xs
xsm
sm
md
lg

แม้วโอดอยู่เมืองนอกเสียเงินปีละ4-5ล้านเหรียญ โวย“2สนธิ-อนุพงษ์”คือความผิดพลาดของชีวิต!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ทักษิณ” ยึดห้องสวีท ร.ร.หรูที่ดูไบ ให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่น ครวญต้องวิ่งหารายได้ทุกทางให้พอค่าใช้จ่ายในต่างแดน ตกปีละ 140-175 ล้านบาท อ้างขายแมนซิฯ มาเลี้ยงชีพ พูดหมิ่นศาล-กองทัพ-องคมนตรีอีก มั่นใจ “เสื้อแดง” จะสู้แม้ตัวเองตาย อ้างไม่ให้ทีวี “สนธิ”-ตั้ง “บิ๊กบัง”-ไว้ใจ “บิ๊กป๊อก” เป็นความผิดพลาดสำคัญของชีวิต

วันที่ 17 ม.ค.2552 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์อาซาฮี ของญี่ปุ่นได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปีจากศาลฎีกากรณีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าว เป็นการสัมภาษณ์โดยนายโนจิ ชิบาตะ ผู้จัดการสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของหนังสือพิมพ์อาซาฮี เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2552 ณ ห้องสวีทของ โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีราคาค่าพักต่อคืนประมาณ 500 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 17,500 บาท) โดยผู้สื่อข่าวระบุว่าโรงแรมดังกล่าวไม่ใช่โรงแรมหรูที่สุดในดูไบ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกับผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นว่า ทุกๆ วัน เขาพยายามหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายประจำวัน ที่ตกปีละประมาณ 4-5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 140-175 ล้านบาท) โดย พ.ต.ท.ทักษิณอ้างด้วยว่า สาเหตุที่เขาบอกขายสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี ก็ด้วยเหตุผลนี้เช่นเดียวกัน

ในส่วนของการเมืองไทย พ.ต.ท.ทักษิณ คาดหวังว่าพรรคเพื่อไทย ที่ปัจจุบันเป็นพรรคฝ่ายค้านจะยังให้สนับสนุนตัวเขาอยู่ แต่ก็กล่าวอ้างด้วยว่าในบรรยากาศเช่นนี้เขาไม่สามารถให้การสนับสนุนทางการเมืองกับพรรคใดๆ ได้ โดยในบทสัมภาษณ์ชิ้นดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวย้ำหลายครั้งหลายหนว่า จากสถานะทางการเงินที่ยากลำบากในปัจจุบันของเขา ทำให้เขาไม่สามารถจะให้การสนับสนุนทางการเงินกับผู้สนับสนุนเขาและพรรคเพื่อไทยได้

สำหรับบทสัมภาษณ์บางส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับ นสพ.อาซาฮี มีรายละเอียดดังนี้

อาซาฮี : อะไรเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณต้องตกอยู่ในสภาวะอันยากลำบากเช่นนี้ เพราะ การที่คุณขายหุ้นของคุณ (หุ้นชินคอร์ป) โดยไม่จ่ายภาษีหรือเปล่า

ทักษิณ : ผมคิดว่านั่นไม่ใช่ต้นเหตุสำคัญ ความจริงมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมในการจ่ายภาษีตามกฎหมายในตอนนั้น ทว่ามันก็เป็นเรื่องจริงที่เรื่องนี้ส่งผลต่อฝ่ายต่อต้านทักษิณในตอนนั้น แต่มันมีกระบวนการใต้ดินบางอย่างที่แปะป้าย “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (lese majeste)” ให้กับผม โดยคนบางกลุ่ม ด้วยเหตุที่ว่าตอนนั้นเป็นช่วงที่สถานะของผมขึ้นถึงจุดสูงสุดในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จริงๆ แล้ว ผมเคารพราชวงศ์ไทยมากกว่าใคร แต่ดูเหมือนว่าจะมีความเข้าใจผิดอะไรบางประการในหมู่ผู้ที่ปรึกษา (องคมนตรี) ขององค์พระมหากษัตริย์ของเรา

