xs
xsm
sm
md
lg

อภิสิทธิ์สั่งสาง5คดีใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"อภิสิทธิ์" เรียก "ธานี-อัศวิน" เร่งสางคดีที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้ง"คดีทนายสมชาย-ฆ่าชิปปิ้งหมู-สังหารนักการทูตซาอุฯและนักธุรกิจซาอุฯที่เชื่อมโยงกับคดีเพชรซาอุฯ และคดีชาวอังกฤษถูกยิง" ปัดปูทาง "อัศวิน" ขึ้นเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอ โยน รมต.ต้นสังกัดพิจารณา ขณะที่ 2 นายตำรวจมือปราบ พร้อมลุยสอบทุกคดีอย่างตรงไปตรงมา "อัศวิน" ย้ำนายกฯไม่เคยพูดเรื่องให้ไปคุมดีเอสไอ ด้าน รมว.ยุติธรรม เร่ง ดีเอสไอปิดคดี "เทพเทือก" ประชุม ก.ตร.นัดแรกยังไม่ปรับย้ายใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้ (21 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ฝ่ายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม 2 พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลนาน 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี และ พล.ต.ท.อัศวิน เข้าคลี่คลายคดีสำคัญ 5 คดีที่ยังไม่คืบหน้า ประกอบด้วย คดีการหายตัวไปของ นายสมชาย นีละไพจิต อดีตประธานชมรมกฎหมายมุสลิม คดีการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียที่เชื่อมโยงกับคดีเพชรซาอุฯ คดีการสังหารนักการทูตซาอุฯ คดี
ชิปปิ้งหมู และคดีที่สถานทูตอังกฤษ ร้องขอให้สอบคดีชาวอังกฤษถูกยิงเป็นอัมพาตที่หัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ (อ่านย้อนรอยพลิกแฟ้ม5คดีดัง)
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การเรียก พล.ต.อ.ธานี และ พล.ต.ท.อัศวิน เข้าพบ เพราะมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการร้องเรียนเรื่อง สิทธิมนุษยชน การแก้ไขปัญหาภาคใต้ และคดีที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงได้เรียนถามไปว่าคดีในประเด็นเหล่านี้ยังดำเนินการอยู่หรือไม่ เพราะถ้าปล่อยทิ้ง
ค้างไว้จะเป็นปัญหา และเป็นปม ในการแก้ไขปัญหาในภาพใหญ่ยากขึ้น จึงอยากให้ พล.ต.อ.ธานี และ พล.ต.ท.อัศวิน ไปร่วมกันดำเนินการ และถ้าต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน เพื่อให้งานมันเดินต่อได้ ก็ให้บอกมา ซึ่งทั้ง 2 จะมีการรวบรวมข้อมูล

สั่ง"ธานี"ลุยสางคดีสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่แล้วให้ พล.ต.อ.ธานี เป็นแม่งานดูแล 5 คดีใหญ่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงขึ้นอยู่กับแต่ละคดี เพราะอยู่คนละที่กัน
ส่วนมีการรายงานถึงปัญหาอุปสรรคการดำเนินคดีหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตี กล่าวว่า ได้รายงานมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา มีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง ก็จะแก้ไขให้ อย่างเช่นคดีของนายสมชาย พบว่ามีปัญหาอยู่ 2-3 จุด ขออนุญาตไม่เปิดเผย รวมถึงปัญหาด้านเทคนิคก็มี
ผู้สื่อข่าวถามว่าเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถเร่งรัดให้คดีได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องเร่งรัดให้ปรากฎออกมา เพราะต้องการให้เห็นว่าเราสามารถ บังคับใช้กฎหมายสร้างความเป็นธรรมได้ เมื่อถามว่าแต่ละคดีปล่อยไว้นานมาก การรื้อฟื้นจะทำได้มากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่นานถึงขั้นเป็นอุปสรรคในการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ได้
ส่วนคดีเพชรซาอุฯ ซึ่งผ่านมาหลายรัฐบาลไม่เห็นคืบหน้าอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้น่าจะเป็นคดีของนักธุรกิจ ซึ่งได้ทราบอุปสรรคอยู่ และก็จะแก้ไขไป ซึ่งรัฐบาลอยากจะให้ได้ข้อยุติ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องซึ่งค้างคาใจกันอยู่ ส่วนที่เลือก พล.ต.อ.ธานี กับ พล.ต.ท.อัศวิน มาทำคดีเพราะได้สอบถามภายในทราบว่าทั้ง 2 เคยทำคดีเหล่านี้ และพอทราบเรื่อง คุ้นเคยพื้นที่กับเหตุการณ์จึงได้เชิญมา ต่อข้อถามว่า ได้ย้ำให้ดำเนินคดีอย่างไร เพราะบางคดีไปเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้าม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องตรงไปตรงมา ไม่กลั่นแกล้งใคร ไม่ละเว้นใคร อยู่ที่ข้อเท็จจริง

