำนวนลูกค้ากลุ่มผลิตรายการ หรือเจ้าของคอนเท้นท์รายการมาใช้บริการ จะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าและบุคคลทั่วไป ในการเข้าใช้เป็นบล๊อกของตัวเองมากขึ้น โดยตั้งเป้าสมาชิกไว้ที่ 1,000 ราย หรือในปีแรกคาดว่าจะมีบล๊อกที่แอกทีฟที่ 500-600 บล็อก ถือเป็นที่น่าพอใจแล้ว ส่วนในอนาคตหากรูปแบบเว็บคอมมูนิตี้แบบนี้เติบโตขึ้น เชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะนำมาใช้เพิ่มรายได้ ขณะที่ปัจจุบันผุ้ใช้บริการดังกล่าว จะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างไร
ปัจจุบันรายได้ของเว็บไซด์ดังกล่าว หลักๆยังมาจากโฆษณาที่ร่วมกับทางเจ้าของคอนเท้นท์รายการที่หันมาใช้การทำตลาดร่วมกับทางเว็บไซด์ กับการจัดกิจกรรมผ่านเว็บและจัดอีเว้นท์ร่วมกัน ขณะที่ลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์มีอยู่ประมาณ 5-6 ราย ปีนี้ยังไม่สรุปผลออกมาว่าจะมีเพิ่มอีกกี่ราย เพราะยังรอดูสถานการณ์ต่างๆก่อน ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้าใช้บริการอยู่ 30 ช่องรายการ โดยรายการที่ได้รับความนิยมในการเข้ารับชมต่อวันสูงถึง 2,000คนนั้น ได้แก่ เจาะใจ, สุริวิภา และรายการจากผู้ผลิตรายอื่นๆที่ไม่ใช่ในเครือเจเอสแอส
“ปีที่ผ่านมาถือว่าเร็วเกินไป หรือคาดผิดไปในการเปิดตัวเว็บไซด์ประเภททีวีออนดีมานด์ เพราะกระแสการเติบโตสู้เว็บข่าว และเว็บบล๊อกต่างๆไม่ได้ ดังนั้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯจึงถือเป็นการลองผิดลองถูก ไม่มุ่งเรื่องของรายได้ แต่จะมุ่งหาวิธีในการรับมือในปีนี้เป็นหลัก ทั้งการปรับโพซิชั่นนิ่งเว็บไซด์ใหม่ บวกกับการรักษาลูกค้าเดิมไว้ รวมถึงวางแผนการดำเนินธุรกิจแบบระยะสั้น มั่นใจว่าเป้า 10 ล้านบาทในปีก่อน น่าจะทำได้ในปีนี้”
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ปีนี้นิว มีเดียประเภทสื่ออินเตอร์เน็ต การเติบโตขึ้นอยู่กับการที่ลูกค้าจะหันมาให้ความสนใจใช้สื่อนี้เพื่อนการตลาดมากแค่ไหน ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับรัฐบาลด้วย โดยมองว่าหากรัฐบาลสามารถทำงานได้อย่างน้อยครึ่งปี ไม่มีเรื่องม๊อบเข้ามาอีกครั้ง อินเตอร์เน็ตก็น่าจะมีแนวโน้มการเติบโตสูง เพราะในความเป็นจริงแล้ว อินเตอร์เน็ตถือเป็นสื่อราคาถูก ช่วยลดคอสให้ลูกค้า เพื่อใช้ในการทำตลาดได้เป็นอย่างดี
นายสุวิทย์ สาสนพิจิตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมดาส ครีเอทีฟ จำกัด บริษัทในเครือ เจ เอส แอล ดำเนินธุรกิจด้านนิว มีเดีย บนสื่ออินเตอร์เน็ต เปิดเผย “ASTVผู้จัดการรายวัน”ว่า จากกระแสของนิว มีเดียที่ทางเจ เอส แอล เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะมาแรง และเป็นสื่อใหม่ที่จะได้รับความนิยมสูง จนทำให้บริษัทฯหันมาเปิดเว็บไซด์ www.manyTV.com ซึ่งเป็นเว็บไซด์ทางด้านทีวีออนดีมานด์ในช่วงเดือนพ.ค.ปีก่อน พบว่าไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