อาซาฮี : คุณมีความเห็นยังไงกับรัฐบาลใหม่ของไทย
ทักษิณ : พรรคประชาธิปัตย์ได้อำนาจจากเสียงส่วนใหญ่ ด้วยการสนับสนุนจากศาล จากกองทัพ และคณะองคมนตรี สาเหตุที่พวกเขาเรียกร้องให้ผมเลิกยุ่งกับการเมืองไทยก็เพราะพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะกุมอำนาจได้ ถ้าผมยังยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วกองทัพและคณะองคมนตรีนั่นแหละที่ต้องเลิกยุ่งกับการเมือง

อาซาฮี : คุณยังจะสู้ต่อหรือเปล่า
ทักษิณ : ผมกำลังจะอายุครบ 60 ปีในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ผมอยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบและหวังว่าจะได้เห็นความสมานฉันท์อีกครั้งในหมู่คนไทย แต่ผมยังไม่ได้รับข้อเสนออะไรจากรัฐบาลหรือกลุ่มต่อต้านทักษิณว่าต้องการจะเจรจา ผมยังตายไม่ได้ก่อนที่จะพิสูจน์ว่าผมได้รับความยุติธรรม และผมเชื่อว่ากลุ่มผู้สนับสนุนผมจะสู้กับพวกเขาต่อแม้ว่าผมจะตายไปแล้วที่นี่

อาซาฮี : บอกหน่อยสิว่าใครเป็นแกนนำในกลุ่มต่อต้านทักษิณ
ทักษิณ : สนธิ (ลิ้มทองกุล) หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นหุ่นเชิดของกลุ่มพลังต่อต้านผม เขาเคยเป็นผู้สนับสนุนสำคัญของผมตอนที่ผมยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เขาบอกว่าเขาต้องการจะเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ แต่ผมบอกเขาไปว่ามันคงเป็นเรื่องยากเพราะติดปัญหาทางกฎหมาย นี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงประกาศตัวเป็นศัตรูกับผมทันที นอกจากนี้มันก็เป็นเรื่องผิดพลาดอย่างยิ่งที่ผมมอบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกให้กับ พล.อ.สนธิ (บุญยรัตกลิน) ผู้นำในการรัฐประหารในปี พ.ศ.2549 ผมไม่ควรเลือกเขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุด นี่คือความผิดพลาดใหญ่ของชีวิตผม พล.อ.อนุพงษ์ (เผ่าจินดา) ผบ.ทบ.คนปัจจุบันก็เป็นหุ่นเชิดเหมือนกับ พล.อ.สนธิ

อาซาฮี : คุณเสียใจไหม กับการตัดสินใจเล่นการเมือง
ทักษิณ : เสียใจ ผมเสียใจแน่นอน บางทีอาจเป็นการลงโทษจากสิ่งที่ผมทำเมื่อชาติปางก่อน ... คุณเห็นไหมว่าผมเสียเงิน เสียทรัพย์สิน งานการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องให้ “โดเรมอน” รับมือ ไม่ใช่ “โนบิตะ” …

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์กับนิตยสารซีอีโอ ตะวันออกกลาง (CEO Middle East) ที่ดูไบ โดยนิตยสารดังกล่าวระบุว่า สหราชอาณาจักรได้อายัดทรัพย์สินจำนวน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 140,000 ล้านบาท) เอาไว้ โดยเงินจำนวนดังกล่าวยังไม่รวมกับที่ถูกประเทศไทยอายัดเอาไว้หลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ราว 6-7 หมื่นล้านบาท ก่อนที่ในเดือนกันยายน 2551 พ.ต.ท.ทักษิณ จะฟันกำไรก้อนใหญ่ราว 50 ล้านปอนด์ (3,150 ล้านบาท) จากการขายทีมแมนเชสเตอร์ ซิตีให้กับ กลุ่มอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ที่มีชีคมานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน แห่งดูไบเป็นเจ้าของ
กำลังโหลดความคิดเห็น