สุราษฎร์ธานี - “สนธิ” ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตการเมืองฯ ที่เกาะพะงัน ท่ามกลางประชาชนร่วมงานเพียบ ส่งสัญญาณถึงนักการเมืองจากภาคใต้ อย่าทรยศประชาชนเด็ดขาด เพราะคนใต้ตื่นตัว มีความรู้การเมืองและรักชาติ เผยให้เวทีทำให้โจรกลับใจ และจะรอดู หากทำเรื่องไร้จริยธรรม เช่น ไม่จัดการตำรวจให้เด็ดขาด พร้อมเป่านกหวีดทันที
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 20 ม.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวที “คอนเสิร์ตร้อยเกาะ ก้าวย่างสู่การเมืองใหม่” ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์เทศบาลตำบลเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยกล่าวว่า 193 วันที่ได้ร่วมกันต่อสู้สิ่งสำคัญที่สุดใน 193 วันนี้ ตนได้รับการดูแลจากพี่น้องชาวใต้ที่ตั้งครัวทำอาหารได้รับการเป็นห่วงเป็นใยปกป้อง
“ผมยังจำได้ตอนที่มีหมายจับ ได้นอนอยู่ที่โรงรถทำเนียบห้อมล้อมไปด้วยพี่น้องคนใต้ มีป้าคนหนึ่งมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช บอกกับผมว่า ถ้ามันเข้ามาป้าจะกระโดดถีบมันเลย อยากจะให้คนใต้ได้รับทราบว่าผมซึ้งในพระคุณ ผมไปบวชที่วัดป่าบ้านตาดครบ 1 เดือน ไปจำวัดอยู่ 3 ที่ด้วยกัน คือ ที่วัดในจังหวัดชลบุรี ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนภาคตะวันออกซึ่งเป็นแกนนำหลักในการเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วัดที่ 2 คือวัดเมืองเพชร เพราะพี่น้องชาวเพชรบุรีได้ขึ้นไปทำหน้าที่ รปภ.ตลอดจนดูแลความปลอดภัยให้กับ ASTV แลกหมัดกับสัตว์นรกที่เป็นตำรวจแต่แอบแฝงในคราบของโจรที่ยิงระเบิดใส่ ASTV และวัดสุดทายที่มาจำวัดคือวัดหลวงพ่อแดง เกาะสมุย ที่ผมมาเกาะสมุยเพราะผมเป็นหนี้บุญคุณของพี่น้องชาวใต้
ผมเชื่อว่าการชุมนุมที่เกาะพะงันในวันนี้มีคนเดินทางมาร่วมชุมนุมมากเป็นประวัติการ พี่น้องต้องภูมิใจในตัวเอง พี่น้องหลายคนต้องนักรถนั่งเรือมาร่วมชุมนุมกันไม่ใช่วันศุกร์วันเสาร์ และเชื่อว่าในการหาเสียงของนักการเมืองนั้นจะต้องจ้างรถคันละ 500 บาท เพื่อมาฟังการปราศรัย แต่งานนี้พี่น้องมาด้วยใจเวลาที่พันธมิตรมีภัยและต้องการความช่วยเหลือกลับฝักเงินไปกรุงเทพฯ เองเพื่อแสดงความรักชาติของคนใต้
ผมกล้าพูดเป็นคนแรกในแกนนำพันธมิตรฯ ที่พูดผ่านทาง ASTV ว่าพร้อมที่จะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานสักระยะหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดกับคำพูดของสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่พูดว่าไม่มีเนวินวันนี้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นไรที่ไม่พูดถึงพันธมิตรแม้แต่นิดเดียวขอกันกินมากกว่านี้ อยากฝากเตือนไปยังทุกๆ คน อย่าเพิ่งหลงตัวเอง เพราะผมถามพี่น้องพันธมิตรที่อยู่ทางใต้ถ้าวันหนึ่งให้เลือกระหว่างพันธมิตรกับพรรคประชาธิปัตย์คนใต้บอกเสียงเดียวกันว่าเลือกพันธมิตรฯ ขอให้ถือว่าเป็นคำพูดของกัลยาณมิตรที่จะเตือนคนประชาธิปัตย์ให้ยึดมั่นอุดมการณ์คนใต้ อย่ายอมให้อำนาจมาครอบงำ ล้มล้างอุดมการณ์ที่เคยมีมาตลอด และที่สำคัญอย่าทรยศต่อคนใต้
