ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “สนธิ ลิ้มทองกุล” ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตการเมืองฯ ที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ท่ามกลางประชาชนร่วมงานเพียบ ส่งสัญญาณถึงนักการเมืองจากภาคใต้ อย่าทรยศประชาชนเด็ดขาด เพราะคนใต้ตื่นตัว มีความรู้การเมืองและรักชาติ เผยให้เวทีทำให้โจรกลับใจ และจะรอดู หากทำเรื่องไร้จริยธรรม เช่น ไม่จัดการตำรวจให้เด็ดขาด พร้อมเป่านกหวีดทันที โดยให้เวลารัฐบาลในการบริหารประเทศเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อทดสอบความกล้าหาญที่จะตัดสินใจบนความถูกต้อง ด้วยการไม่ทรยศต่อประชาชน เปรียบสถานการณ์ทางการเมืองบังคับให้พระต้องรับโจรร่วมเรือลำเดียวกัน ย้ำหากร่วมการเมืองใหม่กับประชาชนต้องซื่อสัตย์ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ จี้ปราบตำรวจเถื่อนทำร้ายประชาชน และจัดการทักษิณ ตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างจริงจังเสียที
”สนธิ” ปราม ปชป.ห้ามทรยศประชาชน
เมื่อคืนวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาพันธมิตรประชาชนประชาธิปไตยเกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จัดเวที “คอนเสิร์ต เมืองร้อยเกาะก้าวย่างสู่การเมืองใหม่” ที่บริเวณท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ เทศบาลตำบลเกาะพะงัน เพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเมืองใหม่ให้แก่ประชาชนได้รับทราบ โดยมีพันธมิตรฯจากเกาะพะงัน เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ชุมพร หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช เข้าร่วมงานจำนวนมาก
งานนี้มีแกนนำพันธมิตรฯ คนสำคัญร่วมถ่ายทอดความรู้การเมืองใหม่ ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายพิชิต ชัยมงคล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ นายเสน่ห์ หงษ์ทอง ฯลฯ โดยเริ่มเปิดเวทีเวลาประมาณ 18.00 น. ด้วยวงดนตรีและพิธีกรในท้องถิ่น ก่อนที่แกนนำจะขึ้นเวทีปราศรัยสลับการเล่นดนตรี
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การชุมนุมที่เกาะพะงันในวันนี้มีคนเดินทางมาร่วมชุมนุมมากเป็นประวัติการณ์ด้วยใจ และควักเงินเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว เพื่อแสดงความรักชาติของคนใต้ แม้แต่การหาเสียงของนักการเมืองนั้นจะต้องจ้างรถคันละ 500 บาท เพื่อมาฟังการปราศรัยก็ยังไม่มากเท่านี้
“ผมกล้าพูดเป็นคนแรกในแกนนำพันธมิตรฯ ผ่านทาง ASTV ว่าพร้อมที่จะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานสักระยะหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดกับคำพูดของ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่พูดว่าไม่มีเนวินวันนี้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นไรที่ไม่พูดถึงพันธมิตรฯแม้แต่นิดเดียวขอกันกินมากกว่านี้ อยากฝากเตือนไปยังทุกๆ คน อย่าเพิ่งหลงตัวเอง เพราะผมถามพี่น้องพันธมิตรฯที่อยู่ทางใต้ถ้าวันหนึ่งให้เลือกระหว่างพันธมิตรฯกับพรรคประชาธิปัตย์คนใต้บอกเสียงเดียวกันว่าเลือกพันธมิตรฯ ขอให้ถือว่าเป็นคำพูดของกัลยาณมิตร ที่จะเตือนคนประชาธิปัตย์ให้ยึดมั่นอุดมการณ์คนใต้ อย่ายอมให้อำนาจมาครอบงำ ล้มล้างอุดมการณ์ที่เคยมีมาตลอด และที่สำคัญอย่าทรยศต่อคนใต้” นายสนธิกล่าวต่อและว่า
