"มาร์ค"ระบุไม่ทราบข่าว"แม้ว"วิจารณ์รัฐบาล มีกองทัพ ศาล และองคมนตรีหนุนหลัง ไม่รู้ว่า ใครเป็น โดเรมอน–โนบิตะ ให้ถามเจ้าตัวเอง ด้าน"สุเทพ"ระบุแม้วยิ่งดิ้น ยิ่งเสื่อม ประกาศเลิกล้มแผนเจรจา "ชวน" กรีดโจมตี 3 สถาบันเพราะทำใจไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง พร้อมปลุกกระแสประชาชนปกป้องสถาบันศาล "อนุพงษ์"ไม่สนถูกหยามเป็นหุ่นเชิด ยันกองทัพทำเพื่อชาติ ขณะที่พรรคเพื่อไทย ยอมรับ"แม้ว" ตัดท่อน้ำเลี้ยง กระทบพรรค
ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (23ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้วยเที่ยวบิน A-319CJ โดยจะกลับมาถึงประเทศไทยเวลา 22.10 น.
ก่อนเดินทางนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ถือเป็นการเดินทางไปเยือนต่างประเทศครั้งแรกของตน เพื่อยืนยันความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านว่า เรามีโครงการที่ร่วมมืออยู่หลายโครงการ ซึ่งหลายโครงการจะเป็นรูปธรรม สามารถผลักดันได้ค่อนข้างมากในปีนี้ ทั้งในส่วนของการรับซื้อไฟฟ้า การเริ่มต้นของรถไฟ ถนน รวมถึงสนามกีฬา ดังนั้นการเดินทางของตนในครั้งนี้ น่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการร่วมมือในกรอบของอาเซียน คงจะได้รับความร่วมมือจากประเทศลาวเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการหารือเรื่องม้ง ลาวอพยพ ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดูแลกลุ่มคนดังกล่าวได้มีการวางกรอบอยู่แล้ว ภายใต้คณะกรรมกราที่เรียกว่า จีบีซี และที่ผ่านมาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องโรฮิงญา ก็มีกลไกที่ดูแลอยู่ และได้มีการส่งกลับแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิม์อาซาฮี ของประเทศญี่ปุ่นโดยระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ได้รับการสนับสนุนจาก ศาล คณะองคมนตรี และกองทัพในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ติดตามข่าวนี้ แต่คนที่นี่จะทราบข้อเท็จจริงทุกอย่างในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงอะไร รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏหมาย
เมื่อถามว่า การออกมาของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการชักธงรบกับรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิธิ์ กล่าว่าตนยังไม่ได้ติดตามข่าวจึงไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ พูดอะไรบ้าง ส่วนกระบวนการตามกฏหมายของเราเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าประเทศไทยต้องบริหารโดย โดเรมอน ไม่ใช่ โนบิตะ คิดว่าหมายความว่าอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าว่าไม่ทราบ ให้ไปถามพ.ต.ท.ทักษิณว่า แปลว่าอะไร
" คิดว่าวันนี้ผมเดินหน้าทำงานในส่วนของรัฐบาล และพร้อมรับการตรวจสอบ แต่ใครจะมีความเห็นทางการเมืองอย่างไร ก็แสดงออกมาได้ ผมคงไม่ดึงรัฐบาลเข้าไปขัดแย้งอะไรด้วย เพราะกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณมีประเด็นเดียวคือ รัฐบาลยืนยันให้ความเป็นธรรมกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องกลับมาอยู่ภายใต้กฏหมายไทยเท่านั้น" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ต่อข้อถามว่าถ้าอีกฝ่ายไม่นิ่ง รัฐบาลจะทำงานได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรามีหน้าที่ ก็ทำหน้าที่ของเรา เมื่อถามว่าส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้ถอดถอนนายอภิสิทธิ์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างถ้าเป็นช่องทางตามรัฐธรรมนูญก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ รัฐบาลพร้อมรับการตรวจสอบ ส่วนจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ ก็เป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย ทุกคนทั้งในและต่างประเทศต้องเข้าใจว่ากระบวนการประชาธิปไตย รัฐบาลต้องถูกตรวจสอบ มีกลไกที่จะถอดถอนได้ แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าจะถอดถอนด้วยข้อหาอะไรก็ได้ ตนมั่นใจว่าไม่มีอะไร