ยันยังไม่พูดเรื่องเด้งอธิบดีดีเอสไอ

ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นอุปสรรค ในการทำงานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดอย่างนั้น เมื่อถามว่า มีการมองกันว่าการให้พล.ต.ท.อัศวิน เข้ามาเพื่อเป็นบันไดไปสู่ตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดเรื่องตำแหน่งเลย ตนได้สอบถามข้อเท็จจริงว่า ได้มีการดำเนินการนคดีต่างๆ ก้าวหน้าไปมากน้อยแค่ไหน ติดขัดอะไร ไม่ได้พูดเรื่องตำแหน่ง
สำหรับการเปลี่ยนตัวอธิบดีดีเอสไอนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีการพูดเรื่องตำแหน่งเลย และการโยกย้ายขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลแต่ละหน่วยงาน

ธานีไม่หนักใจลุยคดีค้างเก่า

ด้าน พล.ต.อ. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามความคืบหน้าคดี ทนายสมชาย นีละไพจิต คดีเพชรซาอุฯและฆ่านักการทูตซาอุฯ โดยกล่าวว่า ขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรีเอง อย่างไรก็ตามคดีการหายตัวไปของทนายสมชาย ดีเอสไอดำเนินการอยู่แล้ว โดยนายกฯได้กำชับขอให้ช่วยดูแลคดีดังกล่าว ซึ่งตนก็ต้องทำคดีต่อไปไม่หนักใจอะไร เพราะการทำงานต้องมีปัญหาอุปสรรคบ้าง ส่วนจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนตนยังตอบไม่ได้
ส่วนที่ผ่านมาคดีที่ทำมีความคืบหน้ากี่เปอร์เซ็นต์ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ที่ต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ความจริงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่หยุด ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ต้องสอบสวนอีกมากมาย เวลานี้เขาทำอยู่

"อัศวิน"ปัดถูกทาบนั่งอธิบดีดีเอสไอ

ด้านพล.ต.ท. อัศวิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนเป็นผู้ช่วย พล.ต.อ.ธานี ในการติดตามคดีต่างๆ ที่ยังค้างคาหลายเรื่อง เพื่อให้มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตามตนขอปฏิเสธต่อกระแสข่าว จะให้ตนดำรงตำแหน่งอธิบดี ดีเอสไอ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ตนไม่ทราบว่าข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีที่จะให้ติดตามมีคดีอะไรบ้าง พล.ต.ท. อัศวิน กล่าวว่า คดีทนายสมชาย คดีเพชรซาอุฯและการสังหารนักการทูตซาอุฯ คดีชิปปิ้งหมู รวมไปถึงคดีที่สถานทูตอังกฤษ ร้องขอให้สอบคดี ชาวอังกฤษที่ถูกยิงที่หัวหิน นอกจากนั้นยังมีคดีอื่นๆ 4-5 คดี ส่วนที่ว่าจะตั้งคณะกรรมการพิเศษติดตามเฉพาะ ่นั้น ตนคิดว่า คงไม่
ต้องเพราะเป็นคดีเก่า ซึ่งดีเอสไอ รับผิดชอบอยู่แล้ว และทาง พล.ต.อ. ธานี ยังเป็นกรรมการของดีเอสไอด้วย สามารถติดตามได้เลยทันที

ยอมรับสางคดีค้างเก่าไม่ง่าย

สำหรับคดีการหายตัวของทนายสมชายผ่านมานานแล้วจะสามารถหาหลักฐานยากหรือไม่นั้น พล.ต.ท. อัศวิน กล่าวว่า จะว่ายากก็ยาก แต่อยู่ที่ความจริงใจ ในการหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่การหาหลักฐานคงไม่ง่าย เปรียบเหมือนการงมของ ในน้ำ ถ้าโชคดีก็งมเจอ โชคไม่ดีก็ไม่เจอ เมื่อถามว่า เป็นเพราะนโยบายรัฐบาลชุดก่อน หรือไม่ที่ทำให้มีปัญหาไม่คืบหน้า พล.ต.ท. อัศวิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าตนเข้ามารับผิดชอบจะทำงานเต็มที่ ส่วนจะทำได้ขนาดไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ต่อข้อถามว่ามั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายการเมืองจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงาน พล.ต.ท. อัศวิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าให้ทำทุกอย่างตามเนื้อผ้า ว่ากันไปตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่มีอยู่ ฉะนั้นเรื่องนี้คงไม่มีอะไรติดขัด ตนเชื่อว่า ทำได้แค่ไหน แค่นั้น จะพยายามทำ ให้ความมั่นใจว่าทุกคดีสามารถปิดคดีได้ แต่ต้องยอมรับว่า คดีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีชิปปิ้งหมูเกี่ยวโยงกับความมั่นคงอย่างไร พล.ต.ท. อัศวิน กล่าวว่า ตนไม่ใส่ใจว่าจะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตนจะทำหน้าที่ในฐานะตำรวจเหมือนตอนที่ตนถูกย้ายจาก ผบช.น.ไปช่วยราชการประจำ ตนถือว่า ตนทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว สิ่งใดที่เชื่อว่าเป็นเรื่องถูกต้องก็จะทำ หากใครมาสั่งให้ทำอะไรที่ไม่
ถูกต้องก็ไม่ทำจะทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น

