“พิภพ” ชู “มนุษย์สะอาด” หนุนการเมืองใหม่ ไล่ “นักการเมืองน้ำเน่า”

“พิภพ” แจงชัด มนุษย์สะอาดทั้งกาย-ใจ ช่วยขับเคลื่อน “การเมืองใหม่” ให้สัมฤทธิ์ผล ชี้ ช่วยล้างบาง “นักการเมืองเลว” ที่ทุจริต-คอร์รัปชัน ให้หมดไปจากสังคมไทย พร้อมยก “เศรษฐกิจพอเพียง” กระตุ้นจิตสำนึก ปชช.ไม่ให้เอาเปรียบมนุษย์ด้วยกันจนเกินไป เชื่อ “พันธมิตรฯ” เทียบเท่ามนุษย์สะอาด เหตุเพราะมีสำนึกทางการเมืองที่ถูกต้อง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

วานนี้ (16 พ.ย.) นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงพยานที่อยู่ในเหตุนองเลือด 7 ต.ค. ซึ่งหลายท้องที่ในต่างจังหวัด ถูกตำรวจข่มขู่ว่า อยากให้ตำรวจไทยปรับปรุงตัว เพราะตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นตำรวจผู้น้อยซึ่งมีความยากลำบาก จะต้องปฏิบัติกับประชาชนโดยไม่ไปละเมิดสิทธิ์ รวมทั้งตำรวจต้องตรวจสอบตัวเองทั้งกริยา และคำพูด โดยอย่ามองจะสามารถทำอะไรกับประชาชนก็ได้ เพราะพวกเราเป็นประชาชนเต็มขั้น เนื่องจากเสียภาษีให้กับรัฐบาล

“ในเหตุการณ์ 7 ต.ค.ตำรวจไม่เพียงแต่ใช้อาวุธทุบตีประชาชนเท่านั้น แต่ยังให้ถ้อยคำรุนแรงกับผู้ชุมนุม ดังนั้นตำรวจจะต้องปรับปรุงตัว ไมเช่นนั้นตำรวจก็จะถูกประชาชนเกลียดชังตลอดกาล ดังนั้นเราจึงคุยกับทนายพันธมิตรฯ และสภาทนายความถึงกรณีที่ตำรวจเรียกพยานเข้าไปสอบสวน เพราะเราเกรงว่าจากการเป็นพยาน แต่จะกลับกลายเป็นจำเลยในภายหลัง ฉะนั้นจึงขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ ซึ่งถูกตำรวจเรียกสอบสวน ไปที่สถานีตำรวจบางขุนนนท์ ในเวลาไม่เกิน 09.00-11.00 น.แต่ห้ามเกินวันพุธที่ 19 พ.ย.นี้ โดยจะมีทนายพันธมิตรฯ รอรับอยู่”นายพิภพ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงมนุษย์สะอาด ซึ่งจะนำไปสู่การเมืองใหม่ ว่า คนใกล้ชิดของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ขอให้พันธมิตรฯ ช่วยรณรงค์เรื่องความสะอาด โดยใช้คำว่า มนุษย์สะอาด ตนก็เลยมีความคิดว่า คำว่ามนุษย์สะอาดนั้น จะต้องสะอาดทั้งทางกาย จิตใจ และวิญญาณ เพราะจะสามารถสร้างความสะอาดทั้งในเรื่องการเมืองที่จะต่อสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อจะนำไปสู่การเมืองใหม่ เพราะเราจะได้นักการเมืองที่ไม่ทุจริต คอร์รัปชั่น และมีจริยธรรมสูงส่ง จึงนำไปสู่การรณรงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งนักการเมืองสะอาด แต่นักการเมืองสะอาด ก็จะต้องมาจากการเลือกตั้งที่สะอาดด้วย เพราะการลงคะแนนที่มาจากญาติพี่น้อง หรือผู้อุปถัมภ์ เราก็จะได้นักการเมืองที่ไม่สะอาดเข้ามาบริหารประเทศ