"สุเทพ"ลั่นยุติเจรจา"นช.แม้ว"
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งพูดไม่ดี ก็จะเสียหายกับตัวเขาเอง การที่พูดโยงว่า ทั้งสถาบันองคมนตรี กองทัพและศาล อยู่เบื้องหลัง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดผิดหลายเรื่อง และเรื่องนี้ยิ่งพูดมากพ.ต.ท.ทักษิณจะเสื่อมไปเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องตรวจสอบดูก่อนว่า ในสิ่งที่เขาพูดมานั้น มีประเด็นใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย รวมทั้งสื่อที่เอาคำพูดเขาโฆษณาด้วย ต้องดูกันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไร เพราะล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธว่าไม่ได้รับการติดต่อจากนายสุเทพเลย รองนายกฯกล่าวว่า "ก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาปฏิเสธ ผมก็ไม่เจรจา ผมก็เสนอทางเลือกให้เขาเสมอ เมื่อเขาปฏิเสธทุกครั้ง เขาก็เห็นบทเรียนแล้วว่าทุกครั้งที่เขาปฏิเสธข้อเสนอของผม เขาก็พบกับทางอย่างอื่น"
เมื่อถามย้ำว่าต่อจากนี้ไปจะยกเลิกการติดต่อเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า "ผมได้พยายามแล้ว และติดต่อผ่านช่องทางที่คิดว่าไปถึงเขาแล้ว ถ้าเขาปฏิเสธ ผมก็ไม่เดินหน้าต่อ"
ทั้งนี้ การคเลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ จะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องไปถามพวก พ.ต.ท.ทักษิณ โดยส่วนตัวไม่ได้ไปวิเคราะห์อะไร ไม่ติดใจ ไม่ให้ความสำคัญ
เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ แล้วทำไมจึงพายามเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาพูดจาในวันนี้ แต่ที่พยายามเจรจาที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าถ้าเขาสามารถเปลี่ยนความคิดได้ เปลี่ยนท่าทีได้ จะทำให้บ้านเมืองไปได้ดี
ต้องช่วยกันปกป้องสถาบันศาล
นายชวน หลีกภัย ประธานที่สภาปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียดของคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่คิดว่าสถาบันศาลได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรงที่สุด มีคำวินิจฉัยของศาลตุลาการรัฐธรรมนูญอยู่อย่างหนึ่งที่น่าสนใจในคดีการยุบพรรคว่า บางกรณีนักการเมืองทำผิดจนเคยชิน เมื่อบ้านเมืองจะบังคับใช้กฎหมายอย่างกวดขัน คนเหล่านั้นก็จะมีปัญหา เพราะเคยชินกับการทำผิดมาก่อน
นายชวน กล่าวว่าเราต้องช่วยกันปกป้องสถาบันศาล ซึ่งประชาชนสามารถเชื่อถือวงการศาลไทยได้ และศาลจะไม่เป็นเครื่องมือให้กับพรรคการเมืองใด แต่จะเป็นเครื่องมือของความยุติธรรม เมื่อใครก็ตามละเมิดกฎหมาย ก็จำเป็นต้องรับผล สิ่งนี้คือสิ่งที่นักการเมืองบางคนรับไมได้ เพราะตัวเองเคยทำผิดมาตลอด และเมื่อการที่พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล หากไม่ชอบธรรมก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่เมื่อเสียงส่วนหนึ่งเคยสนับสนุนรัฐบาลแล้วเปลี่ยนมาสนับสนุนฝ่ายค้านให้มาเป็นรัฐบาล เป้าหมายของการมาสนับสนุน เพื่อต้องการแก้วิกฤตของบ้านเมือง
นายชวน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสมัยของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ เป็นช่วงที่บ้านเมืองแทบจะไม่มีหลักอะไรเลย เหมือนไม่มีรัฐบาลปกครองแล้ว และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี พรรคประชาธิปัตย์ จึงมาด้วยความชอบธรรม ซึ่งอาจทำให้อีกฝ่ายตั้งหลักไม่ทัน ไม่นึกว่าวันหนึ่งสถานภาพจะเปลี่ยนไปเร็ว จึงมีปัญหาเกิดอารมณ์ความรู้สึก โกรธแค้นเกิดขึ้นมาก มีปฏิกิริยาทั้งใน และนอกสภาเกิดขึ้น ตนอยากปกป้องสถาบันทั้งหลายที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องระวังเพราะประเทศชาติต้องมีสถาบันเหล่านี้อีกต่อไป อย่าทำอะไรให้สถาบันที่ดีงามเหล่านี้ให้เสียหาย