คนเล่นการเมืองต้องเข้ามาและพร้อมที่จะเสียสละทำงานให้แก่ชาติบ้านเมือง เสียสละได้แม้กระทั่งไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเขาเลือกเข้าไปเป็น ส.ส.ทำหน้าที่ร่างกฎหมายตรวจสอบการทำงานรัฐบาล การเมืองใหม่คือความกล้าหาญ กล้าหาญที่จะตัดสินใจทุกอย่างบนพื้นฐานของ จริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และต้องซื่อสัตย์ ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ ทั้งหมดนี้คือความถูกต้อง ซึ่งฝังอยู่ในหัวใจของพี่น้องชาวใต้
“พันธมิตรฯ บอกมาตั้งนานแล้วว่าพระกับโจรอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าการเมืองบังคับ ต้องเอาโจรมานั่งในเรือด้วย เราจะให้เวลาคุณ ทำให้โจรกลับใจได้หรือไม่ พี่น้องก็รู้ว่าโจรกลับใจได้หรือไม่ได้ แต่เราก็จะรอดู”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า จากนี้ไป ถ้ามีกรณีใดที่รัฐบาลไม่มีจริยธรรมในหลายๆ เรื่อง เช่นเรื่องตำรวจ ถ้ารัฐบาลไม่จัดการให้เด็ดขาด เชื่อว่าแกนนำพันธมิตรฯ ก็พร้อมที่จะเป่านกหวีดอีกครั้ง เป็นการเป่านกหวีดเพื่อรวมคนไปแสดงพลังให้เห็นว่าพวกเรายังอยู่กันแน่นหนา และกำลังรอคำตอบเขาอยู่
“ผมเพียงจะส่งสัญญาณไปบอกนักการเมืองภาคใต้ว่าอย่าทรยศคนใต้ เพราะคนใต้ในวันนี้ไม่ใช่คนใต้ในอดีตอีกแล้ว คนใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไปมีปัญญา รู้ทันการเมือง หลอกกันไม่ได้ พี่น้องมีภารกิจยิ่งใหญ่ ที่ได้จากเวทีพันธมิตรฯ ขยายออกไปว่า ที่สุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่า เนวิน ชิดชอบ มีบุญคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ คุณคิดอย่างไร ให้ถามไปเรื่อยๆ จะได้รู้กันว่า ส.ส.ใต้ เคารพเนวินเป็นพ่อ ที่พูดไม่ได้ให้เกิดความแตกแยก แต่พูดเพื่อเตือนสติ เพราะมี ส.ส.ใต้จำนวนไม่น้อยอึดอัดใจกับเรื่องนี้มาก”
เตือนชาวเกาะอย่าขายที่กิน
นายสนธิ ยังให้ข้อคิดเตือนใจชาวเกาะพะงันด้วยว่า แม้ฐานะจะยากจนแค่ไหน ก็อย่าขายที่กิน แต่บางครั้งก็ต้องคิดถึงสติและมีปัญญา การเป็นคนเกาะพะงัน มีสิทธิพิเศษที่ไม่ต้องไปแย่งอากาศกันหายใจอย่างคน กทม. มีสิทธิพิเศษไม่ต้องเจอใบหน้าบึ้งตึง คนขับรถที่กวนประสาท มีสิทธิพิเศษไม่ต้องเจอตำรวจที่รีดไถ พี่น้องชาวพะงันไม่ใช่คนโง่ ลูกหลานมีการศึกษากลับมาพัฒนาที่ดิน ค่อยๆ ทำจากเล็กไปสู่ใหญ่ ทำแบบพอเพียง พอกิน มีความสุข ไม่ใช่ขายที่ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เล่นการพนัน เราต้องเรียกร้องคุณธรรม จริยธรรมกลับมา และต้องรักษาสิ่งดีๆของเกาะพะงันไว้
“วันนี้ประชาชนกำลังเรียกร้องคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม หรือที่เรียกว่าการเมืองใหม่ ถ้าเราทำงานเพื่อแผ่นดินเพื่อชาติบ้านเมือง นั่นคือบุญกุศลที่จะอยู่กับเรา พ่อแม่ ลูกหลานและบรรพบุรุษ ที่พี่น้องลุกขึ้นมาสู้ก็เพื่อที่จะเรียกร้องความเป็นมนุษย์ให้กลับมาสู่สังคมไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่สังคมไทยได้กลายเป็นครึ่งสัตว์ครึ่งคนไปแล้ว พวกเราคือคนปกติในสังคมที่ไม่ปกติ”นายสนธิกล่าวและว่า
เช่นเดียวกับที่ต้องปกป้องเอเอสทีวี เพราะเอเอสทีวีเป็นของคนทั้งประเทศ ต้องรักษาเอาไว้ ดั่งชีวิตของพี่น้องเอง เพราะนั่นคือแหล่งความรู้และขุมปัญญา พี่น้องคนใต้ช่วยเอเอสทีวีมาตลอด อะไรที่เอเอสทีวีเอามานำเสนอและโฆษณา ก็จะได้รับการสนับสนุนที่ดี ถ้าหยุดเอเอสทีวีตนไม่เดือดร้อน แต่คนเดือดร้อนคือชาติบ้านเมือง
