ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ดีลเลอร์โตโยต้าสงขลา-สตูลมั่นใจราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยางพาราจะเป็นปัจจัยหลักในการฝ่าวิกฤตการเมือง ปลุกยอดขายรถยนต์กระบะแดนสะตอคึกคัก ฟุ้งยอดขายปีนี้โตกว่าปีก่อนแน่ โดยตั้งเป้า 4,200 คัน/ปี
นายจิรพล นาถประดิษฐ์ ผู้จัดการทั่วไป สายงานบริหารงานขายและการตลาด บริษัท โตโยต้าสงขลา จำกัด ผู้จำหน่ายโตโยต้า เปิดเผยว่า แม้ว่าตลาดรถยนต์กระบะในปีนี้มีการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยคาดว่าทั้งตลาดมียอดราว 20,000 คัน/ปี โตกว่าปีก่อน 10% โดยโตโยต้าสงขลา ซึ่งดูแลพื้นที่สงขลา-สตูลมีการตั้งเป้าไว้ที่ 4,200 คัน จนถึงขณะนี้มีการเติบโตของยอดขายราว 20% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
“ตลาดของเราปีนี้ดีในช่วงต้นปี แต่ไตรมาส 2 และปลายปีชะลอตัว ตลาดรวมมียอดขายเฉลี่ย 2,000 คัน/เดือน ซึ่งโตโยต้าสงขลาสามารถชิงมาเกตแชร์ ราว 330 คัน/ เดือน ซึ่งกลุ่มหลักยังคงเป็นเกษตรกรชาวสวน ที่ต้องการใช้งานรถยนต์แบบอเนกประสงค์ ทั้งการนั่งโดยสารและบรรทุกผลผลิตทางการเกษตร” นายจิรพล กล่าวต่อและว่า
ล่าสุด ได้เปิดตัวโตโยต้าสมาร์ท แค็บ สามารถเปิดประตูแค็บได้ ทำให้การใช้งานสะดวกและมีพื้นที่กว้างขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาโปรดักต์ให้อเนกประสงค์และคุ้มค่า และรถยนต์กระบะยังมีศักยภาพในการชิงมาร์เกตแชร์ตลาดสูง อีกทั้งเหมาะสมกับภูมิประเทศ โดย 3 วันแรกที่เปิดตัวนั้นมียอดขายที่ 100 คัน ซึ่งแม้ว่าจะเปิดตัวช้ากว่าฟอร์ดและมาสด้าแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค
นายจิรพล ยังกล่าวต่อด้วยว่า กลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ ได้เน้นการทำกิจกรรมและประชาสัมพันธ์การตลาดถี่ขึ้น ทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่แรงขึ้น กิจกรรมเลี้ยงสังสรรค์ เป็นต้น เพื่อรักษาลูกค้าตลอดจนเข้าหาลูกค้าในพื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มงบในส่วนนี้ขึ้นเป็น 30% รับปีแห่งการแข่งขันที่รุนแรง โดยโตโยต้าสงขลายังคงเจาะกลุ่มเกษตรกร ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหลัก
“ผลของการโหมทำการตลาดและรุกเข้าพื้นที่ รวมถึงการปรับปรุงสถานที่และบริการใหม่ ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าดีมาก โดยเรามีศูนย์บริการครบวงจร 30 เมตรที่เปิดบริการทุกวันถึง 4 ทุ่ม และกำลังปรับปรุงโชว์รูมสำนักงานใหญ่ให้ทันสมัยขึ้นอีกด้วย ซึ่งแต่ละวันจะมีรถยนต์เข้ารับบริการตั้งแต่ซ่อม เคาะ พ่นสีราว 80 คัน/วัน” นายจิรพล กล่าวต่อและว่า
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในปีหน้าก็ยังมีศักยภาพสูงที่จะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในประเทศไทยปริมาณรถยนต์ต่อประชากรยังมีสัดส่วนน้อย และแม้ว่าปัญหาทางการเมืองยังไม่คลี่คลาย แต่โตโยต้า สงขลายังคงเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.สงขลา ซึ่งตราบใดที่ราคาสินค้าเกษตรสูง รถยนต์ก็ยังเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิตประจำวัน ทั้งการเดินทางและการใช้งาน