อนุพงษ์ไม่สนถูกหยามเป็นหุ่นเชิด
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สื่อคงเห็นแล้วว่าการตัดสินใจของตนทุกอย่างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยึดถืออยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ และความถูกต้อง ไม่เคยที่จะทำเพื่อใคร และก็มีแนวทางแบบนี้มาโดยตลอด ตนมั่นใจว่าทำด้วยความระลึกถึงผลประโยชน์ของชาติ และทำตามบทบาทหน้าที่ เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตีว่าเป็นหุ่นเชิดพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพียงสั้นว่า"ไม่เป็นไร"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องกองทัพมีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาลว่า "ไม่มีหรอกครับ เรื่องเก่าแล้ว ทำไมย้อนไปถามอีก"
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นเป้าโจมตีโดยพ.ต.ท.ทักษิณ ตอกย้ำว่า เสียใจที่ไว้ใจแต่ถูกพล.อ.อนุพงษ์หักหลัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า"ไม่ทราบรายละเอียด แต่ผมว่าท่านผู้บัญชาการทหารบก ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ประเทศชาติดีอยู่แล้ว และก็เป็นหลักให้กับประเทศชาติ และประชาชน ผมมั่นใจเช่นนั้น และท่านก็ทำอย่างนั้นมาตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งมา ท่านมีความอดทน"
เมื่อถามว่าห่วงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีที่ถูกโจมตีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่เลยไปแล้ว ไม่ขอตอบ"
ด้านพ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงต้องการรักษาพื้นที่ในสื่อ เพื่อรักษาสภาพในการเป็นข่าวไว้ ในส่วนที่พูดพาดพิงกองทัพยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าท่านพูดมาท่านก็ต้องมีหลักฐานที่แสดงด้วย การใช้ความรู้สึกไม่น่าจะถูกต้อง กองทัพก็ยืนยันว่าการดำเนินการในส่วนของรัฐบาลก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่ส่วนที่จะไปเกี่ยวข้องตรงนั้นได้ ที่ผ่านมาประชาชนทราบดีว่ากองทัพยืนอยู่ในจุดที่ถูกต้อง กองทัพก็พยายามชี้แจงอยู่แล้วว่า บทบาทหน้าที่ของกองทัพเป็นอย่างไร ก็ต้องชี้แจงต่อไปให้เข้าใจว่ากองทัพมีจุดยืนที่ชัดเจนในการไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ก็ต้องทำตรงนี้ให้ชัดเจนต่อไปเรื่อยๆ ให้ประชาชนรับทราบจุดยืนว่าเรายืนอยู่ในลักษณะนี้ต่อไป
"ไม่มีความจำเป็นต้องตอบโต้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะ ประชาชนทราบดีว่ากองทัพอยู่จุดไหน ซึ่งเราก็ยืนอยู่ข้างประชาชนอยู่แล้ว การออกมาพูดของอดีตนายกฯ ต้องการสร้างสถานะให้เห็นว่าตัวท่านถูกรังแกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงพี่น้องประชาชนทราบดีว่า กองทัพพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศยังคงอยู่โดยมีความมั่นคง ในภาคของรัฐบาลเองก็เป็นเรื่องของการเมืองที่ดำเนินการกันไป อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าณ เวลานี้ โดยการใช้สื่อของท่าน อาจมีส่วนที่ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือกองทัพ เป็นกระบวนการหนึ่งในการทำให้ภาพของกองทัพ หรือ ภาพของรัฐบาลในสายตาต่างประเทศ ขาดความเชื่อมั่น ซึ่งตรงนี้เราก็เข้าใจอยู่ ในส่วนของผช.ทูตทหารต่างประเทศ ก็คงทำหน้าที่ในการชี้แจงให้ทหารของมิตรประเทศให้ได้ทราบอยู่แล้ว ในภาคพลเรือน ท่านนายกฯ ก็มีแนวทางชี้แจงอยู่แล้ว" โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
ชี้ชัด"แม้ว"อยู่เบื้องหลังแก๊งเสื้อแดง
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ มีนัยทางการเมืองมาก และอาจทำให้สถานการณ์ซึ่งทำท่าว่าจะดีขึ้น หรือสงบลงอาจจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นได้ เพราะเป็นการกล่าวหาสถาบันฯ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันองคมนตรี ศาล หรือ สถาบันอื่น