ในช่วงท้าย นายสนธิ ยังได้กล่าวย้ำด้วยว่า จากนี้ไปพี่น้อง คือ ครอบครัวของพันธมิตรฯ และเอเอสทีวี เป็นสายใยที่จะเชื่อมโยงพันธมิตรฯ ให้เป็นครอบครัวเดียวกัน ทำให้เกิดการเมืองใหม่ หากพี่น้องให้ความร่วมมือ รับรองว่าจะได้เห็นการเมืองใหม่ภายในปีนี้
”สมศักดิ์” จี้จัดการ ตร.เถื่อน-อดีตรบ.ขายชาติ
ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่ายกย่องว่าคนเกาะพะงันได้ร่วมต่อสู้กับระบบเผด็จการมาตั้งแต่สมัยอดีต ซึ่งการต่อสู้เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากไปสมคบกับทุนต่างชาติ เป็นเผด็จการทุนนิยมที่ออก พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ มีการขายรัฐวิสาหกิจ ขาย ปตท. ทำให้น้ำมันราคาแพง สินค้าราคาแพง แต่เมื่อราคาน้ำมันลดราคาของไม่ลงตาม คนที่เดือดร้อนคือประชาชนที่ต้องเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า และยังอยู่เบื้องหลังกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งมีการเห็นชอบให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทั้งที่เป็นของประเทศไทย
หลังจากที่เรารวมตัวกันชุมนุม ขณะนี้ก็ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายกันไปแล้วจำนวน 20,000 ล้านบาท ทั้งที่ทำเพื่อต่อสู้กับอำนาจความอยุติธรรมจากรัฐบาล ที่ขายทุกอย่างแม้กระทั่งชาติและจะไม่เหลือแผ่นดินให้ลูกหลานเลย แต่ตำรวจกลับไม่เลือกข้างประชาชน ดังนั้น เราต้องไล่ตำรวจที่ไม่ดีออกไปให้หมด ตอนนี้ตำรวจกำลังล่าชื่อเพื่อถอดถอนป.ป.ช. เนื่องจาก ป.ป.ช.กำลังจะมีการดำเนินการสอบสวนตำรวจกรณีเหตุการณ์ วันที่ 7 ตุลาคม 2551
“ที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ได้ยื่นข้อเสนอไปจำนวน 13 ข้อ ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ เช่น การเอา ปตท.กลับมาเป็นของรัฐ ทวงคืนปราสาทพระวิหาร การยกเลิกพาสปอร์ตทุกชนิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาธิปัตย์มี 2 ทางเลือก ระหว่างสมคบกับ เนวิน เพื่อความอยู่รอด หรือเลือกอยู่ข้างประชาชน”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เราเป็นประชาชน เชื่อว่าจะรักอย่างไรก็ต้องตรวจสอบ ถ้าดีก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตำรวจที่ทำร้ายประชาชนจะต้องมีการล้างบาง เพราะมีหลักฐานชัดเจน เพราะฉะนั้นจะต้องดำเนินการ
ขีดเส้น ปชป.3 เดือนสร้างการเมืองใหม่
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ทักษิณเป็นอุปสรรคต่อการปกครองในระบอบทักษิณที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ภารกิจนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วชั่วคราว แต่พันธมิตรฯต้องทำการเมืองใหม่ต่อไป ดูอย่างสหรัฐอเมริกาที่กล้าเปลี่ยนแปลงด้วยการเลือก โอบามา เป็นประธานาธิบดี แต่ประเทศไทยเรายังไม่กล้าเปลี่ยนแปลงที่จะเลือกพรรคการเมืองที่ไม่มีคนของทักษิณอยู่
อย่างไรก็ตาม เราต้องให้โอกาสพรรค ปชป.ทำการเมืองใหม่ เพราะตลอดเวลา 75 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเราอยู่กับการเมืองเก่าที่มีการทุจริต คอร์รัปชัน ใช้ทหาร ตำรวจ ปราบปรามประชาชนจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น เราพันธมิตรฯต้องการที่จะนำคนผิดมาลงโทษ ซึ่งเราเชื่อว่าสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นคนสั่งการ เราสงสัย พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯในขณะนั้นเกี่ยวข้องอย่างไร เราสงสัยต่อไปว่า นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในขณะนั้นเกี่ยวข้องอย่างไร