นายจิรพล นาถประดิษฐ์ ผู้จัดการทั่วไป สายงานบริหารงานขายและการตลาด บริษัท โตโยต้าสงขลา จำกัด ผู้จำหน่ายโตโยต้า เปิดเผยว่า แม้ว่าตลาดรถยนต์กระบะในปีนี้มีการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยคาดว่าทั้งตลาดมียอดราว 20,000 คัน/ปี โตกว่าปีก่อน 10% โดยโตโยต้าสงขลา ซึ่งดูแลพื้นที่สงขลา-สตูลมีการตั้งเป้าไว้ที่ 4,200 คัน จนถึงขณะนี้มีการเติบโตของยอดขายราว 20% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
“ตลาดของเราปีนี้ดีในช่วงต้นปี แต่ไตรมาส 2 และปลายปีชะลอตัว ตลาดรวมมียอดขายเฉลี่ย 2,000 คัน/เดือน ซึ่งโตโยต้าสงขลาสามารถชิงมาเกตแชร์ ราว 330 คัน/ เดือน ซึ่งกลุ่มหลักยังคงเป็นเกษตรกรชาวสวน ที่ต้องการใช้งานรถยนต์แบบอเนกประสงค์ ทั้งการนั่งโดยสารและบรรทุกผลผลิตทางการเกษตร” นายจิรพล กล่าวต่อและว่า
ล่าสุด ได้เปิดตัวโตโยต้าสมาร์ท แค็บ สามารถเปิดประตูแค็บได้ ทำให้การใช้งานสะดวกและมีพื้นที่กว้างขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาโปรดักต์ให้อเนกประสงค์และคุ้มค่า และรถยนต์กระบะยังมีศักยภาพในการชิงมาร์เกตแชร์ตลาดสูง อีกทั้งเหมาะสมกับภูมิประเทศ โดย 3 วันแรกที่เปิดตัวนั้นมียอดขายที่ 100 คัน ซึ่งแม้ว่าจะเปิดตัวช้ากว่าฟอร์ดและมาสด้าแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค
นายจิรพล ยังกล่าวต่อด้วยว่า กลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ ได้เน้นการทำกิจกรรมและประชาสัมพันธ์การตลาดถี่ขึ้น ทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่แรงขึ้น กิจกรรมเลี้ยงสังสรรค์ เป็นต้น เพื่อรักษาลูกค้าตลอดจนเข้าหาลูกค้าในพื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มงบในส่วนนี้ขึ้นเป็น 30% รับปีแห่งการแข่งขันที่รุนแรง โดยโตโยต้าสงขลายังคงเจาะกลุ่มเกษตรกร ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหลัก
“ผลของการโหมทำการตลาดและรุกเข้าพื้นที่ รวมถึงการปรับปรุงสถานที่และบริการใหม่ ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าดีมาก โดยเรามีศูนย์บริการครบวงจร 30 เมตรที่เปิดบริการทุกวันถึง 4 ทุ่ม และกำลังปรับปรุงโชว์รูมสำนักงานใหญ่ให้ทันสมัยขึ้นอีกด้วย ซึ่งแต่ละวันจะมีรถยนต์เข้ารับบริการตั้งแต่ซ่อม เคาะ พ่นสีราว 80 คัน/วัน” นายจิรพล กล่าวต่อและว่า
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในปีหน้าก็ยังมีศักยภาพสูงที่จะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในประเทศไทยปริมาณรถยนต์ต่อประชากรยังมีสัดส่วนน้อย และแม้ว่าปัญหาทางการเมืองยังไม่คลี่คลาย แต่โตโยต้า สงขลายังคงเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.สงขลา ซึ่งตราบใดที่ราคาสินค้าเกษตรสูง รถยนต์ก็ยังเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิตประจำวัน ทั้งการเดินทางและการใช้งาน