เมื่อถามว่าจะต้องทำความเข้าใจกับสื่อต่างชาติเป็นพิเศษหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ความจริงนายกฯ ก็พบกับสื่อต่างชาติเยอะ แต่อย่าไปโทษสื่อต่างชาติเลย โทษคนที่เป็นคนไทยของเราดีกว่า
"คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่าท่านทำอะไรไป และหวังผลอะไร เพราะฉะนั้นท่านเองควรทำในสิ่งที่พูดมาตลอดว่า เป็นคนรักชาติบ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองมีการแก้ปัญหาอย่างที่ท่านพูดแล้วบ้านเมืองคงจะดีขึ้น เพราะลำพังการเคลื่อนไหวของ กลุ่มผู้จัดรายการความจริงวันนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าหากไม่มีการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญที่อยู่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ หรือตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง"
รับ"แม้ว"ตัดท่อมีผลกระทบพรรค
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเลิกสนับสนุนเงินให้กับพรรคเพื่อไทย ว่า ยอมรับว่าการประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณ มีผลกระทบต่อพรรคบ้าง เพราะพรรคเพื่อไทยเกิดจากพรรคไทยรักไทย มาเป็นพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีกระแสของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวสร้างพรรค เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณหยุด เราก็ต้องสร้างพรรคให้เป็นปึกแผ่นให้ได้ แต่ยอมรับว่าเหนื่อย เพราะบุคคลากรถูกตัดสิทธิไปมาก
ด้านนายพายัพ ชินวัตร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นน้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ จะหยุดให้การสนับสนุนทางการเงินให้กับพรรคว่า คงไม่ใช่เป็นอย่างนั้น เพราะหากพรรคเพื่อไทย เปรียบต้นมะม่วงที่เวลาโตแล้วไม่ต้องใช้น้ำก็โตด้วยตัวของมันเองได้ แม้หากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงมาก มันก็ยังออกผลได้ หรือยิ่งไม่มีน้ำ มันก็ต้องยิ่งออกผลเร็วกว่าเดิม วันนี้ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ยังแข็งแรงอยู่ไม่ ต้องห่วง ความจริงแล้วการเมืองไม่ต้องใช้ตังค์เท่าไร
ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (23ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้วยเที่ยวบิน A-319CJ โดยจะกลับมาถึงประเทศไทยเวลา 22.10 น.
ก่อนเดินทางนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ถือเป็นการเดินทางไปเยือนต่างประเทศครั้งแรกของตน เพื่อยืนยันความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านว่า เรามีโครงการที่ร่วมมืออยู่หลายโครงการ ซึ่งหลายโครงการจะเป็นรูปธรรม สามารถผลักดันได้ค่อนข้างมากในปีนี้ ทั้งในส่วนของการรับซื้อไฟฟ้า การเริ่มต้นของรถไฟ ถนน รวมถึงสนามกีฬา ดังนั้นการเดินทางของตนในครั้งนี้ น่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการร่วมมือในกรอบของอาเซียน คงจะได้รับความร่วมมือจากประเทศลาวเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการหารือเรื่องม้ง ลาวอพยพ ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดูแลกลุ่มคนดังกล่าวได้มีการวางกรอบอยู่แล้ว ภายใต้คณะกรรมกราที่เรียกว่า จีบีซี และที่ผ่านมาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องโรฮิงญา ก็มีกลไกที่ดูแลอยู่ และได้มีการส่งกลับแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิม์อาซาฮี ของประเทศญี่ปุ่นโดยระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ได้รับการสนับสนุนจาก ศาล คณะองคมนตรี และกองทัพในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ติดตามข่าวนี้ แต่คนที่นี่จะทราบข้อเท็จจริงทุกอย่างในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงอะไร รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏหมาย
เมื่อถามว่า การออกมาของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการชักธงรบกับรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิธิ์ กล่าว่าตนยังไม่ได้ติดตามข่าวจึงไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ พูดอะไรบ้าง ส่วนกระบวนการตามกฏหมายของเราเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าประเทศไทยต้องบริหารโดย โดเรมอน ไม่ใช่ โนบิตะ คิดว่าหมายความว่าอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าว่าไม่ทราบ ให้ไปถามพ.ต.ท.ทักษิณว่า แปลว่าอะไร
" คิดว่าวันนี้ผมเดินหน้าทำงานในส่วนของรัฐบาล และพร้อมรับการตรวจสอบ แต่ใครจะมีความเห็นทางการเมืองอย่างไร ก็แสดงออกมาได้ ผมคงไม่ดึงรัฐบาลเข้าไปขัดแย้งอะไรด้วย เพราะกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณมีประเด็นเดียวคือ รัฐบาลยืนยันให้ความเป็นธรรมกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องกลับมาอยู่ภายใต้กฏหมายไทยเท่านั้น" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ต่อข้อถามว่าถ้าอีกฝ่ายไม่นิ่ง รัฐบาลจะทำงานได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรามีหน้าที่ ก็ทำหน้าที่ของเรา เมื่อถามว่าส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้ถอดถอนนายอภิสิทธิ์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างถ้าเป็นช่องทางตามรัฐธรรมนูญก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ รัฐบาลพร้อมรับการตรวจสอบ ส่วนจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ ก็เป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย ทุกคนทั้งในและต่างประเทศต้องเข้าใจว่ากระบวนการประชาธิปไตย รัฐบาลต้องถูกตรวจสอบ มีกลไกที่จะถอดถอนได้ แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าจะถอดถอนด้วยข้อหาอะไรก็ได้ ตนมั่นใจว่าไม่มีอะไร
"สุเทพ"ลั่นยุติเจรจา"นช.แม้ว"
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งพูดไม่ดี ก็จะเสียหายกับตัวเขาเอง การที่พูดโยงว่า ทั้งสถาบันองคมนตรี กองทัพและศาล อยู่เบื้องหลัง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดผิดหลายเรื่อง และเรื่องนี้ยิ่งพูดมากพ.ต.ท.ทักษิณจะเสื่อมไปเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องตรวจสอบดูก่อนว่า ในสิ่งที่เขาพูดมานั้น มีประเด็นใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย รวมทั้งสื่อที่เอาคำพูดเขาโฆษณาด้วย ต้องดูกันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไร เพราะล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธว่าไม่ได้รับการติดต่อจากนายสุเทพเลย รองนายกฯกล่าวว่า "ก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาปฏิเสธ ผมก็ไม่เจรจา ผมก็เสนอทางเลือกให้เขาเสมอ เมื่อเขาปฏิเสธทุกครั้ง เขาก็เห็นบทเรียนแล้วว่าทุกครั้งที่เขาปฏิเสธข้อเสนอของผม เขาก็พบกับทางอย่างอื่น"
เมื่อถามย้ำว่าต่อจากนี้ไปจะยกเลิกการติดต่อเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า "ผมได้พยายามแล้ว และติดต่อผ่านช่องทางที่คิดว่าไปถึงเขาแล้ว ถ้าเขาปฏิเสธ ผมก็ไม่เดินหน้าต่อ"
ทั้งนี้ การคเลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ จะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องไปถามพวก พ.ต.ท.ทักษิณ โดยส่วนตัวไม่ได้ไปวิเคราะห์อะไร ไม่ติดใจ ไม่ให้ความสำคัญ
เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ แล้วทำไมจึงพายามเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาพูดจาในวันนี้ แต่ที่พยายามเจรจาที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าถ้าเขาสามารถเปลี่ยนความคิดได้ เปลี่ยนท่าทีได้ จะทำให้บ้านเมืองไปได้ดี
ต้องช่วยกันปกป้องสถาบันศาล