คุณพิภพ ธงไชย ได้พูดเรื่องการเมืองใหม่ ผมจะให้คำจำกัดความการเมืองใหม่สั้นๆ คือ การเมืองใหม่ที่เรามองไม่เห็นเลยในวันนี้ ไม่ว่าจะใครก็ตามในสภาเริ่มด้วยการเสียสละ คนเล่นการเมืองต้องเข้ามาและพร้อมที่จะเสียสละทำงานให้กับชาติบ้านเมือง เสียสละได้แม้กระทั่งการเมืองใหม่ ต้องไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเขาเลือกเข้าไปเป็น ส.ส.ทำหน้าที่ร่างกฎหมายตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ไม่ได้เลือกให้ไปกัดกันเพื่อแย่งกันเป็นรัฐมนตรี การเมืองใหม่ต้องซื่อสัตย์ ก็ที่เราสู้กันมาทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะทักษิณ และระบอบทักษิณที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และราชบัลลังก์ ที่ตายไป 8 คน บาดเจ็บ 700 คน ไม่ใช่เพราะว่าการเมืองในรัฐสภาไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนหรือ สุดท้ายการเมืองใหม่คือความกล้าหาญ กล้าหาญที่จะตัดสินใจทุกอย่างบนพื้นฐานของ จริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม ทั้งหมดนี้คือความถูกต้อง ซึ่งฝังอยู่ในหัวใจของพี่น้องชาวใต้ การเมืองเกิดขึ้นการต่อสู้เกิดขึ้นทุกครั้ง จากพลังชาวใต้และคนภาคตะวันออก”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ผมเป็นผู้จักเทียนคนแรก คนที่กล้าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้พ่อแม่พี่น้อง แล้วให้เกิดเทียนเล่มต่อๆ ไป มารวมกันกลายเป็นเทียนเล่มใหญ่ กลายเป็นแสงสว่างที่ไล่ความมืดมิดออกไป แต่ต้องไม่ลืม อย่างที่พี่สมศักดิ์ว่า การเมืองไม่ได้สิ้นสุดลงที่193 วัน ที่เราแยกย้ายกันกลับจากสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และทำเนียบรัฐบาล ไม่ใช่การเมืองเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง เราออกมาสู้ เราไม่ได้สู้เพื่อสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำทั้งหมด
“แกนนำทั้งหมดนี้อายุ 60 กว่าปีแล้ว อีกไม่กี่ปีก็จะตายแล้ว ไม่ได้หลงใหลในลาภยศ แต่ต้องการทำสิ่งผิดให้ถูก อย่าทำตัวเป็นกลาง เหมือนพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ มันจะน่ารังเกียจตรงไหน ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่พันธมิตรสู้มานั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง มีข้อไหนบ้างที่สู้มาแล้วไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ลุกขึ้นมาบอกว่าอยู่ตรงกลาง ไม่ใช่เสื้อแดงไม่ใช่เสื้อเหลือง มีข้อไหนบ้างที่ไม่ถูกต้อง พอมีอำนาจก็กลัวว่าไปกระทบกระเทือนฝั่งนี้ ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย
“พันธมิตรฯ เลือกข้างมานานแล้ว เราไม่เคยอยู่ตรงกลาง และข้างที่เราเลือกคือความถูกต้อง เมื่อเราเลือกข้างที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง ทำไมจึงไม่ยอมรับ ว่าสิ่งที่เราทำ ข้างที่เราเลือก คือสิ่งที่ท่านอยากทำ และเป็นข้างที่ท่านอยากเลือกเช่นกัน พันธมิตรฯ บอกมาตั้งนานแล้วว่าพระกับโจรอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าการเมืองบังคับ ต้องเอาโจรมานั่งในเรือด้วย เราจะให้เวลาคุณ ทำให้โจรกลับใจได้หรือไม่ พี่น้องก็รู้ว่าโจรกลับใจได้หรือไม่ได้ แต่เราก็จะรอดู
ต่อจากนี้ไป ถ้ามีกรณีใดที่เราคิดว่ารัฐบาลไม่มีจริยธรรมในหลายๆ เรื่อง เช่นเรื่องตำรวจ ถ้ารัฐบาลไม่จัดการให้เด็ดขาด เชื่อว่าแกนนำพันธมิตรฯ ก็พร้อมที่จะเป่านกหวีดอีกครั้ง เป็นการเป่านกหวีดเพื่อรวมคนไปแสดงพลังให้เห็นว่าพวกเรายังอยู่กันแน่นหนา และกำลังรอคำตอบเขาอยู่ ถ้าวันนั้นเราต้องเป่านกหวีดเพื่อไปแสดงพลัง พี่น้องพร้อมรึเปล่า”
“เมื่อศึกสงบ พวกผมก็มีสงครามต้องขึ้นศาลกันต่อไป วันพรุ่งนี้ก็มีหมายกำหนดการไปพบอัยการ เรื่องกรณีที่เขาเล่นงานแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งหมด และยังมีอีกหลายจะต้องขึ้น ที่บอกกล่าวไปนี้ต้องการเล่าให้พี่น้องฟัง ว่าศึกสงครามที่สู้นั้น ถ้าเราไม่หนักนั้น ถ้าเราไม่ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง เราจะอยู่ได้ไหม
ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้เห็นคนที่นอนกับดินกินกับทราย กลุ่มหนึ่งมาจากกระบี่ กลุ่มข้างมาจากบุรีรัมย์ ติดกลับกลุ่มบุรีรัมย์มาจากนครสวรรค์ และต่อไปก็มาจากเชียงราย เชียงใหม่ พูดภาษาเดียวกันไม่มีเสื้อแดงเสื้อเหลือง อุดมการณ์รักชาติเหมือนกันหมด มีภราดรภาพในความเป็นพี่น้อง ไม่ว่ามาจากภาคไหน คนอีสานเอาข้าวเหนียวเอาไก่ย่าง คนกระบี่ก็เดินไปเต้นท์สุราษฎร์ฯ ขนอาหารใต้ไปฝากพี่น้องชาวเหนือและอีสานได้กินกัน
“เรานั่งกันไม่มีแบ่ง ว่านี่คือเชียงใหม่เชียงราย นี่คือบุรีรัมย์ นี่คือนครสวรรค์ นี่คือกระบี่ อะไรที่ทำให้ชาติไทยต้องแบ่ง ที่ชาติไทยต้องแบ่งเพราะมีคนชั่ว มันหมายจะกลืนชาติไทย แล้วหลอกคนทั่วประเทศ หลอกคนส่วนใหญ่ได้ที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่มันหลอกเพียง 3 คนเท่านั้นทีภาคใต้ คือ ไอ้ 3 เกลอหัวขวด นอกจากนั้น คนใต้ไม่เคยถูกมันหลอกเลย