ทั้งนี้ หาก ตำรวจเรียกร้องความเป็นธรรมต้องเปิดเผยออกมาว่า ใครเป็นคนสั่งการ นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ดูแลความมั่นคงต้องจัดการเรื่องนี้ แน่นอนขณะนี้รัฐบาลต้องดำเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศก่อน เราต้องให้เวลารัฐบาลจัดการเรื่องเศรษฐกิจก่อน แล้วหันมาจัดการความถูกต้องให้เกิดขึ้น
“ถ้าพรรค ปชป.ไม่ได้แสดงตัวที่จะทำการเมืองใหม่ จนเป็นที่ประทับใจของพันธมิตรฯ ภารกิจของเราก็ยังไม่หมด และจะใช้ประชาชนเป็นด่านหน้าในการขจัดนักการเมืองแบบเก่าๆ ออกไปหาก ปชป.ไม่หันหน้ามาร่วมกับพันธมิตรฯ อย่าหวังเลยว่า ปชป.จะแก้ปัญหาการเมืองเน่าเฟะได้ และ ปชป.จะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ทางการเมืองในที่สุด เราให้โอกาส ปชป.อีก 3 เดือนในการทบทวนเรื่องนี้” นายพิภพกล่าว
”มาลีรัตน์” แนะจับตาแจก ส.ป.ก. 26 ล้านไร่
นางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 กล่าว ว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เกาะสมุย และ พะงัน ได้จัดเก็บภาษีส่งให้แก่รัฐบาลเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาน้อยมาก คนสมุย และ เกาะพะงัน ต้องทวงคืนความชอบธรรมกลับมา ต่อไปนี้ต้องเดินหน้าในสิ่งที่ดี ให้นักการเมืองคิดแต่สิ่งที่ดีและทำสิ่งที่ดีให้แก่ประชาชน
นางมาลีรัตน์ กล่าวต่อว่า หลังจากนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาพูดเรื่องการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จำนวน 16 ล้านไร่ ให้แก่ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน เลขาฯ ส.ป.ก.รวมทั้ง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่า ไม่เข้าใจ มท.3 ทำอะไร เพราะที่ดิน ส.ป.ก.ที่จะแจกได้มีแค่ 2 ล้านไร่เท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้พี่น้องประชาชนจะต้องติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด
“พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยบอกไว้ว่า การจะคัดค้านเรื่องอะไรจะต้องนำเสนอทางออกไว้ด้วย วันนี้ มท.3 พูดเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.ที่สุราษฎร์ฯ กระบี่ พังงา ประชาชนจะต้องติดตามว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้บ้าง ตอนที่ตนเป็น ส.ว.ก็มีปัญหาเรื่องที่ดินเหมือนกัน อยากจะให้ประชาชนสะท้อนปัญหาให้รัฐบาลได้รับทราบว่าดีหรือไม่ดีในการแจกที่ดิน ส.ป.ก.” นางมาลีรัตน์กล่าวต่อและว่า
พ.ต.อ ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำแต่คดี 562 ไร่ที่จังหวัดพังงา และตรวจสอบคดีที่เกี่ยวกับพรรค ปชป.และพันธมิตรฯ ทั้งๆ ที่พันธมิตรฯกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่พวกเดียวกัน การต่อสู้ของพันธมิตรฯนั้น รู้กันอยู่ว่าต่อสู้เพื่ออะไร ซึ่งตนและทีมงานได้สรุปการต่อสู้ของพันธมิตรฯ 193 วัน พิมพ์เป็นหนังสือทั้งหมด 20,000 เล่ม ได้นำมาแจกที่เกาะพะงัน 200 เล่ม ที่เหลือจะนำไปแจกที่ภาคอีสาน
“อยู่สมุยมา 2 วัน ทุกคนพูดเหมือนกันว่า เราเป็นญาติ เพื่อน มิตร เท่ากับ 193 วันที่ผ่านมา บางคนไปอยู่ 193 วัน 190 วัน แต่เรามีเป้าหมายเดียวกัน คือขับไล่ทักษิณที่โกงกินบ้านเมือง” นางมาลีรัตน์ กล่าว