นายชวน หลีกภัย ประธานที่สภาปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียดของคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่คิดว่าสถาบันศาลได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรงที่สุด มีคำวินิจฉัยของศาลตุลาการรัฐธรรมนูญอยู่อย่างหนึ่งที่น่าสนใจในคดีการยุบพรรคว่า บางกรณีนักการเมืองทำผิดจนเคยชิน เมื่อบ้านเมืองจะบังคับใช้กฎหมายอย่างกวดขัน คนเหล่านั้นก็จะมีปัญหา เพราะเคยชินกับการทำผิดมาก่อน
นายชวน กล่าวว่าเราต้องช่วยกันปกป้องสถาบันศาล ซึ่งประชาชนสามารถเชื่อถือวงการศาลไทยได้ และศาลจะไม่เป็นเครื่องมือให้กับพรรคการเมืองใด แต่จะเป็นเครื่องมือของความยุติธรรม เมื่อใครก็ตามละเมิดกฎหมาย ก็จำเป็นต้องรับผล สิ่งนี้คือสิ่งที่นักการเมืองบางคนรับไมได้ เพราะตัวเองเคยทำผิดมาตลอด และเมื่อการที่พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล หากไม่ชอบธรรมก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่เมื่อเสียงส่วนหนึ่งเคยสนับสนุนรัฐบาลแล้วเปลี่ยนมาสนับสนุนฝ่ายค้านให้มาเป็นรัฐบาล เป้าหมายของการมาสนับสนุน เพื่อต้องการแก้วิกฤตของบ้านเมือง
นายชวน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสมัยของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ เป็นช่วงที่บ้านเมืองแทบจะไม่มีหลักอะไรเลย เหมือนไม่มีรัฐบาลปกครองแล้ว และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี พรรคประชาธิปัตย์ จึงมาด้วยความชอบธรรม ซึ่งอาจทำให้อีกฝ่ายตั้งหลักไม่ทัน ไม่นึกว่าวันหนึ่งสถานภาพจะเปลี่ยนไปเร็ว จึงมีปัญหาเกิดอารมณ์ความรู้สึก โกรธแค้นเกิดขึ้นมาก มีปฏิกิริยาทั้งใน และนอกสภาเกิดขึ้น ตนอยากปกป้องสถาบันทั้งหลายที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องระวังเพราะประเทศชาติต้องมีสถาบันเหล่านี้อีกต่อไป อย่าทำอะไรให้สถาบันที่ดีงามเหล่านี้ให้เสียหาย
อนุพงษ์ไม่สนถูกหยามเป็นหุ่นเชิด
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สื่อคงเห็นแล้วว่าการตัดสินใจของตนทุกอย่างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยึดถืออยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ และความถูกต้อง ไม่เคยที่จะทำเพื่อใคร และก็มีแนวทางแบบนี้มาโดยตลอด ตนมั่นใจว่าทำด้วยความระลึกถึงผลประโยชน์ของชาติ และทำตามบทบาทหน้าที่ เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตีว่าเป็นหุ่นเชิดพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพียงสั้นว่า"ไม่เป็นไร"
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องกองทัพมีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาลว่า "ไม่มีหรอกครับ เรื่องเก่าแล้ว ทำไมย้อนไปถามอีก"
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นเป้าโจมตีโดยพ.ต.ท.ทักษิณ ตอกย้ำว่า เสียใจที่ไว้ใจแต่ถูกพล.อ.อนุพงษ์หักหลัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า"ไม่ทราบรายละเอียด แต่ผมว่าท่านผู้บัญชาการทหารบก ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ประเทศชาติดีอยู่แล้ว และก็เป็นหลักให้กับประเทศชาติ และประชาชน ผมมั่นใจเช่นนั้น และท่านก็ทำอย่างนั้นมาตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งมา ท่านมีความอดทน"
เมื่อถามว่าห่วงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีที่ถูกโจมตีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่เลยไปแล้ว ไม่ขอตอบ"
ด้านพ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงต้องการรักษาพื้นที่ในสื่อ เพื่อรักษาสภาพในการเป็นข่าวไว้ ในส่วนที่พูดพาดพิงกองทัพยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าท่านพูดมาท่านก็ต้องมีหลักฐานที่แสดงด้วย การใช้ความรู้สึกไม่น่าจะถูกต้อง กองทัพก็ยืนยันว่าการดำเนินการในส่วนของรัฐบาลก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่ส่วนที่จะไปเกี่ยวข้องตรงนั้นได้ ที่ผ่านมาประชาชนทราบดีว่ากองทัพยืนอยู่ในจุดที่ถูกต้อง กองทัพก็พยายามชี้แจงอยู่แล้วว่า บทบาทหน้าที่ของกองทัพเป็นอย่างไร ก็ต้องชี้แจงต่อไปให้เข้าใจว่ากองทัพมีจุดยืนที่ชัดเจนในการไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ก็ต้องทำตรงนี้ให้ชัดเจนต่อไปเรื่อยๆ ให้ประชาชนรับทราบจุดยืนว่าเรายืนอยู่ในลักษณะนี้ต่อไป