“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีโชค คนรักชาติสุดๆ ก็คือคนใต้ แต่คนเหี้ยสุดๆ ก็คนใต้เหมือนกัน แต่โชคดีที่คนรักชาติสุดๆ มี 97% คนเหี้ยสุดๆ มีแค่ไอ้ 3 เกลอหัวขวด ผมรู้ว่าพี่น้องเจ็บปวดกับคนชื่อ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร และวีระ ผมรู้ว่าพี่น้องเจ็บปวด ผมเห็นใจ จตุพร น่าเปลี่ยนชื่อเป็น จตุรพิษ พรหมทักษิณ คนถามผมว่าทำไมคนใต้รักชาติมากจริงๆ แต่มี 3 คนหลุดมาได้อย่างไร ผมก็บอกไปว่า ทำไมอีสานมีพระอริยสงฆ์มากที่สุดในประเทศไทย แต่ทำไมคนอีสานจึงได้ถูกหลอกเยอะที่สุดในประเทศไทยเช่นกัน”
นายสนธิ เตือนชาวเกาะพะงันว่า จนแค่ไหนอย่าขายที่กิน แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องขายของกิน แต่เวลาขายของกิน ต้องคิดถึงสติและมีปัญญา การเป็นคนเกาะพะงันนั้น มีสิทธิพิเศษที่ไม่ต้องไปแย่งอากาศกันหายใจอย่างคน กทม. มีสิทธิพิเศษไม่ต้องเจอใบหน้าบึ้งตึง คนขับรถที่กวนประสาท มีสิทธิพิเศษไม่ต้องเจอตำรวจที่รีดไถ พี่น้องชาวพะงันไม่ใช่คนโง่ ลูกหลานมีการศึกษากลับมาพัฒนาที่ดิน ค่อยๆ ทำจากเล็กไปสู่ใหญ่ ทำแบบพอเพียง พอกิน มีความสุข ไม่ใช่ขายที่ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เล่นการพนัน เราต้องเรียกร้องคุณธรรมจริยธรรมกลับมา และต้องรักษาสิ่งดีๆของเกาะพะงันไว้
“วันนี้ประชาชนกำลังเรียกร้องคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม หรือที่เรียกว่าการเมืองใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องเก่าที่เราละลืมไป ความเอื้ออาทร ความมีสำมาคารวะ รู้จักที่ต่ำที่สูง รู้ว่าความถูกต้องคืออะไร ที่เราสู้จนชนะมาทุกวันนี้เพราะเราเอาธรรมนำหน้า มีเรื่องอะไรบ้างในโลกนี้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยธรรม ชีวิตมีแต่ความว่างเปล่า แต่ถ้าเราทำงานเพื่อแผ่นดินเพื่อชาติบ้านเมือง นั่นคือบุญกุศลที่จะอยู่กับเรา พ่อแม่ ลูกหลานและบรรพบุรุษ ที่พี่น้องลุกขึ้นมาสู้ก็เพื่อที่จะเรียกร้องความเป็นมนุษย์ให้กลับมาสู่สังคมไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่สังคมไทยได้กลายเป็นครึ่งสัตว์ครึ่งคนไปแล้ว พวกเราคือคนปกติในสังคมที่ไม่ปกติ ที่เราปกติเพราะรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก ไม่เชื่อลองดูไอ้สรยุทธ์ นั่นคือคนบ้า แต้มันก็คิดว่าเราบ้า เสื้อแดงความชั่วความเลวมีตลอดเวลา วันนี้ ขวัญชัย ไพรพนาออกมาให้สัมภาษณ์อย่างน่าตาเฉย ว่าขอพบเจ๊แดง ไปขอวางบิลที่ต่อสู้มานาน”
นายสนธิ กล่าวอีกว่า วันหนึ่งในอนาคตหากพี่น้องประชาชนต้องเลือกระหว่างประชาธิปัตย์กับพันธมิตร ถ้าเลือกพันธมิตรฯ ตบมือหน่อย
“ผมเพียงจะส่งสัญญาณไปบอกนักการเมืองภาคใต้ว่าอย่าทรยศคนใต้ เพราะคนใต้ในวันนี้ไม่ใช่คนใต้ในอดีตอีกแล้ว คนใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไป คนใต้มีปัญญา รู้ทันการเมืองแล้ว มาหลอกกันไม่ได้ พี่น้องมีภารกิจยิ่งใหญ่ ที่ได้จากเวทีพันธมิตรฯ ขยายออกไปว่า ที่สุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่า เนวิน ชิดชอบ มีบุญคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ คุณคิดอย่างไร ให้ถามไปเรื่อยๆ จะได้รู้กันว่า ส.ส.ใต้ เคารพเนวินเป็นพ่อ ที่พูดไม่ได้ให้เกิดความแตกแยก แต่พูดเพื่อเตือนสติ เพราะมี ส.ส.ใต้จำนวนไม่น้อยอึกอัดใจกับเรื่องนี้มาก”
