“มาร์ค” ไม่สน “แม้ว” แฉเบื้องหลังจัดตั้ง รบ. เชื่อไม่กระทบ ปชช.รู้ดี

“อภิสิทธิ์” เยือน ลาวเพื่อประชับความสัมพันธ์ เมิน “แม้ว” แฉเบื้องหลังจัดตั้ง รบ.ที่อ้างมีหลายฝ่ายหนุนหลัง มั่นใจไม่มีผลกระทบต่อ รบ.และไม่จำต้องชี้แจง เชื่อ ปชช.รู้ข้อเท็จจริงทุกอย่าง ขณะเดียวกันยันสภาล่มไม่ใช่เรื่องกงกำกงเกวียน แต่เป็นความรับผิดชอบของ รบ.ที่ต้องแก้ไข พร้อมกำชับ ส.ส.ห้ามโดดร่ม

วันนี้ (23 ม.ค.) ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) เมื่อเวลา 09.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่าเป็นเกาหลากับนายกฯได้เดินทางไปด้วย ด้วยเที่ยวบิน A-319CJ ออกตัวเวลา 09.30 น. โดยจะกลับมาที่ประเทศไทยเวลา 22.10 น.

โดยก่อนเดินทาง นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ถือเป็นการเดินทางไปเยือนต่างประเทศครั้งแรกของตนเพื่อยืนยันความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านว่า เรามีโครงการที่ร่วมมืออยู่ หลายโครงการ ซึ่งหลายโครงการจะเป็นรูปธรรมสามารถผลักดันได้ค่อนข้างมากในปีนี้ ทั้งในส่วนของการรับซื้อไฟฟ้า การเริ่มต้นของรถไฟ ถนน รวมถึงสนามกีฬา ดังนั้นการเดินทางของตนในวันนี้ น่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้มีมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการร่วมมือในกรอบของอาเซียนคงจะได้รับความร่วมมือจากประเทศลาวเป็นอย่างดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการหารือเรื่องม้ง ลาวอพยพ ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดูแลกลุ่มคนดังกล่าวได้มีการวางกรอบอยู่แล้ว ภายใต้คณะกรรมกราที่เรียกว่า จีบีซี และที่ผ่านมาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องโรฮิงญา ก็มีกลไกที่ดูแลอยู่ และได้มีการส่งกลับแล้ว

เมื่อถามว่ากรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิม์อาซาฮี ของประเทศญี่ปุ่น โดยระบุว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ก่อตั้งมาเป็นรัฐบาลได้ด้วยการสนับสนุนจากศาล คณะองคมนตรี และกองทัพ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ติดตามข่าวนี้ แต่คนที่นี่จะทราบข้อเท็จจริงทุกอย่างในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ถามอีกว่าจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นอะไร รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏหมาย

เมื่อถามว่าการออกมาของพ.ต.ท. ทักษิณ ตั้งธงรบกับรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิธิ์ กล่าว่าตนไม่ได้ติดตามข่าว จึงไม่ทราบว่า พ.ต.ท. ทักษิณ พูดอะไรบ้าง ส่วนกระบวนการตามกฏหมายของเราเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่าประเทศไทยต้องบริหารด้วย โดเรมอน ไม่ใช่โนบิตะ คิดว่าหมายอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้ติดตามข่าว ให้ไปถามพ.ต.ท. ทักษิณ ว่าแปลว่าอะไร

“คิดว่าวันนี้ผมเดินหน้าทำงานในส่วนของรัฐบาล และพร้อมรับการตรวจสอบ แต่ใครจะมีความเห็นทางการเมืองอย่างไรก็แสดงออกมาได้ ผมคงไม่ดึงรัฐบาลเข้าไปขัดแย้งอะไรด้วย เพราะกรณีของ พ.ต.ท. ทักษิณ มีประเด็นเดียวคือ รัฐบาลยืนยันให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ต้องกลับมาอยู่ภายใต้กฏหมายไทยเท่านั้น” นายกฯ กล่าว

ต่อข้อถามว่าถ้าอีกฝ่ายไม่นิ่งรัฐบาลจะทำงานได้หรือไม่ นาย อภอสิทธิ์ กล่าวว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรามีหน้าที่ ทำหน้าที่ของเรา ซักอีกว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้ถอดถอนายอภิสิทธิ์ ออกจากตำแหน่งนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างถ้าเป็นช่องทางตามรัฐธรรมนูญก็เป็นสิทธิ์ ที่ทำได้ รัฐบาลพร้อมรับการตรวจสอบ ส่วนจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ก็เป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย ทุกคนทั้งในและต่างประเทศต้องเข้าใจว่ากระบวนการประชาธิปไตย รัฐบาลต้องถูกตรวจสอบ มีกลไกที่จะถอดถอนได้ แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าจะถอดถอนด้วยข้อหาอะไรก็ได้ ตนมั่นใจว่าไม่มีอะไร

เมื่อถามว่ากรณีการชุมนุมของกลุ่มเสื่อแดงในวันที่ 31 มกราคมจะมีการดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะประชุมกันที่ใด แต่ถ้าอยู่ในกรอบของกฏหมายก็ไม่มีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเดินทางไปเยือนประเทศลาว เพื่อเดินทางไปเยือนประเทศเพื่อบ้าน ดังนั้นรัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมในรัฐบาลไทยเพื่อสานความสัมพันธ์ และความร่วมมือในกรอบทวิภาคี พหุภาคี ที่ 2 ประเทศ ดำเนินมาอย่างใกล้ชิด หลังจากหารือเรียบร้อยแล้ว นายกฯจะเดินทางไปที่สถานทูตไทยประจำประเทศลาวเพื่อวางกรอบนโยบายให้กับทีมประเทศไทย พร้อมกับพบปะกับประชาชนคนไทยที่มาลงทุนในประเทศลาว และศักยภาพของนักลงทุนคนไทย เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการลงทุนของคนไทย

นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่สภาล่มเมื่อวันที่ (22 ม.ค.)ว่า ถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล การขอให้มีการนับองค์ประชุมนั้นก็เป็นสิทธิ์ที่ฝ่ายค้านสามารถทำได้ตลอดเวลา แต่รัฐบาลนึกว่าไม่น่าจะมีประเด็นขัดแย้งอะไร เพราะวาระที่ประชุมอยู่เป็นเรื่องการเตรียมพิจารณากฏหมายผู้สูงอายุ จึงคิดว่าทุกพรรคคงเห็นพ้องต้องกัน แต่เมื่อฝ่ายค้านเลือกที่จะใช้สิทธิ์ รัฐบาลก็ต้องพร้อมรับและกลับไปปรัปปรุงแก้ไข

เมื่อถามว่า ต้องไปคุยกับพรรคร่วมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้มีการนัดหมายพบปะในวัน
อาทิตย์ (25 ม.ค.) ภายหลังการประชุม พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) คงได้มีการซักซ้อมทำความเข้าใจกัน

“ส่วนการดูแล ส.ส. นั้นก็เป็นหน้าที่ของพรรคร่วม ส่วนพรรค ปชป. จะมีการตรวจสอบด้วย
โดยจะมีการกำชับให้อยู่ประชุม เพราะที่ผ่านมามักจะมีปัญหาในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี เนื่องจากจะมีส.ส. บางส่วนที่เดินทางกลับพื้นที่ จึงต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น อาจจะต้องขอว่า ให้เปลี่ยนการลงพื้นที่เป็นวันศุกร์เช้า แต่ผมก็ยังไม่ได้สอบถามไปทางประธานวิปรัฐบาลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร อาจจะขอดูตัวเลขก่อนว่าส.ส. ที่ขาดไปเป็นตัวเลขของ ส.ส. พรรคปชป. จำนวนเท่าไร” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าเป็นการเล่นเกมของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิธิ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่ามีปัญหาอย่างนั้น ในการประชุมตนสังเกตุว่าช่วงเย็นวันพฤหัสบดี มักจะมีปัญหา ส.ส. อยากกลับพื้นที่ทำให้มีส.ส. จำนวนหนึ่งต้องการเดินทางกลับในวันดังกล่าว จีงเป็นเรื่องที่จะต้องมาทำความเข้าใจกัน

ถามว่า การกระทำของฝ่ายค้านทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ประกาศท่าที และถือเป็นสิทธิ์ ของฝ่ายค้าน แต่ว่าทุกคนต้องรับผิดชอบการตัดสินใจของตัวเอง รัฐบาลต้องยอมรับในความบกพร่องที่ไม่สามรถเอาเสียงข้างมากมาประชุมให้ครบได้ ฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบ ต่อประชาชนด้วยว่า ตัดสินใจเลือกนับองค์ประชุมด้วยเหตุผลอะไร

“ปกติแล้ว การนับองค์ประชุมจะเกิดขึ้นเวลาที่มีความขัดแย้งกัน เช่นรัฐบาลอยากจะผลักดันกฏหมาย แต่ฝ่ายค้านเห็นว่าไม่พร้อม ไม่เห็นด้วย หรือรัฐบาล ดำนเนินการบางอย่าง ซึ่งฝ่ายค้านต้องดารคัดค้านอย่างจริงจัง และเกรงว่าหากดำเนินการต่อไปเสียงข้างน้อยจะไม่สามรถยังยั้งอะไรได้ จึงต้องใช้วิธีนี้ จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่เมื่อวานที่แปลกใจคือ กฏหมายผู้สูงอายุ น่าจะเป็นกฏหมายที่ทุกฝ่าย เห็นตรงกันและวาระที่กำลังดำเนินการกันยอยู่เป็นเรื่องเพื่อทราบเท่านั้นเอง” นายอภิสิธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นกงกรรมกงเวียนหรือไม่ นายอภิสิธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เป็นเรื่องของความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร และสามรถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ เมื่อวานตนเป็นประธานประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุ เลยมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร ที่จะผลักดันเบี้ยยังชีพกำหนดตารางเวลาปฏิทินไว้ แม้กฏหมายไม่ผ่านก็สามารถทำได้ เพราะมีกฏหมายเดิมอยู่แล้ว เพียงแค่ปรับระเบียบเท่านั้น ยันว่าารัฐบาลจะไม่ยอมให้เสียงาน

ต่อข้อถามว่า เสียงที่ขาดไป มีการบันทึกรายชื่อไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีรายชื่ออกมาแล้ว แต่ละพรรคจะไปตรวจสอบ ซึ่งวันอาทิตย์จะมีการหารือกัน ส่วนจะมีส.ส. ปชป.ขาดไปกี่คนนั้นตนยังไม่ได้ตรวจสอบล่าสุดว่าเป็นอย่างไร แต่ช่วงขานชื่อก็พอจะทราบว่ามีใครขาดไป