“มนุษย์สะอาด ก็เหมือนกับประเทศของเราที่มีดินซึ่งมีสารพิษเป็นส่วนประกอบสูงถึง 60 ชนิด ฉะนั้น ถ้าเราไม่สามารถทำให้ดินสะอาดได้ เราก็ต้องให้ปุ๋ย ใช้ยาฆ่าแมลงอัดเข้าไปเพื่อเพราะปลูก ทำให้ต้นทุนในการเพราะปลูกพืชผักของเกษตรกรสูงขึ้น แถมยังได้สารเคมีผสม ที่สำคัญดินที่สะอาดเท่านั้นจึงจะมีไส้เดือน เพราะเป็นสัตว์ที่แสดงให้เห็นว่า ถ้ามีไส้เดือนตรงไหน ฉะนั้นเราต้องรณรงค์ด้านธรรมชาติด้วย โดยเฉพาะ กทม.ที่มีควันพิษเป็นจำนวนมาก” นายพิภพ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ถ้าเราใช้เศรษฐศาสตร์ชาวพุทธ คือ การใช้ทุนที่ไม่เอารัดเอาเปรียบมากเกินไป หรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรียกว่าเศรษฐกิจที่ประชาชนสามารถปฏิบัติได้ หรือที่เรียกว่า เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งก็คือ ระบบเศรษฐกิจที่กำกับด้วยระบบเศรษฐกิจที่สะอาด และมีทุนที่สะอาดรองรับอยู่ ดังนั้นคนที่ต้องการให้เกิดการเมืองใหม่ จึงไม่ต้องการที่จะให้การเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับอำนาจมากเกินไป และเมื่อพันธมิตรฯ มีสำนึกทางการเมืองที่ถูกต้องเกิดขึ้น ทำให้พันธมิตรฯ กลายเป็นมนุษย์สะอาดขึ้นมาทันที เพราะเรารู้ว่า เงินทุกบาทที่เราเสียภาษีไป ถูกนักการเมืองเอาเงินของเราไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง ที่สำคัญพอเงินหมด เขาก็ออกพันธบัตรรัฐบาล เพื่อเอาเงินไปใช้ในงบประมาณเพื่อหมุนเวียนอีกครั้ง

“นักธุรกิจ บอกผมว่า ชนชั้นกลางจะเห็นกรณีดังกล่าวอย่างชัดเจน เพราะเงินทุกบาทที่เขาเสียภาษีไปนั้น เงินดังกล่าวไม่ได้ถูกนำเอาไปใช้ในที่ที่สะอาด แต่กลับเอาไปใช้เพื่อที่จะหาเสียง โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดสภาวะเงินเฟ้อหรือไม่ หรือจะทำให้ประชาชนติดขัดเรื่องเงินหรือไม่ จากนั้นเงินก็จะหมดคลัง แล้วเขาก็จะออกพันธบัตรให้พี่น้องประชาชนซื้อ เพื่อที่จะเอาเงินในอนาคตไปใช้หาเสียงทางการเมืองอีกครั้ง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเมืองที่ไม่สะอาดมีเรื่องสลับซับซ้อนอยู่เป็นจำนวนมาก” นายพิภพ ระบุ

นายพิภพ ยังกล่าวถึงเด็กที่เกิดมา เปรียบเสมือนสิ่งบริสุทธิ์ว่า ปัจจุบันนี้การเลี้ยงดูเด็ก จะเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์ไม่สะอาด โดยจะมีทั้งปมเด่น และปมด้อย ฉะนั้นเราต้องศึกษาให้รอบคอบ โดยเฉพาะระบบการศึกษา ซึ่งไม่สนใจว่า เด็กถูกเลี้ยงมาอย่างไร ก็เลยกดเด็กเอาไว้ให้เหมือนกันหมด ดังนั้นการที่เราจะทำให้เด็กสะอาดตั้งแต่แรกเริ่ม เราจะต้องเริ่มจากการเลี้ยงดู การเข้าโรงเรียน การใช้ธรรมะ และการใช้จิตวิทยา จึงจะนำไปสู่การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่สะอาด แล้วเราก็จะได้นักการเมืองสะอาดเข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง ซึ่งจะทำให้สังคมไทยสะอาดมากยิ่งขึ้นกว่านี้