นายสนธิ บอกอีกว่า พวกตนเหมือนขุนพลที่นำทัพ โดนหอกโดนดาบ โดนธนู ต้องไม่แสดงออกว่าเจ็บ ว่ากลัว
“ทำไมคนใต้รักผม ไม่ใช่เพราะผมเป็นเขยคนใต้อย่างเดียว แต่เป็นเพราะคนใต้ชอบคนนักเลง คำไหนคำนั้น มีสัจจะ ตายเป็นตาย เป็นคนจริงที่ซื้อไม่ได้ นี่แหละสันดานคนใต้ คนใต้รักใครรักจริง วันหนึ่งหากถูกหลอกก็จะเกลียดจริงเหมือนกัน วันนี้เมื่อคนใต้ตื่นตัวแล้ว อย่ามัวนั่งเหม่อ เร่งขยายปัญญาต่อไปเรื่อยๆ ผมเกิดมาได้เพราะคนใต้สนับสนุน ตั้งแต่ปี 48 ชุมนุมกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า คนใต้ที่อยู่กรุงเทพ เข้าไปช่วยผม ผมขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกาะพะงันหลวงพ่อแดง ว่า สนธิ ลิ้มทองกุล จะไม่ทรยศต่อคนใต้เด็ดขาด รับรองได้ถึงแม้เป็นแค่เขยคนใต้ก็ตาม ยืนยัน หนักแน่น มั่นคง กว่านักการเมืองคนใต้หลายๆ คนก็แล้วกัน
“ทำไมพี่น้องต้องปกป้องเอเอสทีวี ถ้าผมหยุดเอเสทีวีผมไม่เดือดร้อน แต่คนเดือดร้อนคือชาติบ้านเมือง เพราะเอเอสทีวีเป็นของคนทั้งประเทศ ต้องรักษาเอาไว้ ดั่งชีวิตของพี่น้องเอง เพราะนั่นคือแหล่งความรู้และขุมปัญญา พี่น้องคนใต้ช่วยเอเอสทีวีมาตลอด อะไรที่เอเอสทีวีเอามานำเสนอและโฆษณา ก็จะได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพันธมิตรฯ วันนี้พี่น้องคือครอบครัวของพันธมิตรฯ เพราะเอเอสทีวี เป็นสายใยที่จะเชื่อมโยงพันธมิตรฯ เป็นครอบครัวเดียวกัน ทำให้เกิดการเมืองใหม่ การเมืองใหม่จะเกิดไม่ได้ หากพี่น้องไม่ให้ความร่วมมือ ผมอยากเห็นการเมืองใหม่และผมรับรองว่าพี่น้องจะได้เห็นการเมืองใหม่ภายในปีนี้ การเมืองใหม่จะต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ และกล้าหาญ”
นายสนธิ กล่าวในตอนท้ายว่า ขอขอบคุณพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัดที่มาฟังแกนนำพูด จ่ายเงินค่าเดินทางเอง บริจาคด้วย สิ่งที่ทำวันนี้ มันเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง
“มีคนถามผมว่าไม่เป็นห่วงเหรอที่พันธมิตรฯ 70% เป็นผู้หญิง ผมจึงบอกเขาไปว่า ผู้หญิงคือเจ้าโลก สามารถสั่งการได้ทุกอย่าง ประเทศอยู่รอดมาได้เพราะผู้หญิง พี่น้องอย่าทิ้งซึ่งกันและกัน ผมจะไม่มีวันทิ้งพ่อแม่พี่น้อง เชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่ทำ และเชื่อว่าพี่น้องก็จะไม่มีวันทิ้งแกนนำพันธมิตรฯ ตราบใดที่แกนนำพันธมิตรฯยังยึดมั่นใจจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม”นายสนธิกล่าว