"ไม่มีความจำเป็นต้องตอบโต้ในเรื่องเหล่านี้ เพราะ ประชาชนทราบดีว่ากองทัพอยู่จุดไหน ซึ่งเราก็ยืนอยู่ข้างประชาชนอยู่แล้ว การออกมาพูดของอดีตนายกฯ ต้องการสร้างสถานะให้เห็นว่าตัวท่านถูกรังแกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงพี่น้องประชาชนทราบดีว่า กองทัพพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศยังคงอยู่โดยมีความมั่นคง ในภาคของรัฐบาลเองก็เป็นเรื่องของการเมืองที่ดำเนินการกันไป อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าณ เวลานี้ โดยการใช้สื่อของท่าน อาจมีส่วนที่ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือกองทัพ เป็นกระบวนการหนึ่งในการทำให้ภาพของกองทัพ หรือ ภาพของรัฐบาลในสายตาต่างประเทศ ขาดความเชื่อมั่น ซึ่งตรงนี้เราก็เข้าใจอยู่ ในส่วนของผช.ทูตทหารต่างประเทศ ก็คงทำหน้าที่ในการชี้แจงให้ทหารของมิตรประเทศให้ได้ทราบอยู่แล้ว ในภาคพลเรือน ท่านนายกฯ ก็มีแนวทางชี้แจงอยู่แล้ว" โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
ชี้ชัด"แม้ว"อยู่เบื้องหลังแก๊งเสื้อแดง
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ มีนัยทางการเมืองมาก และอาจทำให้สถานการณ์ซึ่งทำท่าว่าจะดีขึ้น หรือสงบลงอาจจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นได้ เพราะเป็นการกล่าวหาสถาบันฯ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันองคมนตรี ศาล หรือ สถาบันอื่น
เมื่อถามว่าจะต้องทำความเข้าใจกับสื่อต่างชาติเป็นพิเศษหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ความจริงนายกฯ ก็พบกับสื่อต่างชาติเยอะ แต่อย่าไปโทษสื่อต่างชาติเลย โทษคนที่เป็นคนไทยของเราดีกว่า
"คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่าท่านทำอะไรไป และหวังผลอะไร เพราะฉะนั้นท่านเองควรทำในสิ่งที่พูดมาตลอดว่า เป็นคนรักชาติบ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองมีการแก้ปัญหาอย่างที่ท่านพูดแล้วบ้านเมืองคงจะดีขึ้น เพราะลำพังการเคลื่อนไหวของ กลุ่มผู้จัดรายการความจริงวันนี้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าหากไม่มีการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญที่อยู่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ หรือตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง"
รับ"แม้ว"ตัดท่อมีผลกระทบพรรค
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศเลิกสนับสนุนเงินให้กับพรรคเพื่อไทย ว่า ยอมรับว่าการประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณ มีผลกระทบต่อพรรคบ้าง เพราะพรรคเพื่อไทยเกิดจากพรรคไทยรักไทย มาเป็นพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีกระแสของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวสร้างพรรค เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณหยุด เราก็ต้องสร้างพรรคให้เป็นปึกแผ่นให้ได้ แต่ยอมรับว่าเหนื่อย เพราะบุคคลากรถูกตัดสิทธิไปมาก
ด้านนายพายัพ ชินวัตร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นน้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ จะหยุดให้การสนับสนุนทางการเงินให้กับพรรคว่า คงไม่ใช่เป็นอย่างนั้น เพราะหากพรรคเพื่อไทย เปรียบต้นมะม่วงที่เวลาโตแล้วไม่ต้องใช้น้ำก็โตด้วยตัวของมันเองได้ แม้หากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงมาก มันก็ยังออกผลได้ หรือยิ่งไม่มีน้ำ มันก็ต้องยิ่งออกผลเร็วกว่าเดิม วันนี้ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ยังแข็งแรงอยู่ไม่ ต้องห่วง ความจริงแล้วการเมืองไม่ต้องใช้ตังค์เท่าไร