โดยในปีก่อนยอมรับว่า เหตุการณ์ทางการเมือง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เว็บไซด์ประเภทข่าว และบล็อก หรือเว็บคอมมูนิตี้ต่างๆได้รับความนิยมสูง ผู้บริโภคนิยมเข้าไปแสดงความคิดเห็น ติ ชม และรับรู้ข่าวสารจากเว็บไซด์ประเภทนี้สูง ส่งผลให้กลุ่มเว็บไซด์ประเภททีวีออนดีมานด์บนเว็บ จึงไม่ได้รับความนิยมตามที่คาดหวังไว้ ทำให้ปีที่ผ่านมา ในแง่ของรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จาก10ล้านบาท
ส่งผลให้ปีนี้ทางไมดาส จึงมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับโพซิชันนิ่งเว็บไซด์จากเดิมเป็นทีวีออนดีมานด์ ให้เป็นเว็บไซด์ทางด้าน วีดีโอ บล็อก ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้การลงทุนด้านเทคโนโลยีและเน็ตเวิร์คเพิ่มอีก 1 ล้านบาท จากปีก่อนที่ลงทุนไปแล้วประมาณ 2 ล้านบาท โดยจากเดิมที่มีแต่จำนวนลูกค้ากลุ่มผลิตรายการ หรือเจ้าของคอนเท้นท์รายการมาใช้บริการ จะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าและบุคคลทั่วไป ในการเข้าใช้เป็นบล๊อกของตัวเองมากขึ้น โดยตั้งเป้าสมาชิกไว้ที่ 1,000 ราย หรือในปีแรกคาดว่าจะมีบล๊อกที่แอกทีฟที่ 500-600 บล็อก ถือเป็นที่น่าพอใจแล้ว ส่วนในอนาคตหากรูปแบบเว็บคอมมูนิตี้แบบนี้เติบโตขึ้น เชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะนำมาใช้เพิ่มรายได้ ขณะที่ปัจจุบันผุ้ใช้บริการดังกล่าว จะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างไร
ปัจจุบันรายได้ของเว็บไซด์ดังกล่าว หลักๆยังมาจากโฆษณาที่ร่วมกับทางเจ้าของคอนเท้นท์รายการที่หันมาใช้การทำตลาดร่วมกับทางเว็บไซด์ กับการจัดกิจกรรมผ่านเว็บและจัดอีเว้นท์ร่วมกัน ขณะที่ลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์มีอยู่ประมาณ 5-6 ราย ปีนี้ยังไม่สรุปผลออกมาว่าจะมีเพิ่มอีกกี่ราย เพราะยังรอดูสถานการณ์ต่างๆก่อน ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้าใช้บริการอยู่ 30 ช่องรายการ โดยรายการที่ได้รับความนิยมในการเข้ารับชมต่อวันสูงถึง 2,000คนนั้น ได้แก่ เจาะใจ, สุริวิภา และรายการจากผู้ผลิตรายอื่นๆที่ไม่ใช่ในเครือเจเอสแอส
“ปีที่ผ่านมาถือว่าเร็วเกินไป หรือคาดผิดไปในการเปิดตัวเว็บไซด์ประเภททีวีออนดีมานด์ เพราะกระแสการเติบโตสู้เว็บข่าว และเว็บบล๊อกต่างๆไม่ได้ ดังนั้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯจึงถือเป็นการลองผิดลองถูก ไม่มุ่งเรื่องของรายได้ แต่จะมุ่งหาวิธีในการรับมือในปีนี้เป็นหลัก ทั้งการปรับโพซิชั่นนิ่งเว็บไซด์ใหม่ บวกกับการรักษาลูกค้าเดิมไว้ รวมถึงวางแผนการดำเนินธุรกิจแบบระยะสั้น มั่นใจว่าเป้า 10 ล้านบาทในปีก่อน น่าจะทำได้ในปีนี้”
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ปีนี้นิว มีเดียประเภทสื่ออินเตอร์เน็ต การเติบโตขึ้นอยู่กับการที่ลูกค้าจะหันมาให้ความสนใจใช้สื่อนี้เพื่อนการตลาดมากแค่ไหน ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับรัฐบาลด้วย โดยมองว่าหากรัฐบาลสามารถทำงานได้อย่างน้อยครึ่งปี ไม่มีเรื่องม๊อบเข้ามาอีกครั้ง อินเตอร์เน็ตก็น่าจะมีแนวโน้มการเติบโตสูง เพราะในความเป็นจริงแล้ว อินเตอร์เน็ตถือเป็นสื่อราคาถูก ช่วยลดคอสให้ลูกค้า เพื่อใช้ในการทำตลาดได้เป็นอย่างดี