"พีระพันธุ์"เร่งดีเอสไอ ปิดคดี

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีทนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้รื้อฟื้นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงและสิทธิมนุษยชนและให้เร่งดำเนินการว่า ตนไม่ได้เข้าร่วมการหารือจึงไม่ทราบรายละเอียด แต่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ที่ผ่านมาได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดี ดีเอสไอ ให้เร่งปิดสำนวนคดีสำคัญที่กระทบต่อความมั่นคง รวมถึงคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งคดีการหายตัวไปของ นายสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งมี พล.ต.อ.ธานี เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้รับรายงานว่าคดีมีความคืบหน้า แต่ยังขาดพยานหลักฐานสำคัญ ซึ่งคดีนี้ใช้เวลา ในการสอบสวนยาวนาน จนอาจเป็นปัญหาในด้านการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ จึงได้กำชับ
ให้เร่งสอบสวนคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ไม่ว่าจะมีผลคืบหน้าอย่างไร ก็ต้องปิดสำนวนคดีให้ได้
สำหรับคดีฆ่าอุปทูตซาอุฯ และการหายตัวไปของนักธุรกิจชาวซาอุฯ นั้น พ.ต.อ.ทวี ได้เดินทางไปประสานขอความร่วมมือกับประเทศซาอุฯ เป็นระยะๆ โดยคดีมีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน แต่ก็ยังไม่สามารถปิดสำนวนคดีได้ อย่างไรก็ตาม คดีนี้จะขาดอายุความลงภายในปี 2553 ดังนั้นภายหลังการปรับระบบการทำงานในกระทรวง
ยุติธรรม และมีการแต่งตั้งคณะทำงาน 8 คณะขึ้นมา ช่วยงานในสำนักงานรัฐมนตรี ตนจะเรียกข้อมูลคดีสำคัญมาเร่งรัดอย่างจริงจังอีกครั้ง

ดีเอสไอแจงคดี"ทนายสมชาย"

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ จ.ราชบุรี เพื่อเก็บหาหลักฐานในคดีนายสมชาย และมีการนำชิ้นส่วนกระดูกไปตรวจหาดีเอ็นเอหลายครั้ง แต่ผลไม่ตรงกับดีเอ็นเอของ นายสมชาย อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวขาดประจักษ์พยาน มีแต่พยานแวดล้อม ดีเอสไอ จึงพยายามรวบรวมหลัก
ฐานประกอบคดีให้ได้มากที่สุด ล่าสุดได้ส่งถังเหล็กที่จมอยู่ ในแม่น้ำแม่กลองไปให้องค์กรในต่างประเทศวิเคราะห์ว่าถังถูกทิ้งในช่วงเวลาใด ใกล้เคียงกับช่วงที่นายสมชายหายตัวหรือไม่ ทั้งนี้ พล.ต.อ.ธานี จะเป็นผู้รับผิดชอบงานสืบสวนของชุดสืบสวนทั้งหมด

"สุเทพ"ยังไม่ย้ายตำรวจ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร. ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุมโดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
นายสุเทพ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุม ก.ตร.ครั้งแรกโดยพิจารณากฎเกณฑ์ให้ความดีความชอบ ลงโทษหรือโยกย้าย เป็นเรื่องทั่วๆ ไป ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ ส่วนข่าวลือต่างๆ ว่ามีการฝากเด็กจากนายกรัฐมนตรี หรือพันธมิตรฯมาดำรงแหน่งสำคัญนั้น ไม่มีเรื่องเหล่านี้ สื่อต้องไม่เล่นข่าวลือ ไม่มีใครส่งใครมา
เรื่องแบบนี้ไม่มีในหัวสมองตนแน่นอน ขอให้ดูการทำงานจะตอบคำถามชี้แจงสื่อทุกอย่าง

ไม่ได้ส่ง"อัศวิน"คุมดีเอสไอ

ส่วนข่าวที่ว่ารัฐบาลจะให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. มาดำรง ตำแหน่งแทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดี ดีเอสไอนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า นี่ก็เป็นตัวอย่างของข่าวลือ เราไม่ควรเอามาใส่ใจ และในชีวิตเท่าที่จำได้ก็ไม่เคยคุย กับ พล.ต.ท.อัศวิน เลย ส่วนการโยกย้ายนายตำรวจระดับนายพลก็ไม่มีแผนอะไร เพราะตำรวจ
มีกฎเกณฑ์ กติกาอยู่แล้ว ยกเว้นเรื่องที่มีปัญหาก็จะมาทบทวนกัน
"ผมได้คุยกับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อยากทราบคดีที่ท่านดำเนินการอยู่ ให้รายงานให้ทราบไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นคดีใด และไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่นายกรัฐมนตรีเรียก พล.ต.อ.ธานี ไปพบ นอกจากนั้นผมยังได้ถามผู้ที่รับผิดชอบคดีที่เกี่ยวข้อง กับกลุ่มพันธมิตรฯว่าได้ดำเนินการอะไรบ้าง กี่คดี มีความคืบหน้าเพียงใดพร้อมให้ พล.ต.อ.พัชรวาท รายงานให้ทราบ ซึ่งหากผมได้รับรายงานก็จะเรียนให้ทราบกันต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น